บท
ตั้งค่า

02 มุมขององศา

.

.

“สวัสดีครับพี่ ผมชื่อองศา ช่วยเซ็นชื่อให้ผมหน่อยนะครับ”

“ทำไมพี่ต้องเซ็นด้วยล่ะครับน้อง พี่ไม่ได้เป็นดารา จู่ๆ จะมาให้พี่เซ็น พี่ว่า..มันคงไม่ได้”

“จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากได้ลายเซ็นพี่หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอามาทำไม”

“!”

“มันดันเป็นเกมที่พวกพี่สร้างมา ไอ้จะไม่ทำ..ก็จะมาหาว่าผมไม่ใส่ใจอีก”

“!!”

“สรุปว่าพี่จะเซ็นหรือไม่เซ็นครับ ถ้าไม่ ผมจะได้ไปหาพี่คนอื่น”

“นี่มึงกวนตีนกู..”

“พี่ควรถามตัวเองนะครับ ว่าใครกันแน่ที่กวนตีน”

“สัด..”

“ก็ถ้าพี่เซ็นให้ผมดีๆ แม่งก็ไม่มีปัญหาแล้วป่ะวะครับ”

“นี่กูเป็นพี่นะเว้ย!!”

“ก็พี่มึงเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอวะครับ”

“ไอ้เชี่ยองศามึงใจเย็นดิวะ”

“ไอ้กร มึงก็เหมือนกัน นี่มันน้อง!!”

“น้องเชี่ยไรวะ แม่งไม่มีสัมมาคารวะตั้งแต่วันแรก ไม่เห็นกูเป็นพี่ด้วยซ้ำ”

“แล้วพี่มึงเห็นผมเป็นน้องรึไงวะ ขอดีๆ ก็แค่เซ็นให้ ก็จบแล้วป่ะ จะมาเยอะเพื่อ?”

“มึงดูมัน! มันด่ากู”

“ก็มึง..”

“เอาเป็นว่าพี่ไม่เซ็น จบ ผมไปล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน!”

“ผมชื่อองศา..เผื่อพี่จำชื่อผมไม่ได้”

“#$%^&%#@! #%..”

เสียงด่าของรุ่นพี่ปีสองแม่งดังลั่นทั่วชั้นของใต้ตึกเรียน คนมุงดูเยอะเป็นแมลงวันตอมขี้ กว่าจะฝ่าวงล้อมออกมาได้ ..โคตรน่ารำคาญ

สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อองศา นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง คณะจิตวิทยา หน้าตาพอไปวัดไปวา รูปร่างดี โอเค ผมพอใจนะ ไม่อ้วนไม่ผอม มีกล้ามเนื้อแขนขาที่แข็งแรงเพราะยกลังเบียร์ลังโซดาทุกวัน ที่บ้านทำธุรกิจเล็กๆ โคตรจะเล็ก จะเรียกว่าธุรกิจก็ยังฟังดูหรูเกินไป ก็..ร้านของชำ หรือโชห่วยสไตล์บ้านๆ ขายทุกอย่างเท่าที่อยากจะขาย ทั้งน้ำหวานใส่ถุง ผงซักฟอก มาม่า ไม้จิ้มฟัน กาวดักหนู ยันลังเปล่า กระป๋องเบียร์ ขวดเหล้าขาวที่ลูกค้ากินเสร็จแล้วฝากทิ้ง เพราะมันมีมูลค่า จะบาทสองบาทแม่งก็เงิน ..ผมไม่ใช่คนดี ถ้าเจออะไรที่ขัดใจ..ผมก็จะอ่อนไหว อารมณ์ขึ้น พร้อมหาเรื่อง พร้อมชน ผมมันคนจริง ต่อยเป็นต่อย เตะเป็นเตะ เจ็บเป็นเจ็บ กลัวใครซะที่ไหน

“ไอ้เชี่ยองศา.. วันแรกมึงก็เอาเลยนะ” ไอ้โด่งตบหัวผมเบาๆ หลังเราเดินห่างออกมาจากเวทีมวย

“จะด่ากูเพื่อ กูทำไรผิด”

“โอ้โห นี่มึงไม่รู้ตัว?”

“รู้ดิ รู้ว่ากูไม่ผิด”

“เออกูรู้ แต่มึงจะอยู่ยากป่ะวะ นี่เพิ่งเข้าคณะวันแรก มึงก็ประกาศศักดาแล้ว”

“กูไม่ได้ประกาศเชี่ยไรทั้งนั้น แม่งเสือกกวนตีนกูก่อน ไม่อยากเซ็นก็บอก หรืออยากเซ็นแต่เสือกเล่นตัว อันนี้กูก็ไม่โอเค จริงๆ กูก็ไม่ได้สนด้วยว่ากูจะต้องรู้จักรุ่นพี่พวกนี้ แค่กูต้องมาเรียนตามระบบ กูก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”

“กูล่ะเพลียใจกับมึงจริงๆ วันนึงมึงจะเห็นว่าการมีรุ่นพี่น่ะมันดีแค่ไหน”

“ไอ้มีน่ะดี แต่ไอ้พวกพี่ที่เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา.. ไม่มีแม่งก็ได้ป่ะวะ”

“เฮ้อ เรื่องแค่นี้มึงก็ขึ้น มึงแม่งห้ามตัวเองไม่ได้”

“กูก็พยายามเริ่มต้นแบบดีๆ แล้วป่ะวะ”

“อ่ะ เดี๋ยวมึงดู ถ้ากูเล่าให้ไอ้เชี่ยปืนฟัง มันก็ต้องคิดเหมือนกู”

“จะเล่าไรให้กูฟังวะ”

“ตายยากสัด พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊ป”

“เออ”

“ว่าไง มีไรจะเล่าให้กูฟัง แต่ถ้าเป็นเรื่องของปีหนึ่งที่ชื่อว่าองศา ไม่ต้องเล่านะครับ กูเพิ่งเดินผ่านคณะมา ไอ้เชี่ยเอ๊ยยยย เม้ากันทั้งคณะ ไอ้ที่มึงไปกวนบาทาพี่ปีสอง”

“เออดี กูจะได้ไม่ต้องเล่า”

“มึงทำถูกแล้วเว้ยไอ้คุณปลาเก๋า ไม่ดิ ไอ้คุณองศา เราจะไปยอมให้พวกพี่มันกดเราง่ายๆ ไม่ได้ กูทีมมึง”

“สัดปืน มึงต้องเบรกมันสิวะ ไม่งั้นแม่งได้โดนเล่นตายห่า จะอยู่ยากนะเว้ย ตั้งสี่ปีเนี่ย”

“โธ่มึง กลัวไรวะ ไอ้องศามันมีทั้งมือ มีทั้งตีน ไหนจะมีมึง มีกู รับรอง..รอด”

“เออๆ เข้าข้างมันเข้าไป”

.

“มึงใจเย็นนะเว้ย อย่าไปถือสาน้องมัน”

“เย็นไงไหววะ เป็นมึง มึงไม่ขึ้น? ..คอยดู กูจะทำให้แม่งอยู่ไม่ได้”

“เชี่ยกร เราเป็นพี่นะเว้ย มึงคิดงี้แม่ง ไม่โอเคเลยว่ะ”

“ไม่รู้ กูไม่สน”

“งั้นกูคงต้องบอกพี่เรย์”

“มึงจะบอกพี่เขาเพื่อ!”

“ก็เพราะกูรู้ไงว่ามึงเกรงใจพี่เรย์”

“เอาจริงป่ะ กูน่ะไม่ได้เกรงใจพี่เรย์ แต่กูกลัวพี่อคิน”

“พี่อคินไปทำอะไรให้มึงต้องกลัววะ”

“นี่มึงไม่รู้สึกจริงๆ เหรอวะ กูนะ..ขนาดแค่พี่เขาเดินผ่าน กูยังหนาวหลัง”

“มึงก็เวอร์ พี่เขาไม่ใช่ผีนะเว้ย มึงถึงจะมาหนาวหลัง”

“กูพูดจริง เวลาไปคุยเรื่องงานกับพี่มันในห้องประชุมคณะ บรรยากาศในห้องแม่งเย็นเยือก ทั้งๆ ที่พี่มันไม่ได้พูดอะไรสักคำ”

“ก็พี่เขาเย็นชาจะตายห่า”

“เออ ต่างจากพี่เทป พี่ฟาร์ พี่ซอล สามคนนั้นชิลสุด”

“งั้นกูก็ฟ้องมึงกับพี่เรย์ได้ เพราะมึงไม่ได้กลัวอะไรพี่เรย์”

“กูว่ากูก็ไม่ได้กลัวพี่เรย์นะ แต่ไม่รู้ทำไม มันมีรังสีแปลกๆ ว่ะ”

“รังสีเชี่ยไรวะ”

“มันน่าเกรงใจแปลกๆ”

“นั่นไง! ‘ห้าเทพ’ เดินมานู้นล่ะ มึงเตรียมตัวได้เลย เรื่องนี้ต้องถึงหู...”

“มึงอย่า..!!”

“หวัดดีครับพี่เรย์”

“อืม ว่าไงฟิวส์ แล้วนี่ทำไมคณะดูวุ่นวาย”

“ไอ้กรดิพี่ มันหาเรื่องน้องปีหนึ่ง”

“ผมเปล่านะครับพี่ เด็กมันกวนตีนผมก่อน”

“ออ งั้นเหรอ ยังไงก็อย่าให้เรื่องมันใหญ่โต รู้ใช่ไหมว่าทำไม”

“ครับพี่เรย์ ผมเข้าใจครับ ..จะต้องไม่เดือดร้อนถึงสภาคณะ”

“อืม ดี ..พวกเราไปกันเถอะ”

“พูดไปแบบนั้นจะดีเหรอครับคุณเรย์”

“มันจะไม่ดียังไงเหรอครับคุณฟาร์”

“ก็เหมือนคุณเรย์จะเปิดช่องอะไรบางอย่างให้กับน้องๆ ไงครับคุณซอล”

“คิดมากไปรึเปล่า กูก็แค่ปรามไว้ว่าอย่ามีเรื่อง”

“หรือมีเรื่องได้ ..แต่อย่าให้ซวยมาถึงสภาคณะ”

“ไอ้ซอล มึงก็ตีความให้มันไม่เหมือนกับไอ้ฟาร์ได้ไหมวะ กลัวคนเขาไม่รู้รึไงว่ามึงสองคนเป็นฝาแฝด”

“อ้าวเหรอ” / “เหรอ”

“แล้วคุณอคินล่ะครับว่าไง มึงคิดแบบเดียวกับที่แฝดนรกนี่คิดรึเปล่า”

“..ก็น่าสนุกดี”

“เห็นม่ะ ว่าคุณอคินเขาคิดแบบพวกกู..” / “ซึ่งก็คือเข้าข้างเรย์..”

“เออ สนับสนุนกันเข้าไป ถ้าเกิดน้องแม่งทำเรื่องขึ้นมา ได้ซวยกันพอดี”

“อย่าจริงจังดิวะไอ้คุณเทป”

“ใครมันจะเล่นได้ตลอดเวลาเหมือนคุณสองคนล่ะคร๊าบบบบ โดยเฉพาะมึงไอ้ซอล”

“เข้าข้างกูเหรอคิน?”

“เปล่า ก็แค่มันน่าสนุก รุ่นพี่มีเรื่องกับรุ่นน้อง คณะจะได้ไม่น่าเบื่อ”

“..นั่นสินะ”

“คุยอะไรกันสองคนครับคุณคินคุณเรย์ เดินไม่รอเพื่อนไม่รอฝูง มามา กูขอเผือกด้วยคน เอ๊ะ หรือจะเป็นเรื่องที่กูเผือกไม่ได้”

“ก็ใช่นะ มันเป็นเรื่องระหว่างแค่กูกับคิน ไม่เกี่ยวกับมึง..ไอ้เทป”

“ทำไมพูดจาใจร้ายจังวะ แต่ก็นะ สมกับเป็นเรย์..รังสีทำลายล้าง บาดคมแม้คารมคมคำ”

“โอ๋ๆ ไอ้เทป มาให้กูปลอบสักทีมา”

“ไม่ต้องเลยไอ้ซอล เดี๋ยวผมกูยุ่ง หมดหล่อพอดี ฟาร์ช่วยกูด้วย”

“มึงก็ดูแลตัวเองไปดิ”

“ฟาร์..เย็นชากับกูตลอดเลยนะ กูจะฟ้อง”

“จะฟ้องศาลไหนล่ะ”

“ศาลพระภูมิหน้าบ้าน”

“มึงมันเพี๊ยน”

“...”

“อ้อ เย็นนี้กูไม่ไปยิมกับพวกมึงนะ”

“ทำไมวะไอ้คิน อย่าบอกนะว่าติดภารกิจ”

“อืม ประมาณนั้น”

“เดาไม่ยาก”

“..ต้องไปรับจินเหรอ”

“ใช่”

“เฮ้อ ภารกิจคู่หมั้น”

“ทำหน้าเหม็นเบื่อขนาดนี้ ทำไมมึงไม่ปฏิเสธไปให้มันจบๆ วะ”

“...”

“มึงก็รู้ ว่าไอ้คินทำทุกอย่างแล้ว”

“เออก็รู้ แต่กูว่ามันต้องมีอีกสักวิธีสิวะ”

“...”

“เอางี้ม่ะ หาคนไปจีบจิน ถ้าจินโอเค เดี๋ยวก็คงอ้อนพ่อขอถอนหมั้นไปเอง วินวิน”

“กูซื้อแผนมึงไอ้เทป” / “กูก็ว่าดี”

“ไง..เพราะกูฉลาด ..แต่ว่า เราจะส่งใครไปจีบจินดีวะ ต้องโปรไฟล์ดี คู่ควร แน่นอนว่า หน้าตาก็ต้องดี”

“เดี๋ยวกูไปจีบเอง กูตรงคุณสมบัติที่มึงพูดมาทุกข้อ ไหนๆ จินก็หน้าตาออกจะน่ารัก แถมเป็นว่าที่ดาวมหาลัยอีกตังหาก กูโหวตตัวกูเอง”

“ไม่ต้องเลยไอ้ซอล กูยินดีเสียสละเพื่อเพื่อนของกู มึงไม่ต้อง”

“กูว่ามึงก็อย่าไปขัดไอ้ซอลมันดิวะ อย่างมึงอ่ะนะฟาร์ มึงต้องอยู่ข้างๆ กูนิ ไม่ต้องไปมีใครทั้งนั้น”

“ทำไม..”

“ก็ไม่ทำไม”

“เอาตามนี้ กูกับไอ้ซอลจะจีบจินเอง มึงเตรียมยิ้มกว้างได้เลยไอ้คิน”

“มึงก็ด้วยนะครับ..คุณเรย์”

“มารหัวใจของมึงจะหายไปแน่นอน”

“...”

เรย์มันยิ้มบางๆ แทนคำตอบรับ แสดงว่าท่าจะจริง ผมเคยคุยเรื่องนี้จริงจังกับฟาร์ซอลครั้งสองครั้ง พวกเราลงความเห็นตรงกันว่า เพื่อนสนิทชักคิดไม่ซื่อ เรย์แสดงออกชัดขึ้น แบบไม่คิดปิดบังว่ามันรู้สึกยังไงกับไอ้คิน ส่วนไอ้คิน ..แม่งก็ไม่คิดจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยืนยันสถานะระหว่างมันกับไอ้เรย์ที่พวกเราชาวสามหมาแซว วันนี้จัดหนักจัดเต็มยังไม่คิดจะปฏิเสธสักคำ พวกกูโอเค ไม่มีรังเกียจ แค่พวกมึงช่วยฟันธงให้พวกกูรู้หน่อย พวกกูชอบความชัดเจน

..ผมเทป สมาชิกมาดกวนประจำกลุ่ม ‘ห้าเทพ’ แห่งจิตวิทยา ชื่อเสียงดีๆ ของพวกเรามีกระฉ่อนทั่วมหาลัย จะให้เล่าหมดคงจะยาว ส่วนว่าทำไมพวกเราถึงได้รับเกียรติให้เป็นถึงห้าเทพกัน เริ่มที่ผม..เทปผู้เซอสัด สภาพไม่น่าเข้าใกล้เพราะน้ำท่าไม่ค่อยอาบ มีดีที่ฉลาด ร่าเริง และที่บ้านเป็นเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศ มีสื่ออยู่ในมืออีกนิดหน่อย ก็แค่กุมชะตาชีวิตของใครสักคนได้สบายๆ อยากจะล่มจมก็ถล่มข่าวให้เละ หรืออยากจะสร้างภาพใครให้เป็นนางฟ้าเทวดา ก็ง่ายแค่คลิกเดียว ..ไง โคตรเทพ โคตรเหนือ ต่อไป..แฝดนรก เริ่มที่คนพี่ที่คลอดก่อนคนน้องสามจุดสี่สิบห้าวินาที ..ฟาร์ สุขุมกว่า นุ่มนวลกว่า ละมุนกว่า หน้าตาดีกว่า น่ามองกว่า น่าทะนุถนอมกว่า น่าสนใจกว่า น่าคุยด้วยมากกว่า น่าค้นหามากกว่า น่าอยู่ใกล้มากกว่า น่ารักมากกว่า.. ฉิบ!! ทำไมขั้นกว่าของไอ้ฟาร์มันถึงมีเยอะกว่าของไอ้ซอลขนาดนี้ ..ส่วนไอ้ซอล ทะเล้น ขี้เล่น สดใส ..จบ ทั้งคู่เป็นลูกของครูวัน อดีตนักร้องดังในยุคเก้าศูนย์ ตอนนี้ก็เป็นนักแต่งเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ในค่ายของบ้านผมด้วย ดีกรีความสามารถทั้งหมดเลยถูกถ่ายทอดผ่านยีนส์มาที่สองพี่น้องเต็มๆ คนพี่เล่นเปียโน ส่วนคนน้องก็โซโล่ไวโอลิน ประกวดเวทีไหนเป็นต้องได้รางวัล มีแววจะได้เดบิว เผลอๆ จะไม่ใช่แค่ในประเทศซะด้วย ..ให้ตายเถอะ ผมหลงรักเสียงเปียโน ต่อไปก็ไอ้เรย์ มันเป็นคนฉลาดแบบคมๆ ชอบมีอะไรอยู่ในใจ มีความคิดแบบผู้ใหญ่ โตเกินตัว อาจเพราะมันเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ รวยติดอันดับท็อปไฟว์ของประเทศ มันเลยต้องคิดอะไรเยอะแยะ แบกรับหน้าตาของตระกูลในฐานะว่าที่ผู้นำรุ่นต่อไป ไม่ต่างจากคุณชายอคิน รายนี้ยิ่งหนักกว่า รูปหล่อพ่อรวย เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ที่ค้ำจุนระบบเศรษฐกิจของประเทศ อะไรที่เราต้องใช้ ต้องกิน ต้องซื้อ ต้องอยู่ นามสกุลของคุณชายอคินเป็นต้องมีอยู่ในลิสต์รายนามผู้บริหาร ไม่ก็ในหุ้นส่วนมันแม่งหมดทุกกิจการ (ไม่เว้นกระทั่งธุรกิจเทาๆ) บ้านไอ้คินรวยจริงแบบไม่ต้องพึ่งพิงใคร แต่พ่อมันก็ดันบอกไอ้คินว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน การอยู่จุดสูงสุดไม่ได้รับประกันว่าจะอยู่ได้ตลอดไป และตระกูลของมันจะต้องอยู่บนปลายยอดสุด ..แค่ใต้ฟ้าเท่านั้น มันก็เลยต้องดองกับจิน เพราะบ้านจินก็เป็นหนึ่งในท็อปทรี ซึ่งลูกที่ดีอย่างคุณคินก็ไม่กล้าขัด แล้วอีกหนึ่งตระกูลในท็อปทรีล่ะ? โชคร้ายของไอ้คินที่ไม่มีตัวเลือกเพิ่ม เพราะบ้านนั้นดันไม่มีทายาทเป็นสาวสวยผู้เหมาะสม มีแค่ผม ที่มีทุกอย่างเหมือนไอ้คินมัน ผมก็เลยไม่ได้เป็นตัวเลือกของพ่อไอ้คิน

“จะว่าไป ถ้ามึงกับเรย์แต่งกันได้ ก็จบเรื่องล่ะ” ผมพูดลอยๆ แต่ก็แอบคิดจริง เพราะมันเหมาะสมกันทั้งฐานะ ทั้งหน้าตา คนนึงหล่อแบบคมๆ อีกคนหล่อแบบหวานๆ

“ก็ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ..ก็คงดี”

ไอ้คินตอบแบบนั้น ส่วนไอ้เรย์ก็ยกยิ้มมุมปาก ..เห็นยัง ว่ามันมีกลิ่น

.

.

.

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel