Ep.8
อนุภรรยานายมาเฟีย Ep.8
เนื้อเรื่องมีเนื้อหาและคำหยาบคาย ท่านใดไม่ชอบสามารถผ่านได้นะคะ
------------------------------------
Talk : นาเดียร์
ตอนสัมภาษณ์งานทำไมถึงได้คุ้นหน้าคนที่เป็นเจ้านายก็ไม่รู้พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แอบแปลกใจที่อยู่ๆเค้าก็ให้เราทำงานตำแหน่งเลขา ทั้งๆที่ยัยแพรวนั่นเรียนจบจากมหาลัยชื่อดังระดับประเทศ แต่กลับให้นักศึกษาฝึกงานทำ แต่ก็ช่างเหอะ โอกาสดีๆแบบนี้คว้าไว้ดีกว่าปล่อยไป ตอนนี้เรากำลังนั่งรอให้คุณหมิวสอนงาน ระหว่างรอเลยขอมาเข้าห้องน้ำก่อน เราทำธุระเสร็จก็จะรีบออกไปศึกษางานต่อ แต่…..
“”ใช้อะไรเข้าแลกล่ะ ก่อนมาสมัครเนี่ย ถึงได้เป็นเลขาโดยที่ไม่ต้องสัมภาษณ์””
เรา : ดูแล้วหน้าจะดูหนังมากไปเธอเนี่ย ฉันเพิ่งจะเจอท่านประธานที่นี่เป็นครั้งแรก อ่อ แล้วก็หยุดใช้ความคิดต่ำๆของตัวเอง มามองว่าคนอื่นเค้าจะต่ำเหมือนตัวเองนะ
แพรว : นี่แก อีตอ……
เรา : ว๊ายยย ไม่เอาสิคะ อย่าใช้คำพูดหรือพฤกติกรรมต่ำตมแบบนี้สิ เดี๋ยวท่านประธานที่ตั้งใจจะมาอ่อย เค้าจะรู้เรื่องเอานะว่าที่จริงแล้วคุณไม่เคารพการตัดสินใจของเค้า ตอนอ่านใบสมัครลืมอ่านกฎหรอ แพ้แล้วไม่พาลนะคะ รายมายยย
( รายมาย แปลว่า ลำคาญ)
เราพูดจบแล้วเดินออกมาทำทันที ไม่ใช่กลัวนะ แต่ยังไม่อยากตกงานตั้งแต่ได้งานวันแรก.......
วันนี้การเรียบรู้งาน ผ่านไปได้ด้วยดีในส่วนของงานที่เรียนรู้นะคะ ส่วนยัยเเพรวนั่นก็ยังไม่จบไม่สิ้น แต่เราไม่ได้สนใจอะไร วันนี้เราต้องไปสมัครงานที่ผับต่อ แต่ขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้ดีกว่า วันนี้ติวกลับมาจากภาคใต้ มาขอให้เราพาไปทานข้าว ตลอดเวลาที่ผ่านมาติวยังคงตามจีบเรามาตลอด รวมถึงตอนที่เกิดอุบัติเหตุเค้าก็มาคอยดูเเลตอนพักฟื้นที่บ้าน เรานั่งรอคิวอยู่ประมาณ 10 นาที ไม่นานนักรถคันนึงก็จอดด้านหน้าเรา พร้อมกับติวที่เปิดประตูออกมา
ติว : รอนานไหมครับ รถติดนิดหน่อย มาช้าเลย วันนี้ทำงานวันเเรกเป็นไงบ้างครับ...
เรา : ไม่นานค่ะ ไปกันเลยไหมคะ
ติว : ไปครับ มาติวถือให้
ติวยื่นมือมาจับมือเราแล้วคว้ากระเป๋าไปถือ ก่อนพาเราขึ้นรถ เราไม่รู้เลยว่าการกระทำของเรากับติวมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองอยู่ หลังจากขึ้นรถพี่หมิวก็โทรหาเราว่าคุณธาราเรียกพบด่วน เราถามพี่หมิวว่าพอจะทราบไหมว่าเรื่องอะไร พี่หมิวบอกว่าไม่เเน่ใจให้เรามาดูเอง
เรา : ติว พอดีงานที่เดียร์ทำน่าจะมีปัญหาอะ ท่านประธานเรียกให้กลับไปแก้ด่วน เดี๋ยวคิวรออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวเดียร์รีบมา
ติว : แต่นี่มันเวลาเลิกงานเเล้วนะ เรียกแบบนี้ไดด้วยหรอ
เรา : เอาน่ะ เดี๋ยวรีบมา
ติว : ครับๆ
ห้องทำงานธารา
เรา : ขออนุญาตค่ะ คุณธาราพี่หมิวเเจ้งว่าคุณเรียกพบค่ะ เดียร์ทำอะไรผิดพลาดหรือป่าวคะ
ธารา : มีครับ วันนี้คุณต้องไปกับผม บอกแฟนคุณให้กลับไปได้เลยไม่ต้องรอ
เรา : แต่นี่เวลาเลิกงานเเล้วนะคะ
ธารา : หรือคุณจะหางานใหม่ตั้งเเต่วันนี้ละครับ
เรา : ค่ะ ได้ค่ะ ขออนุญาตโทรบอกก่อนนะคะ แล้วคุณจะพาเดียร์ไปไหนคะ
ธารา : ไปในที่ที่คุณ ควรรับผิดชอบการกระทำตัวเอง
เรายังพูดไม่ทันจบคุณเค้าก็ลากเราลงมาที่ลานจอดรถ ตลอดทางที่เดินพนักงานพากันมองตามเเล้วพากันซุบซิบ เราได้เเต่เดินตามเเรงที่โดนลาก เพราะต่อให้พยายามยื้อก็สู้เเรงเค้าไม่ได้อยู่ดี นี่เค้าต้องการอะไรจากเรา เราทำอะไรให้เค้าไม่พอใจ เค้าเป็นเจ้านายมีสิทธิ์ทำเเบบนี้กับเราด้วยหรอ....
Talk : ธารา
วันนี้หลังเลิกงานคนของผมเเจ้งมาว่ามีผู้ชายมารับนาเดียร์ ผมเลยออกมายืนมองผ่านกระจกห้องทำงาน จับมือถือเเขนกันในที่ทำงานแบบไม่เกรงใจใคร เค้าใช้ชีวิตเเบบมีความสุข โดยที่พี่สาวผมต้องนอนเป็นผัก ไม่มีเเม้แต่จะตื่นลืมขึ้นมามองท้องฟ้า ผมทนปล่อยให้คนที่เป็นต้นเหตุให้พี่สาวผม ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เเบบนี้มีความสุขต่อไปไม่ได้จริงๆ ผมปล่อยเธอมีความสุขนานมากไปเเล้ว เธอควรรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดได้เเล้ว ผมลากเธอขึ้นรถไปยังบ้านสวนที่ใช้เป็นที่พักฟื้นของพี่ลิซ เผื่อเธอเห็นพี่ลิซ แล้วเธอจะสำนึกได้บ้าง....
นาเดียร์ : คุณธาราคะ ทำไมต้องลากคะ บอกดีๆก็ได้ เดียร์ทำอะไรผิด ทำอะไรให้ไม่พอใจ พูดออกมาได้เลยค่ะ
ผม : คุณนึกดีๆสิ ว่าคุณเคยทำอะไรเอาไว้ ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจ ถ้านึกไม่ออกก็นั่งเฉยๆ ผมจะทวนความจำให้คุณเอง
นาเดียร์ : ทวนความจำ นี่คุณกำลังจะไปเดียร์ไปไหนคะ เดียร์ไม่ไป เดียร์จะกลับบ้าน
ผม : จะกลับบ้าน หรือจะไปพลีกายให้ใคร ถ้าคุณยังไม่เงียบคุณได้พลีกายให้ลูกน้องผมเเน่
จากนั้นคนข้างๆผมก็นั่งเงียบตลอดทาง จนผมเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่บ้านสวน เธอหันมองผมด้วยเเววตาสงสัย...
ผม : ลงไป...
เธอเปิดประตูลงอย่างว่าง่าย ผมดึงเธอเข้ามาในบ้าน พาไปยังห้องที่มีพี่ลิซนอนอยู่ เธอมองพี่ลิซด้วยสีหน้าเเววตาตกใจ
นาเดียร์ : นี่ผู้หญิงคนที่ขับรถชนกับฉัน เค้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง เค้าเป็นอะไรกับคุณ แล้วทำไมเค้าถึงนอนไม่ได้สติเเบบนี้
ผม : ก็จำได้นี่ คุณไม่น่าถามว่าทำไมเค้าถึงนอนเเบบนี้ ก็คุณไม่ใช่หรอที่ทำให้พี่สาวผมต้องเป็นเเบบนี้ คุณไม่ใช่หรอที่ขับรถชนพี่สาวผม คุณไม่ใช่หรอที่เมาเเล้วขับประมาททำให้คนอื่นเดือดร้อน ตั้งเเต่วันนั้นถึงวันนี้ คำขอโทษจากคุณสักคำยังไม่เคยมีเลย จิตใจคุณทำด้วยอะไร
เธอทำหน้างงๆบวกตกใจกับคำพูดของผม
นาเดียร์ : ไม่ใช่นะคะ พี่สาวคุณต่างหากที่ออกจากซอยมาเเล้วไม่เห็นฉัน รถเราเลยชนกัน อีกอย่างฉันไม่ดื่มตอนเกิดอุบัติเหตุกับพี่สาวคุณค่ะ คุณเข้าใจผิดแล้ว กล่าวหาคนอื่นเเบบไม่มีหลักฐาน มันไม่ใช่สิ่งที่คนมีสมองเค้าทำกันนะคะ
ผม : กล้าเเถได้อีกหรอ คุณนี่มันไร้หัวใจจริงๆ หลักฐานหรอ มาสิผมจะพาไปดู
ผมลากเธอมาที่ห้องนอนชั้นบนของผมเเล้วเหวี่ยงเธอลงกับโซฟา พร้อมกับหยิบใบผลตรวจเลือด แล้วไอแพดเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้เธอดู
นาเดียร์ : นี้มันอะไรกัน ผลตรวจนี่ ภาพกล้องวงจรปิดนี่ ทำไมไม่ตรงกับเหตุการณ์จริง มันไม่ใช่เเบบนี้นะคะ คุณกำลังเข้าใจผิด
ผม : แล้วคุณมีหลักฐานไหมว่าผมเข้าใจผิด ถ้าไม่มีคุณเก็บเเรงเอาไว้ชดใช้ในสิ่งที่คุณทำเถอะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมปล่อยให้คุณมีอิสระ ทั้งๆที่พี่สาวผมต้องนอนไม่ได้สติ ชีวิตเค้ากำลังจะดี แต่คุณกลับทำให้พังลง ผมหวังว่าคุณจะสำนึกหรือมาขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง แต่จนถึงตอนนี้คุณยังไม่มีเเม่แต่จิตใต้สำนึก ผมหมดคำพูดกับคุณจริงๆ
เราใช้มือเอื้อบีบปากเธออย่างเหลืออด เธอพยายามผลักมือผมออกด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่สามารถสู้เเรงผมได้ ผมใช้ผ้าโปะยาสลบที่เตรียมไว้โปะเข้าที่หน้าเธอ ผมจะไม่เเก้เเค้นเธอที่นี่ให้เป็นราคีที่นี่หรอก เธอต้องไปทำทุกอย่างที่ไร่ของพ่อผม ที่นั่นมีเพียงลูกน้องของผมดูเเลอยู่เท่านั้น ผมจะมาทำให้เธอพูดความจริงทุกอย่างออกมา เธอจะต้องทำทุกอย่างที่ผมต้องการ แม้กระทั่งนางบำเรอของผม เธอจะต้องใช้ชีวิตเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น ต่อจากนี้ไปเธอไม่มีทางจะได้อิสระ หรือมีความสุขเเบบคนทั่วไปแน่นอน....
