๖.๓ ดอกรักสีชมพู
เตชินท์ประคองร่างบางให้นอนราบลงไปตามความยาวของโซฟา ส่วนตัวเขาขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาของเธอ มือจับปลีน่องขาเรียวยกขึ้นวางบนบ่าทั้งสอง ทำให้สะโพกผายยกลอยขึ้นจากพื้นโซฟา และเตชินท์ไม่รอช้า เคลื่อนตัวเองเข้าหากระทั่งแก่นผงาดแข็งครัดจ่อกระทบกับปากปล่องของภูเขาไฟแสนฉ่ำ ชายหนุ่มก็แอ่นเอวส่งตัวตนเข้าในสุดแรงเธออีกรอบ
“พี่เต...พี่เตขา...หนูดี...ซี๊ดดด...อูววว์”
หญิงสาวห่อปากครางกระเส่าเมื่อคนรักแอ่นดันบั้นเอวส่งแก่นชายแกร่งโชนแหวกกลีบกุหลาบนารีผลุบหายเข้ามาในเธอเกือบทั้งหมดในคราเดียว
“ซี้ดด...ฟิตจริงๆ หนูดี...อูยยย”
ปากเขาพร่ำเพ้อครวญครางอย่างสุขสม แต่ไม่มีคำไหนที่บอกว่ายกโทษให้เธอแล้ว อนุรดีจึงต้องเป็นฝ่ายง้อต่อเนื่อง ทั้งที่อยู่ในภาวะเสียวสยิวมากที่สุดในชีวิต
“ดีกันเถอะนะคะพี่เตที่รัก หนูดียอมแล้ว ยอมทุกอย่าง” เธออ้อนด้วยเสียงหวานกระเส่า ใบหน้ากระสับกระส่ายไปมาเพราะความกระสันซ่าน
“บอกพี่มาว่าจะเจ้าชู้อีกไหม”
“หนูดีเปล่าเจ้าชู้ หนูดีแค่อยากให้พี่เตหึง”
“พี่ก็หึงสมใจแล้วนี่ไง อูววว์ พี่ต้องไปแล้ว ไปกับพี่นะที่รัก ไปพร้อมพี่”
สะโพกสอบห่มโหมแรงเร่งเร้าสอดประสาน ส่งความแกร่งโชนโยกโยนเข้าโยกออกๆ แบบนับจังหวะไม่ทัน ร่างอ้อนแอ้นแอ่นสะโพกรับ ปากครางเสียงซี้ดๆๆ แบบเสียวสยิวสุดตัว
“พี่เต...พี่เตขา...หนูดีเสียว…โอววว...”
อนุรดีหอบหายใจหนักหน่วง เสียงครางระบายความเสียดเสียวพร่างพรูออกมาไม่ขาดปาก เตชินท์ก็ยิ่งเร่งผลักดันตัวเองดุดันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
เสียงกระแทกของเนื้อต่อเนื้อดังต่อเนื่อง ภายในของอนุรดีปั่นป่วนไปหมด เธอสยิวกายรุนแรงกับเสียวสุขที่ได้รับ หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นทำนบกั้นน้ำ ที่ถูกความแรงของระลอกคลื่นสาดซัดใส่โครมๆ ลูกแล้วลูกเล่า จนในที่สุดทำนบแสนเปราะบางนั้นก็พังทลาย ธารธาราที่กักเก็บเอาไว้ หลั่งล้นออกมาจนเนืองนองไปหมด พร้อมๆ กับที่ความสุขสมแบบใหม่มาเยือนเป็นครั้งแรกในชีวิตสาว
อารมณ์ของเตชินท์เองก็งวดขึ้นๆ เช่นกัน เพราะถูกความนุ่มหยุ่นจากการไปถึงของเธอบีบกระชับจนรวดร้าว ใบหน้าหล่อเหลาเหยเก ก่อนจะตะโกนดังลั่นออกมาในเวลาไล่เลี่ย ในจังหวะที่โจนจ้วงตัวเองลงลึกเป็นครั้งสุดท้าย ฝังค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความสาวแน่นนุ่มโอบรัดรีดเร้น จนความสุขสมตูมใหญ่ระเบิดออกมาเป็นสายธารอุ่นซ่านอยู่ภายในเธอ
มือใหญ่ปลดลำขาเรียวลงจากบ่า ทว่าดูเหมือนอนุรดียังไม่อยากเป็นอิสระ ขาทั้งสองจึงตวัดรัดเอวสอบไว้แน่น เตชินท์เองไม่ได้คาดคิดกับปฏิกิริยาเช่นนี้ของแฟนสาว แต่เขาก็รับมือทันและรู้ว่าควรต้องทำเช่นไร ร่างใหญ่โน้มตัวลงไปหา ประกบปากกันแนบแน่น พร้อมกับตอกอัดสะโพกลงกลางกลีบกุหลาบนุ่มต่อเนื่องอีกพักใหญ่ และพาเธอทะยานไปสู่วิมานฉิมพลีแสนงดงามอีกรอบ เขาจึงใช้มือกอบกุมเข้าที่แก้มก้นงอนงามจับพลิกให้ตัวเองลงไปนั่งด้านล่าง ส่วนร่างบางตอนนี้ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา โดยที่สองกายยังไม่ได้แยกจากกันแต่อย่างใด
“เยี่ยมจริงๆ มันส์สุดๆ เลยว่าไหมเมียจ๋า”
ถ้อยคำดิบๆ ตรงๆ หลุดออกมาอย่างยั่วเย้า หลังจากเพลงกามเทพอันร้อนแรงแบบสุดๆ จบลงไป มือใหญ่ช้อนอยู่ใต้สะโพก ส่วนอนุรดีโอบกอดรอบคอเขาไว้ ตาคู่สวยที่ยังเจือด้วยพิษพิศวาสมองใบหน้าคมคร้ามอย่างเขินๆ แต่เต็มตื้นในใจแบบยากจะอธิบาย เมื่อเขาเรียกแบบสนิทสนมเกินกว่าฐานะแฟน
“ทำไมเรียกหนูดีแบบนั้นคะ”
“ก็หนูดีเป็นเมียพี่แล้ว หรือจะเถียง ถ้าเถียงพี่จะได้ตอกย้ำอีกหลายๆ รอบ พี่สุดโปรดเลยละถ้าได้ ‘ตอก’ และ ‘ย้ำ’ แบบเมื่อกี้”
เขาขยับสะโพกเด้งเสยขึ้นเบาๆ เพื่อใช้เป็นท่วงท่าประกอบคำพูดโดยที่ไม่จำเป็นสักนิด อนุรดีซ่านสุขและอบอุ่นสุดๆ เมื่อมีเขาสอดซุกอยู่ในเธอเช่นนั้น เขายังแข็งแกร่งส่วนเธอก็ยังโอบกอดรัดรึงเขาด้วยความอ่อนนุ่ม มันทำให้รู้สึกว่าเธอกับเขาเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
“ถ้ารู้ว่าพี่เตจะหยาบและเถื่อนแบบนี้ หนูดีคงไม่ยอมคบด้วยหรอก” อนุรดีหาเรื่องต่อว่าเขาเป็นการแก้ความเขินและกระดากของตัวเอง
“หนูดีห้ามใจตัวเองไม่ได้หรอก หนูดีชอบคนหยาบๆ เถื่อนๆ แถมเอาเก่งแบบพี่ไปแล้ว”
“นอกจากหยาบและเถื่อนแล้ว พี่เตยังหลงตัวเองด้วย”
“โกรธพี่หรือเปล่า”
