ตอนที่ห้า แขกแปลกหน้า
ตอนที่ห้า
แขกแปลกหน้า
คิดมาถึงตรงนี้ หัวหน้างานสาวใหญ่ในร่างของสาวน้อยฮัวเฟยฮวาก็ต้องยิ้มเยาะให้กับตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นเช็ดตัวแล้วเดินไปนั่งชโลมน้ำมันหอมบนเตียง
ชีวิตเซียนพิณน้อยนางนี้นับว่าไม่เลวเลย เวลาทำงานแค่ไม่กี่ชั่วยาม งานก็ไม่ลำบาก ทั้งสนุกสนาน เบิกบาน อิ่มท้อง แล้วยังมีเงินทองสะสมเอาไว้อย่างมากมาย
หญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยรอยยิ้ม
เอาเถอะ นานๆจะได้ฝันดีแบบนี้ ถือว่าคืนนี้พักผ่อนคลายเครียดบ้างก็แล้วกัน
ยามสาย บรรยากาศภายในหอเหลียงฮัวย่อมเงียบสงบไร้แสงเสียง อันอันเปิดประตูย่องเข้ามาเมียงมองไปยังเตียงของฮัวเฟยฮวาเพื่อรอเวลาปรนนิบัติรับใช้
เป็นนานกว่าร่างของหญิงสาวจะขยับ แต่น่าแปลกที่นางกลับไม่ลุกขึ้นสักที
หัวหน้างานผู้เคร่งขรึมยังคงนอนงุนงงด้วยเช้านี้ยังคงตื่นขึ้นในร่างของฮัวเฟยฮวาเช่นเดิม
เธอเข้าใจว่าเป็นแค่ฝันตื่นหนึ่ง ใครจะคิดว่ายังตื่นขึ้นมาในหอเหลียงฮัวแห่งนี้ได้อีก
“เฟยเฟย เจ้าตื่นแล้วหรือยัง” เสียงเล็กเอ่ยถามแผ่วเบาด้วยความไม่แน่ใจ
“อืม...ตื่นแล้ว” เมื่อแน่ใจว่ายังอยู่ที่เดิม ฮัวเฟยฮวาจึงลุกขึ้นเพื่อให้อันอันเข้ามาช่วยดูแลแต่งตัว
หญิงสาวทำทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่วราวกับอยู่ในร่างนี้มาตั้งแต่แรก เมื่อกินอาหารเช้าเรียบร้อยจึงคิดอยากรู้เรื่องทรัพย์สินของตนเองตามประสาที่ทำงานเกี่ยวกับตัวเลขมากว่าค่อนชีวิต
“ข้าจะไปขอสมุดบันทึกจากแม่เล้าใหญ่มาให้ เจ้ารอสักครู่” อันอันพยักหน้ารับรู้แล้วเดินออกไปโดยไม่ถามมากเรื่อง
แม้หญิงสาวทุกคนจะสามารถเก็บของส่วนตัวเอาไว้ได้เอง แต่สมบัติเงินทองทั้งหลายจำต้องลงรายการเอาไว้ทุกชิ้นเพื่อป้องกันการลอบขโมยหรือสูญหาย ดังนั้นเพียงดูบันทึกก็คำนวณทรัพย์สินได้ทั้งหมดแล้ว
ฮัวเฟยฮวานั่งเปิดรายการทรัพย์สมบัติของตนเองพลางคิดคำนวณอย่างไม่อยากเชื่อ
โอ้โฮ!...เพียงอี้จี้นางหนึ่ง มีทรัพย์สินมากมายเพียงนี้เชียวหรือ มากกว่าเธอซึ่งทำงานมาหลายสิบปีเสียอีก แม้จะมีทรัพย์สินที่ซื้อไว้แต่ก็ยังต้องผ่อนอีกหลายปี ส่วนเงินเก็บก็น้อยนิดมาก
เทียบกับฮัวเฟยฮวาซึ่งนำเงินไปซื้อที่ดิน ที่นาเก็บไว้ตั้งหลายผืน แล้วยังมีทองคำ เครื่องประดับ ไข่มุก ผ้าไหม ภาพวาด ซึ่งได้รับมาเป็นของกำนัลอีกตั้งหลายชิ้น
อยู่เป็นฮัวเฟยฮวาที่นี่ก็นับว่าไม่มีข้อเสีย เป็นทั้งสาวงามผู้ร่ำรวย เช่นนั้นก็ใช้ชีวิตในฝันเช่นนี้ไปให้สนุกสนานก็แล้วกัน แม้จะไม่ใช่ร่างของตนเอง แต่ยามนี้เธอคือฮัวเฟยฮวา
ดังนั้น...อย่าเพิ่งตื่นตอนนี้เลยนะ
แม้ไม่แน่ใจว่าตนเองจะตื่นขึ้นและต้องกลับสู่โลกแห่งความเคร่งเครียดวันใด แต่ทุกเวลาในหอเหลียงฮัวแห่งนี้มีแต่รอยยิ้มและความสุข ฮัวเฟยฮวาจึงใช้ชีวิตอย่างไม่คิดมากอีก
“เฟยเฟย คืนนี้มีแขกแปลกหน้ามาเยือน เขาระบุอยากพูดคุยกับเจ้า แม่เล้าใหญ่ให้ข้าเข้ามาสอบถามความเต็มใจ” อันอันส่งเสียงเข้ามาก่อนจะเดินมาช่วยจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“น่าจะเป็นชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ชั้นบนด้านขวาใช่หรือไม่”
“ใช่ เจ้าเองก็สังเกตเห็นหรือ”
“อืม...เขามีท่วงท่างามสง่า นัยน์ตาระยิบระยับ ยกจอกสุราส่งยิ้มพร้อมปรบมือให้ทุกเพลง” สาวงามทบทวนท่าทีของชายซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ปกติแขกเหรื่อส่วนใหญ่มักเป็นขาประจำหรือคนคุ้นเคย หากไม่เคยแวะเวียนมาก็จะมีผู้ชักนำหรือติดตามผู้อื่นมา จึงมักรู้จักมักจี่ว่าคือบุตรหลานตระกูลใด นั่นย่อมทำให้การตัดสินใจว่าจะรับรองเขาหรือไม่ง่ายขึ้น
แต่บุรุษแปลกหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่ ลำพังแค่ผู้ติดตามที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เห็นได้ว่าทั้งมีฝีมือและองอาจห้าวหาญ
หรือจะเป็นผู้สูงศักดิ์แอบหนีออกมาเที่ยวเล่น
ยังไม่ทันตัดสินใจให้ดี แม่เล้าใหญ่ก็ผลักประตูเข้ามาเอ่ยสำทับ
“เฟยเฟย ชายผู้นี้ไม่อาจล่วงเกิน เจ้าลองเข้าไปนั่งคุยกับเขาสักครู่เถิด”
แม่เล้าใหญ่ผู้เห็นบุรุษผ่านสายตามาอย่างโชกโชนย่อมมองออกว่าผู้ใดมีศักดิ์ฐานะเช่นไร เมื่อนางอุตส่าห์ลงทุนมาเอ่ยขอ ฮัวเฟยฮวาจึงจัดแจงชุดเสื้อผ้าให้ดีแล้วเดินตามไป
