บท
ตั้งค่า

หนึ่งกำเนิด หนึ่งจากลา 1.1

บทที่ 2

หนึ่งกำเนิด หนึ่งจากลา

ในที่สุดระยะเวลาอันยาวนานก็สิ้นสุดเสียที ทารกที่ฮองเฮาคลอดออกมานั้นเป็นองค์หญิงน้อยผู้หนึ่งที่มีสุขภาพแข็งแรงและอ้วนท้วนสมบูรณ์ แก้มย้วย ๆ ขององค์หญิงน้อยทำให้นางดูน่ารักน่าชังราวกับเทพเซียนตัวน้อยก็มิปาน เหล่านางกำนัลต่างก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นองค์หญิง หลังจากที่ใช้เวลาทำคลอดกันอยู่ครึ่งค่อนวัน ทุกคนต่างก็ยินดีที่ฮองเฮาคลอดบุตรได้สำเร็จ

เสี่ยวหลัวนางกำนัลคนสนิทคลี่ยิ้มทั้งน้ำตา นางหันไปหาฮองเฮาเพื่อจะบอกกล่าวเรื่องที่พระนางคลอดองค์หญิงน้อยออกมา แต่แล้วเลือดในกายของนางก็พลันแข็งค้างไปทั่วร่างกาย เมื่อเห็นว่าฮองเฮาที่สลบไป กลับนอนนิ่งไม่ไหวติง แม้กระทั่งหน้าอกยังไม่กระเพื่อมขึ้นลง

นางยืนตัวแข็งทื่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้ายื่นมือไปอังที่จมูกของร่างที่อยู่บนเตียง จึงได้รู้ว่าฮองเฮาไร้ลมหายใจแล้ว

“หมอหลวง!!” เสี่ยวหลัวกรีดร้องเสียงดังเพื่อเรียกหมอหลวง จนทุกคนที่อยู่ในตำหนักต่างสะดุ้งพร้อมกับหันมาตามเสียงร้องของนาง

หมอหลวงที่อุ้มองค์หญิงน้อยอยู่เมื่อได้ยินเสียงเรียก ก็ยื่นองค์หญิงให้กับนางกำนัลอีกคน ก่อนจะรุดมาที่เตียงอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”

“ฮอง…ฮองเฮาไม่ทรงหายพระทัยแล้ว เร็วเข้า!! หมอหลวงรีบช่วยเร็วเข้า” เสี่ยวหลัวเอ่ยอย่างร้อนรน บัดนี้น้ำตาของนางไหลพรากลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างพลางคุกเข่าลงข้างเตียง พร่ำเอ่ยแต่ว่า “ฮองเฮาฟื้นสิเพคะ” อยู่หลายครั้ง

หมอหลวงจับชีพจรของฮองเฮาดูแล้วก็ต้องถึงกับชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าสลดแล้วกล่าวกับทุกคน “ฮองเฮาทรงสิ้นพระชนม์แล้ว”

นางกำนัลรวมถึงคนอื่น ๆ ที่อยู่ในตำหนักทันทีที่ได้ฟังประโยคนี้จากหมอหลวงถึงกับชะงักค้างทันที ยามนี้เหล่านางกำนัลคล้ายกับว่าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะปล่อยโฮกันออกมา พร้อมกับถลาไปที่ข้างเตียงของฮองเฮา บ้างจับพระหัตถ์ บ้างจับพระบาท แล้วกล่าวคำเดียวกับที่เสี่ยวหลัวกล่าวก่อนหน้านี้

“ฮองเฮาทรงฟื้นสิเพคะ”

“ฮองเฮาได้โปรดอย่าทิ้งพวกหม่อมฉันไปเช่นนี้”

“ฮองเฮาได้โปรดกลับมาหาองค์หญิงก่อนเพคะ”

เมื่อมองว่านางกำนัลเหล่านี้ต่างไม่มีสติหลงเหลือแล้ว หมอหลวงจึงได้บอกให้ศิษย์สำนักหมอหลวงคนเดิมออกไปกราบทูลฮ่องเต้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ศิษย์ผู้นั้นก็รู้สึกลำบากใจอยู่ไม่น้อย แต่ว่าเมื่อเป็นหน้าที่แล้วอย่างไรก็ต้องกระทำ ดังนั้นบานประตูตำหนักจึงเปิดออกอีกครั้ง

“คลอดแล้วใช่หรือไม่ เป็นอย่างไรบ้าง บุตรของเราเป็นองค์ชายหรือว่าองค์หญิง” ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยความตื่นเต้น สีพระพักตร์สดใสเป็นอย่างยิ่ง เมื่อรู้ว่าจะได้พบหน้าบุตรแล้ว

“เป็นองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ” ศิษย์สำนักหมอหลวงก้มหน้าตอบเบาๆ

ได้ยินคำตอบแล้วทั้งฮ่องเต้และไทเฮาต่างก็ดีพระทัยเป็นอย่างมาก ทั้งสองพระองค์อยากเข้าไปในตำหนักเต็มทีแล้ว

ศิษย์สำนักหมอหลวงสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ก่อนจะกราบทูลต่อ “แต่ว่ากระหม่อมมีเรื่องที่จะต้องกราบทูลฝ่าบาทกับไทเฮาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

“มีเรื่องอันใดก็ว่ามา เราอยากเข้าไปข้างในแล้ว” ฮ่องเต้ตรัสอย่างร้อนพระทัย

“คือ ฮองเฮาทรงสิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ” ศิษย์สำนักหมอหลวงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

คำกล่าวนี้เหมือนกับดั่งอสนีบาตฟาดลงมากลางวังหลวง ฮ่องเต้ที่กำลังจะก้าวพระบาทเข้าไปนั้นก็ถึงกับชะงัก พระวรกายแข็งค้างไปในฉับพลัน สีพระพักตร์จากเดิมที่กำลังสดใส บัดนี้กลายเป็นซีดเผือด ฝ่ายไทเฮานั้นเพิ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้จะเสด็จเข้าข้างไปในเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินคำตอบก็ถึงกับทรุดกลับลงไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม

แต่ถึงอย่างไรแล้วทั้งสองพระองค์ก็ต้องยอมรับความจริงว่าบัดนี้ฮองเฮาได้จากไปแล้ว ฮ่องเต้เสด็จถึงข้างเตียงด้วยพระอาการโศกเศร้ายิ่งนัก พระองค์ไม่ได้สนใจองค์หญิงน้อยเลย เมื่อความสูญเสียที่อยู่ตรงหน้าทำร้ายพระทัยของพระองค์เหลือเกิน ร่างไร้วิญญาณของหญิงอันเป็นที่รักนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ทำเอาฮ่องเต้ถึงกับทรงกรรแสงออกมา

พระองค์ทรงกอดร่างของฮองเฮาเอาไว้ พลางลูบเรือนผมยาวดำขลับนั้นเบา ๆ แล้วตรัสออกมาอย่างอ่อนโยน “เจ้าไม่ต้องเจ็บปวดแล้วนะ”

ฝนที่หนักบัดนี้ซาลงแล้ว มวลเมฆเคลื่อนตัวออก ท้องฟ้าเปิดให้เห็นแสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ประกาศจากวังหลวงถูกกระจายออกไป ในประกาศมีเนื้อความว่าบัดนี้ฮองเฮาได้ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว ชาวเมืองได้ยินข่าวต่างก็โศกเศร้ากันเป็นอย่างมาก

เสียงระฆังมรณะดังกังวาน ทั่วทั้งแคว้นต่างแขวนธงขาวส่งศพพระมารดาของแผ่นดิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel