ตอนที่สาม ไม่อยากเชื่อ2
ตอนที่สาม ไม่อยากเชื่อ
เรื่องบนเตียงเช่นนี้ เสด็จแม่เสียนเฟยกับเสด็จย่าไทเฮาย่อมไม่อยากยุ่งเกี่ยว จึงได้แต่ส่งยาบำรุงและนางกำนัลมาถามไถ่เป็นระยะ
แรกๆ พวกเขาใช้สตรีคนอื่นแสร้งนอนบนเตียงเพื่อหลอกลวงสายตาว่าต้องพักผ่อนให้มาก ส่วนตัวจริงของข้ากลับโดนทรมานอยู่ในคุกลับแทบตาย
แต่ผ่านไปนานเข้าย่อมเป็นที่สงสัย วันหนึ่งพวกเขาจึงโอบประคองข้าไปแต่งตัวแล้วพานอนบนเตียงทับแผลที่หลังจนเจ็บปวดขณะเสด็จแม่เสียนเฟยมาเยี่ยม
ถึงตอนนั้นข้าจึงเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดพวกเขาจึงเฆี่ยนตีแค่บริเวณหลังไม่กล้าทำร้ายใบหน้าหรือส่วนอื่น นั่นก็เพื่อปิดบังผู้อื่นนั่นเอง”
“แค่หลังก็เจ็บจะตายแล้ว ถ้าตีตรงอื่นฉันคงตายตามเธอไปแน่ๆ” ฉีฟางหลิงโอดครวญก่อนจะถามอีก
“เสียนเฟยมาเยี่ยมด้วยตัวเองทั้งที ทำไมเธอไม่ฟ้องไปเลยล่ะ
“ข้าพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่อาจอ้าปากได้ทันด้วยหลี่เฉียงคอยพูดกันท่าทุกครา ทั้งยังแสร้งโอบประคองทะนุถนอมแต่แท้ที่จริงคือบีบบาดแผลของข้าให้เจ็บปวดจนเกินทน”
“ไอ้ชั่วหลี่เฉียงคนนี้ ต้องไม่ตายดี” ฉีฟางหลิงอดแค้นแทนไม่ได้
“เสด็จแม่เสียนเฟยเห็นสีหน้าซีดเซียวของข้ากับท่าทางทรมานจึงขอตัวกลับโดยเร็วพร้อมส่งหมอหลวงมา แต่คนสกุลหลี่กลับให้สาวใช้ปลอมเป็นข้าแล้วนอนคลุมผ้าบนเตียงอีกครั้ง
หมอหลวงเป็นชายย่อมไม่กล้าละลาบละล้วง ได้แต่จับชีพจรแล้วเขียนใบสั่งยา นั่นย่อมทำให้พวกคนสกุลหลี่ยิ่งได้ใจ”
“มิน่าล่ะ ตอนฉันเข้ามาในร่างนี้ถึงตีเสียหนักไม่ยั้งมือเชียว” ฉีฟางหลิงขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บที่ไม่จางหาย
“พวกเขากล้าลงมือหนักขึ้นก็ด้วยวันหนึ่งที่องค์ชายสามผู้นั้นแวะมาดูผลงานการทรมานของข้า เขากล่าวว่าต่อให้ข้าตายก็ไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดด้วยพวกเขาสามารถอ้างการกบฏแล้วใส่ร้ายคนของแคว้นลู่ให้เป็นผู้กระทำการ” วิญญาณสาวนึกถึงคำพูดนั้นด้วยความเจ็บใจ
“คนเราตายเป็นผีไปแล้วย่อมไม่รู้ไม่เห็น ไม่อาจแก้ตัว”
ใช่แล้ว ยามนี้นางกลายเป็นเพียงวิญญาณไร้รูปไร้เสียง หากมิใช่ว่ายังติดต่อกับร่างของตนเองได้ ป่านนี้คงต้องไปเรียกร้องความเป็นธรรมในนรกแล้ว
“หากข้าโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เสด็จแม่เสียนเฟยของข้าคงต้องโดนกล่าวหาไปด้วยและต้องโทษปลดจากตำแหน่ง สูญสิ้นอิสรภาพส่งเข้าวังเย็น
ส่วนท่านตาสกุลจิ้นก็คงไม่พ้นต้องโดนยึดอำนาจทวงคืนกองกำลัง เปิดโอกาสให้คนของพวกเขาได้ครอบครองกำลังทหารที่มากมาย
ที่สำคัญคือสกุลจิ้นทั้งครอบครัวคงไม่อาจหลีกเลี่ยงโทษร้ายที่ข้าเป็นคนนำภัยไปให้แก่พวกเขา”
แค่คิดมาถึงตอนนี้ วิญญาณสาวจึงหลั่งน้ำตาหยดลงมาด้วยความเสียใจในความผิดพลาดของตัวเอง
