ตอนที่สี่ เพียงอี้จี้นางหนึ่ง
ตอนที่สี่
เพียงอี้จี้นางหนึ่ง
“น้องเฟยเฟย เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ไข่มุกราตรีมาเม็ดหนึ่ง ทั้งสวยงามและใหญ่โตจึงอยากมอบให้เจ้าเก็บไว้ใช้” คุณชายกัวส่งไข่มุกเรืองแสงเม็ดเกือบเท่าไข่ไก่ยัดใส่มือน้อยพลางฉวยโอกาสจับมือนุ่มไม่ยอมปล่อย
“แม่นางเฟยอย่าเห็นว่าไข่มุกนี้ไม่มีราคาค่างวดมากนัก ถึงอย่างไรก็เป็นความจริงใจของน้องชายข้า” ญาติผู้พี่ของเขารีบเอ่ยสำทับเมื่อเห็นท่าทางเคอะเขินของญาติผู้น้อง
“ขอบคุณคุณชายกัวเจ้าค่ะ ข้าจะเก็บไว้อย่างดี” สาวงามโค้งตัวลงตามมารยาทแล้วส่งไข่มุกให้อันอันนำไปลงบันทึกไว้เพื่อเก็บรวมกับของมีค่าอื่นๆ
อืม...นั่งคุยแป๊บเดียว ได้ของมีค่าตั้งหลายชิ้น
อาหารก็ได้กินอย่างดี สุราก็ได้ดื่มไม่จำกัด ดีเสียจริง
เป็นสาวงามนี่ช่างแสนวิเศษ
เมื่อได้เวลาเซียนพิณสาวจึงเอ่ยขอตัวแล้วเดินชดช้อยออกจากห้องไป ท่ามกลางสายตาอาลัยอาวรณ์ของชายหนุ่มทั้งสองซึ่งได้แต่เสียดายความหอมหวาน
ถึงจะบอกว่าไม่ขายเรือนร่าง แต่ยามนั่งพูดคุยใกล้ชิด ผิวแก้มนวลย่อมถูกลอบดอมดม เอวคอดกิ่วย่อมถูกโอบกอดอย่างมีชั้นเชิง
เป็นธรรมดาที่เหล่าชายหนุ่มต้องการแนบชิดและซื้อใจของสาวงามจึงจำต้องทุ่มเทของกำนัลมากบ้างน้อยบ้างตามกำลัง ด้วยหากต้องการใช้เวลายามค่ำคืนกับอี้จี้ดาวเด่นมิใช่มีเพียงเงินทองก็จะได้มา
ฮัวเฟยฮวาเดินกลับเข้าไปยังห้องพักส่วนตัวซึ่งแยกออกมาอยู่ด้านหลังอย่างเป็นสัดส่วนพลางนิ่งคิด
หากจะกล่าวว่าร่างนี้เป็นเพียงหญิงคณิกาก็ไม่อาจเอ่ยอย่างชัดเจนเช่นนั้นได้
ฮัวเฟยฮวาเป็นถึงอี้จี้ชั้นสูง มีความสามารถโดดเด่น ได้รับการยอมรับจากชายหนุ่มมากหน้าหลายตา ลำพังแค่ฝีมือบรรเลงพิณผีผาก็ยากจะหาผู้ใดทัดเทียมแล้ว นางยังมีทั้งใบหน้าและเรือนร่างซึ่งจัดว่างดงามเหนือสตรีใด เช่นนี้แล้วจะไม่ให้มีเหล่ามดแมลงมาวนเวียนเฝ้าดอมดมได้หรือ
ชายหนุ่มเหล่านั้นแม้จะมากหน้าหลายตา มีทั้งหนุ่มแก่ มียศตำแหน่งและพ่อค้าคหบดี แต่พวกเขาล้วนมีจุดหมายเดียวนั่นคือต้องการครอบครองตัวนาง
หากเปรียบกับหัวหน้างานสาวใหญ่ผู้เคร่งขรึมซึ่งไม่เคยมีครอบครัว ไม่เคยมีแฟน และไม่เคยกระทั่งมีชายหนุ่มมาชอบพอย่อมแตกต่างกันอย่างเทียบไม่ติด
ยิ่งคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาซึ่งทุ่มเทอยู่กับงานจนบ้าคลั่ง กว่าจะได้รับการโปรโมตให้เป็นหัวหน้าอายุก็ปาเข้าไปสามสิบกว่าแล้ว
ชีวิตอันไร้สีสัน ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวกับใครเขา อยากซื้อของก็ช้อปปิ้งออนไลน์ เสื้อผ้าก็สั่งคนมาส่งเพราะแต่งตัวเชยๆ สูทกระโปรงสีหม่นทุกวันจึงไม่จำเป็นต้องเลือกมาก
อาหารการกินก็ใช้แม่บ้านไปซื้อหาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาหารไร้รสชาติ กินกันตายไปก็เท่านั้น วันวันเห็นแต่ตัวเลขกับเอกสารเข้าประชุม กว่าจะเลิกงานก็ค่ำมืดจึงจะได้กลับห้องพักซึ่งซื้อเอาไว้แค่เป็นที่นอนชนิดเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง
เทียบกับฮัวเฟยฮวาแล้ว อี้จี้ดาวเด่นแห่งหอเหลียงฮัวนางนี้กลับมีชีวิตที่สุขสบายกว่ามาก
“เฟยเฟย ข้าเตรียมน้ำร้อนเสร็จแล้ว เข้าไปอาบน้ำเถอะ” อันอันเดินมาตามพลางเข้ามาช่วยถอดเสื้อผ้า
ฮัวเฟยฮวาเลื่อนตัวลงแช่ในอ่างซึ่งมีควันลอยหอมกรุ่นอย่างผ่อนคลาย นี่ย่อมเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ไล่สำรวจเรือนร่างของตนเอง
อืม...สมเป็นอีจี้ดาวเด่น อกใหญ่คู่นี้ทั้งอวบทั้งแน่นเต่งตึง เต็มไม้เต็มมือดีจริงๆ จุกสีชมพูก็ช่างน่ารัก เอวเล็กบางคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบทั้งๆที่เพิ่งกินอาหารมาจนอิ่ม
ดูแขนขาทั้งเรียวยาวทั้งเนียนผ่อง ลูบไล้ไม่มีเบื่อ
แล้วดูส่วนนั้นสิ
อูว...เนินโหนกนูนมีเส้นขนน้อยมาก
ร่องช่องทางสีแดงสดก็ยังปิดมิดชิดแถมยังนุ่มมืออีกต่างหาก คงเพิ่งผ่านการสอดใส่มาเพียงไม่กี่หน
อื้อ...น้ำที่อาบนี่หอมจัง
อันอันคงใส่กลิ่นหอมลงไปด้วยเพื่อให้กลิ่นติดกาย
สายตามองไปยังโต๊ะด้านข้างซึ่งมีขวดน้ำมันหอมวางอยู่เพื่อให้หญิงสาวได้ชโลมลูบไล้หลังอาบน้ำเสร็จ
วิธีการดูแลตนเองของหญิงสาวที่นี่ถือเป็นกลเม็ดเคล็ดลับที่ดีทีเดียว
มิน่าล่ะถึงมีคุณชายมาติดพันมากหน้าหลายตา พวกเขามักลอบสูดดมความหอมจากกายบางทุกเมื่อที่มีโอกาส ทั้งเพียรพยายามลูบไล้แย่งกันเอาอกเอาใจ สรรหาของกินเอร็ดอร่อย มอบของกำนัลล้ำค่าและหาข้ออ้างพานางออกเที่ยวเตร่
แต่เคล็ดลับความงามพวกนี้คงเอากลับไปใช้กับร่างสาวใหญ่วัยใกล้ห้าสิบแล้วไม่ได้ผล
--------------------------
อี้จี้ คือ นางคณิกาชั้นสูงซึ่งขายเพียงศิลปะและความบันเทิง มีหน้าที่ต้อนรับปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุย ปกติมักไม่ขายเรือนร่าง หรือขายแพงและยากมาก เหล่าชายหนุ่มซึ่งมาติดพันต้องแข่งกันมอบของขวัญของกำนัลเพื่อเอาชนะใจนางให้ได้
