ตอนที่สาม ข้าคือฮัวเฟยฮวา 2
ตอนที่สาม
ข้าคือฮัวเฟยฮวา
เด็กสาวร่างเล็กซึ่งยืนรออยู่ด้านข้างรีบส่งสัญญาณบอกผู้ควบคุมเวที ฮัวเฟยฮวาจึงจบเพลงสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้นย่อตัวโค้งให้ผู้ชมแล้วเดินลงจากพื้นสูงท่ามกลางเสียงปรบมือชื่นชม
“เหนื่อยหรือไม่ เฟยเฟย เจ้านั่งพักจิบน้ำชาก่อน วันนี้มีคุณชายติงกับคุณชายกัวมานั่งรออยู่ในห้องพิเศษ เจ้าอยากเลือกต้อนรับผู้ใด หรือจะจัดสรรเวลาให้ทั้งสอง แต่ข้าว่าวันนี้อาการเจ้าไม่ค่อยดี ปฏิเสธไปทั้งสองคนเลยน่าจะดีกว่า” หญิงสาวซึ่งทำหน้าที่คล้ายผู้จัดการของฮัวเฟยฮวาเอ่ยถามพลางจูงมือของสาวงามให้มานั่งพักผ่อนอย่างห่วงใย
เซียนพิณคนงามเงยหน้ามองพลางค้นหาในความทรงจำ
“อันอัน”
“ว่าอย่างไร เฟยเฟย”
อืม...สาวน้อยนางนี้มีนามว่า’อันอัน’นั่นเอง ฮัวเฟยฮวาไปพบนางถูกบิดาพามาเร่ขายตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้วจึงขอให้แม่เล้าใหญ่รับซื้อเอาไว้และให้นางอยู่ช่วยดูแลตนเองดั่งสาวใช้ประจำตัว
ด้วยหน้าตาแสนธรรมดาอีกทั้งรูปร่างเล็กแกร็น อันอันจึงวิ่งไปวิ่งมาในหอเหลียงฮัวตั้งแต่นั้นโดยไม่มีผู้ใดใส่ใจ
“ข้าขอพักอีกครู่ก็แล้วกัน จากนั้นค่อยไปต้อนรับพวกเขา ว่าแต่ คุณชายท่านใดมาก่อนหรือ” ฮัวเฟยฮวายังไม่วายติดนิสัยหัวหน้างานซึ่งต้องจัดลำดับก่อนหลังอย่างเสมอภาค
“พวกเขามาถึงเกือบพร้อมกัน แต่หากจะนับว่าผู้ใดเรียกหาเจ้าก่อน ย่อมเป็นคุณชายติง”
“เช่นนั้น เข้าไปห้องคุณชายติงก่อนก็แล้วกัน จากนั้นค่อยไปห้องคุณชายกัว”
“ได้ อีกครู่ข้าจะมาพาเจ้าไป กินขนมนี่เพื่อรองท้องสักหน่อยก่อนเถิด” อันอันยกจานขนมมาวางให้ก่อนจะเดินออกไปจัดการแจ้งแม่เล้าใหญ่
ความจริงแม่เล้าใหญ่สั่งให้อันอันเรียกขานฮัวเฟยฮวาว่าคุณหนูเฟย เพื่อบ่งบอกฐานะนายบ่าว แต่สาวงามไม่อยากได้สาวใช้ นางอยากได้เพื่อนผู้รู้ใจต่างหาก จึงบอกให้เด็กสาวเรียกเพียงชื่อเท่านั้น
ฟ้าในร่างของฮัวเฟยฮวาคิดถึงการบรรเลงเพลงเมื่อครู่ ทุกอย่างช่างลื่นไหลราวตัวเธอคือฮัวเฟยฮวา
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอก็จะใช้ชีวิตเป็นสาวงามนางนี้อย่างหนำใจตราบเท่าที่ยังคงอยู่ในฝันดี
ทุกสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาก่อน ย่อมสามารถทำได้เมื่ออยู่ที่นี่ ชีวิตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทำให้หัวหน้างานสาวใหญ่ตื่นเต้นไร้ความเคร่งขรึมอย่างที่เคย
เมื่อได้เวลาที่อันอันมาพาฮัวเฟยฮวาเดินเยื้องย่างไปส่งยังห้องของคุณชายติง บุตรชายขุนนางใหญ่ซึ่งร่ำสุราสังสรรค์อยู่กับเพื่อนสนิทอีกสองคน สาวงามจึงไม่อิดออดแต่เร่งเดินเข้าไปด้วยความกระตือรือร้น
“น้องเฟยเฟยมาแล้ว มานั่งข้างๆข้าเร็วเข้า” คุณชายติงรีบกุลีกุจอเดินมารอรับพลางจูงมือนุ่มไปนั่งลงเคียงข้างกัน
ผู้ใดจะไม่รับรู้บ้างว่าฮัวเฟยฮวาเป็นอี้จี้ซึ่งเชิญตัวมานั่งพูดคุยไม่ง่ายนัก แม้หญิงสาวจะมีหน้าที่ต้อนรับและปรนนิบัติแขกเหรื่อให้ดื่มกินอย่างอิ่มหนำ แต่นางย่อมเลือกตอบรับและปฏิเสธได้ตามแต่ใจ
ถึงกระนั้นเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายต่างแย่งชิงกันส่งมอบของขวัญและเอาอกเอาใจเพื่อซื้อเวลาการนั่งเป็นเพื่อนคุยเพียงแค่ไม่ถึงชั่วยาม ด้วยหญิงสาวทั้งงดงาม เย้ายวน ฉลาดเฉลียว อีกทั้งยังดูแลต้อนรับอย่างชำนิชำนาญ ไม่ไร้เดียงสาจนน่าเบื่อหน่าย
เพียงได้พบหน้าสาวงามอย่างใกล้ชิด ชายหนุ่มเหล่านั้นก็เก็บไปพร่ำเพ้อและคุยโม้โอ้อวดได้อีกหลายวันแล้ว
ฮัวเฟยฮวานั่งลงยิ้มแย้มรินสุราให้แก่คุณชายติงอย่างอ่อนช้อย นางเอาอกเอาใจพวกเขาอีกทั้งยังเออออไปกับทุกเรื่องที่พูดคุยโดยไม่ขัดเขินสร้างความพอใจจนได้รับก้อนทองเป็นของกำนัลอย่างโอ้อวดความร่ำรวย
โอ้...แค่นั่งคุยไม่นานก็ได้ทองคำเป็นก้อน สตรีที่นี่ช่างร่ำรวยเสียจริง
เรื่องที่พวกเขาพูดคุยกันแม้จะน่าเบื่อไปบ้างแต่ก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจจนทนไม่ไหว เมื่อครบเวลาหญิงสาวจึงย้ายเรือนร่างอรชรไปยังห้องของคุณชายกัวซึ่งยังคงอดทนรอคอยอย่างไม่ปริปากบ่น
“น้องเฟยเฟย หิวหรือไม่ ข้าสั่งอาหารชั้นดีมารออยู่เต็มโต๊ะเชียว”
คุณชายผู้นี้มาพร้อมญาติผู้พี่จึงดื่มกินกันอย่างไม่อดออม พวกเขาคุยเรื่องการค้าในครอบครัวโดยไม่ใส่ใจว่าหญิงสาวจะได้ยินได้ฟังความลับใดบ้าง
ฮัวเฟยฮวาได้โอกาสดื่มสุรากินอาหารไปจนอิ่ม
อืม...ยามเป็นหัวหน้างานมัวแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารกล่อง ไม่เคยได้กินอาหารหรูหราเพียงนี้ ยิ่งเหล้าสุรายิ่งแทบไม่ได้แตะต้อง ในเมื่อที่นี่มีของกินชั้นดี สุราชั้นเลิศ คิดเสียว่าได้มาพักร้อนก็แล้วกัน
