๕.๑ จองแล้วนะ หวงมากด้วย
๕
จองแล้วนะ หวงมากด้วย
และแล้ววันแห่งการรอคอยอันแสนทรมานก็สิ้นสุดลงเสียที วันนี้เป็นวันที่เตชินท์จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยเขาเลือกวันที่อนุรดีมีเรียนเฉพาะช่วงเช้า ซึ่งมีวันให้เลือกหลายวัน เพราะปีสี่เทอมสองเป็นเทอมที่อนุรดีมีวิชาเรียนน้อยอยู่แล้ว
หลังจากเรียนเสร็จ หญิงสาวขับรถบีเอ็มดับเบิลยูของเตชินท์ไปรอรับเขายังสนามบินตามเวลาที่เขาบอกไว้ล่วงหน้า ป้ายดิจิทัลขึ้นโชว์ว่าเที่ยวบินที่เตชินท์เดินทางมาได้แลนดิ้งแล้ว แต่อนุรดีก็รออยู่นานพอสมควรกว่าที่เตชินท์จะเข้ามาในอาคารผู้โดยสารขาเข้า
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงโครมคราม เมื่อเห็นร่างสูงเดินใกล้เข้ามาพร้อมกับรถเข็นกระเป๋า แม้จะเห็นหน้ากันผ่านเฟซไทม์บ่อยครั้ง แต่มันก็ไม่เท่ากับได้เจอตัวเป็นๆ ของเขาที่มีเลือดเนื้อและไออุ่นให้สัมผัสเช่นเดียวกับเวลานี้
เตชินท์ไม่ยิ้ม สีหน้าเขาเรียบเฉย แต่สายตาเขาจดจ้องมายังเธอตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อร่างสูงมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใกล้แค่เอื้อม วงแขนแข็งแรงก็ตวัดรั้งร่างบางไปกอด เป็นกอดที่แน่นแต่เพียงไม่กี่วินาทีก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ คล้ายกับทักทายกันปกติ
“อยากทำมากกว่านี้ แต่หนูดียังใส่ชุดนักศึกษาอยู่” เขาอธิบายถึงการกระทำของตัวเอง พร้อมกับคลี่ยิ้มให้เห็นเป็นครั้งแรก ตาหลุบลงมองเรียวปากนุ่มสีหวานอย่างจงใจบอกให้รู้ ว่าแท้จริงแล้วเขาอยากทำอะไรมากกว่าแค่การกอดแล้วปล่อยแบบนี้ อนุรดีทั้งวาบหวามและดีใจ เพราะไม่ว่าเตชินท์ปรารถนาจะทำอะไรมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังให้เกียรติชุดนักศึกษาที่เธอใส่อยู่ จึงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อที่อาจทำให้เธอและสถาบันของเธอเสื่อมเสียในที่สาธารณะ
“กุญแจรถค่ะ”
อนุรดีส่งกุญแจรถคืนเจ้าของ จากนั้นก็เดินเคียงข้างกันไปยังชั้นที่รถของเตชินท์จอดอยู่ รถคันหรูแล่นฉิวออกจากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าไปตามถนนที่เป็นทางเข้ากรุงเทพฯ คนขับคือชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สมส่วนหน้าตาหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน ได้หันไปมองคนนั่งข้างซึ่งเป็นเจ้าของดวงหน้าหวานใสงดงามแบบธรรมชาติให้มา และตอนนี้เธอยังเป็นเจ้าของหัวใจของเขาด้วย
“หนูดีอยากกลับบ้านเลยหรือเปล่า” เสียงหล่อทุ้มสมตัวเอ่ยถามขึ้นหลังจากมองหน้าหวานๆ นั้นแวบหนึ่ง
“พี่เตถามทำไมคะ”
“พี่หิวน่ะ”
“ถ้าหิวแวะหาอะไรกินก่อนก็ได้ค่ะ หนูดีไม่รีบหรอก”
“โอเค งั้นพี่แวะคอนโดฯ นะ อยากไปดูด้วยว่าทุกอย่างยังอยู่ดีหรือเปล่า”
“ค่ะพี่เต”
อนุรดีเออออตามเขาไปหมดอย่างไม่เรื่องมาก เตชินท์จึงหักพวงมาลัยพารถเข้าไปจอดที่คอนโดมิเนียมของตัวเอง ซึ่งอนุรดีเองไม่ได้มาที่นี่นานแล้วเหมือนกัน หญิงสาวลงจากรถและตามเขาขึ้นไปบนห้อง คิดว่าเตชินท์คงสั่งอาหารขึ้นมากินบนนี้ พร้อมกับถือโอกาสตรวจดูความเรียบร้อยของห้องไปด้วย
เตชินท์ใช้คีย์การ์ดแตะและผลักประตูเข้าไปในห้อง ร่างสูงเดินตรงไปนั่งที่โซฟาโดยไม่ได้ตรวจตราความเรียบร้อยอะไรมากนัก กลับเป็นอนุรดีเสียอีกที่มองสำรวจแทบจะทุกตารางนิ้ว เธอพบว่าห้องกว้างหรูหราห้องนี้ยังคงสภาพเดิม ความสะอาดไม่มีที่ติราวกับมีคนมาทำให้อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว อนุรดีไม่แน่ใจว่าเป็นสวัสดิการของโครงการหรือเตชินท์จ้างแม่บ้านมาดูแลให้
“พี่เตจ้างแม่บ้านทำความสะอาดห้องให้เหรอคะ หรือว่าทางคอนโดฯ เขามีสวัสดิการดูแลห้องให้ด้วย”
อนุรดีเอ่ยถามขณะเดินตามไปยังโซฟา กำลังจะนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับที่เตชินท์นั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่ทันได้นั่ง ร่างบางก็ถูกรวบลงไปนั่งบนตักของเขาแทน
“พี่เต!” อนุรดีอุทานเรียกชื่อเขา หน้าแดงซ่าน หัวใจเต้นแรงกับความใกล้ชิดซึ่งเกิดขึ้นในที่รโหฐานหลังจากห่างกันไปนานหลายเดือน
“นั่งบนนี้ดีกว่า สบายกว่า”
“ใครว่าคะ พี่เตปล่อยหนูดีได้แล้ว หนูดีหนักจะตายเดี๋ยวขาก็ชาพอดี”
