บทที่ 7 - บททดสอบแห่งเงา
เวลาผ่านไปหลายวัน หลี่หลินใช้เวลาทั้งหมดของนางไปกับการฝึกฝนภายใต้การแนะนำของหลิวจิ้ง นางเริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมเงา ให้มันก่อรูปเป็นสิ่งต่าง ๆ ตามที่นางต้องการ โล่ ดาบ หรือแม้กระทั่งเงาที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
แต่การฝึกฝนไม่ได้ราบรื่นอย่างที่นางคาดคิด ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดจากการใช้พลังมากเกินไปทำให้นางอ่อนแอในบางครั้ง
“พักเสียบ้าง...” หลิวจิ้งกล่าวในขณะที่หลี่หลินหายใจหอบเหนื่อยหลังจากการฝึกในเช้าวันหนึ่ง
“ข้า...ข้าไม่อยากเสียเวลา” นางตอบด้วยน้ำเสียงที่ดื้อดึง “เหวินหลงต้องการความช่วยเหลือของข้า ข้าไม่อาจปล่อยเวลาให้สูญเปล่าได้”
“การฝึกฝนที่หักโหมเกินไปจะทำให้เจ้าบาดเจ็บ และหากเจ้าล้มลง มันจะทำให้ทุกสิ่งที่เจ้าเพียรพยายามต้องสูญเปล่า” หลิวจิ้งเตือนด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่มุ่งมั่น
หลี่หลินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างจำใจ นางรู้ว่าเขาพูดถูก แต่นางก็ไม่อาจหยุดความกังวลที่อยู่ในใจได้
“หลิวจิ้ง...” นางเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ “เหตุใดเจ้าจึงยอมช่วยข้า ทั้งที่มันอาจจะทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายด้วย”
หลิวจิ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เพราะข้าเป็นหนี้บุญคุณเหวินหลง ข้าเคยเป็นอัศวินที่รับใช้เขาและปกป้องเขาจากอันตราย แต่ข้ากลับพลาดที่จะปกป้องเขาจากคำสาปนี้”
“คำสาปนี้...” หลี่หลินทวนคำราวกับต้องการเข้าใจมันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคำสาปนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”
“มันเกิดขึ้นจากความอิจฉาและความโลภ” หลิวจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เหวินหลงเป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่ พลังที่เชื่อมโยงกับเงาและความมืด แต่พลังนั้นกลับถูกมองว่าเป็นอันตรายโดยผู้คนที่หวาดกลัว”
“และอ๋องฉางเยี่ย...” นางเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสงสัย
“ใช่... อ๋องฉางเยี่ยเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการพลังของเหวินหลง” หลิวจิ้งกล่าว “เขาใช้เวทมนตร์โบราณเพื่อผูกมัดเหวินหลงไว้ในโลกของเงา และพยายามที่จะควบคุมพลังนั้นเพื่อประโยชน์ของตนเอง”
“แต่ทำไมเขาถึงต้องการพลังนั้น...” หลี่หลินถามด้วยความสงสัย
“พลังของเหวินหลงมีความสามารถในการควบคุมเงาและสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงให้เกิดขึ้นได้” หลิวจิ้งอธิบาย “มันเป็นพลังที่สามารถสร้างหรือทำลายได้ตามที่ผู้ครอบครองต้องการ”
“ถ้าเช่นนั้น...” นางพูดเบา ๆ “ข้าต้องช่วยเหวินหลงให้พ้นจากคำสาปนี้ให้ได้”
“เจ้ามีความมุ่งมั่นที่ดี” หลิวจิ้งกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ “แต่มันยังไม่พอ เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่านี้”
วันต่อมา
หลิวจิ้งตัดสินใจเพิ่มระดับการฝึกฝนให้กับหลี่หลิน เขาพานางไปยังพื้นที่ลับที่ลึกเข้าไปในป่าซึ่งมีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมหนาทึบ แสงแดดแทบจะไม่สามารถส่องผ่านเข้ามาได้
“สถานที่นี้...” หลี่หลินเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งเงา” หลิวจิ้งอธิบาย “เจ้าจะสามารถฝึกฝนพลังของเจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“แล้วข้าต้องทำอย่างไร” นางถามด้วยความตั้งใจ
“ข้าจะสร้างเงาจำลองขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า” หลิวจิ้งกล่าว “เจ้าไม่เพียงแต่ต้องควบคุมเงา แต่ต้องเรียนรู้ที่จะใช้พลังนั้นในการป้องกันตัวและโจมตี”
หลี่หลินพยักหน้าอย่างมั่นใจ แม้ว่าความกลัวจะยังคงแฝงอยู่ในจิตใจของนาง แต่นางก็รู้ว่าตนเองต้องเผชิญหน้ากับมัน
หลิวจิ้งยกมือขึ้น และทันใดนั้น เงามืดที่อยู่รอบ ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหว มันรวมตัวกันกลายเป็นร่างจำลองที่ดูคล้ายกับอัศวินในชุดเกราะสีดำสนิท
“มันคือเงาจำลองที่ถูกสร้างขึ้นจากจิตใจของข้า” หลิวจิ้งกล่าว “เจ้าต้องเอาชนะมันเพื่อพิสูจน์ว่าพลังของเจ้าพัฒนาไปถึงระดับใดแล้ว”
“ข้าเข้าใจ...” หลี่หลินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เงาจำลองก้าวเข้ามาใกล้นาง มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทรงพลัง ทุกการโจมตีที่มันปล่อยออกมานั้นรวดเร็วเกินกว่าที่นางจะหลบได้ทัน
“เจ้าต้องใช้เงาของเจ้าเพื่อป้องกันตัว” หลิวจิ้งกล่าวขณะเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ “สร้างเกราะหรืออาวุธขึ้นมา แล้วใช้มันในการต่อสู้”
หลี่หลินพยายามทำตามคำแนะนำ นางยกมือขึ้นและเรียกเงาที่อยู่รอบ ๆ ให้รวมตัวกันเป็นโล่สีดำสนิท แต่เงาจำลองโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็วจนโล่แตกสลาย
“ข้า...ข้าไม่สามารถทำได้...” นางกล่าวด้วยความสิ้นหวัง
“เจ้าไม่อาจยอมแพ้ได้” หลิวจิ้งกล่าวอย่างเข้มงวด “หากเจ้าไม่สามารถควบคุมพลังของเจ้าได้ เจ้าไม่มีทางที่จะช่วยเหวินหลงได้”
คำพูดนั้นกระตุ้นให้หลี่หลินรู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้น นางหลับตา หายใจเข้าลึก และพยายามจดจ่อกับพลังของตนเอง
“ข้าจะไม่ยอมแพ้...” นางพึมพำกับตัวเอง
เงาที่อยู่รอบ ๆ เริ่มรวมตัวกันอีกครั้ง กลายเป็นโล่ที่ใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น
“ใช่... แบบนั้น” หลิวจิ้งกล่าวด้วยรอยยิ้มที่พอใจ “เจ้ากำลังเริ่มเข้าใจพลังของเจ้าแล้ว”
