ตอนที่ 9 แผนตลบหลังอดีตคนรัก ep.3
“จริงครับ ตอนนี้ดูภายนอกเหมือนบริษัทของเธอจะกระเตื้องขึ้นแต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ..แต่ตอนนี้เธอกำลังเปิดขายหุ้น จะเปลี่ยนแปลงบริษัทให้เป็นมหาชน..”
“หาทางขัดขวางไม่ให้ใครไปซื้อหุ้นของบริษัทเธอ..”
ทฤษฎ์ธาดากระซิบบอกทรงชัย คนที่เขาสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดทุกเรื่อง เพียงแค่มีเงิน
“เอาความลับเรื่องการเงินและรายได้กับค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาของบริษัทเธอไปเปิดเผย..”
“จะเอามาได้ยังไงครับ..”
“อย่าห่วงเรื่องนั้นผมมีวิธี..”
ทฤษฎ์ธาดายิ้มน้อย ๆ เมื่อพอจะเห็นลู่ทางบางอย่าง
“ปล่อยข่าวให้คนงานประท้วง ขอขึ้นค่าแรง เพราะว่าบริษัทมีผลกำไรมากในไตรมาสที่ผ่านมา..”
“ครับ..”
ทฤษฎ์ธาดาเขียนเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งส่งให้ทรงชัยเป็นค่าแรง ทำให้ทรงชัยยิ้มรับด้วยสีหน้าที่สดชื่นก่อนจะออกไป
“อีกไม่นาน ญารินดา.”
เขาหลับตาเบา ๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเมื่อนึกถึงหญิงสาววัยยี่สิบสีปี ที่สวยโสภาและงดงามอย่างเย้ายวน เจ้าของเรียวปากอิ่มที่หอมหวาน
เพียงแค่ได้จูบเธอ ได้กอดเธอ หัวใจของเขาก็สั่นไหวราวกับอยู่กลางพายุที่บ้าคลั่ง ทั้งที่เขาเองก็ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย แต่พอได้อยู่ใกล้เธอ เหมือนมีพลังดึงดูดที่ทำให้เขาอยากเข้าใกล้ อยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ
โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่ฉายแววหยิ่งยโสและทระนงคู่นั้น มันทำให้เขาอยากจะเอาชนะเธอ ในยามที่เธอจนแต้มเขาอยากจะรู้นักว่า สายตาคู่นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไร
“อะไรนะ!..”
ญารินดาร้องถามผู้จัดการด้านการตลาดของบริษัทด้วยความฉงน
“เป็นไปได้ยังไง ข้อมูลของบริษัทเรา โดยเฉพาะเรื่องการเงิน มันรั่วไหลได้ยังไง..แสดงว่า มีใครบางคนที่ทรยศเรา กล้าเอาเรื่องบัญชีของเราออกไป..”
“ผมว่าบางทีอาจจะมีใครสนใจที่จะร่วมลงทุนในการซื้อหุ้นของเราก็อาจจะเป็นได้ เขาอาจจะอยากรู้ถึงงบการเงินของเรา เลยอยากได้ไปเพื่อวิเคราะห์ก่อนการลงทุน..”
“บ้าที่สุด..”
เธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก
“เรื่องนี้ถือเป็นความลับสุดยอดที่จะบอกใครไม่ได้ แม้ว่าจะต้องหลอกเขาว่าบริษัทของเรามีผลกำไรอย่างน่าทึ่งก็ตาม หากไม่มีเงินทุนมาหมุน ..”
เธอทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นเมื่อรำพันกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองหน้าชายวัยสามสิบเศษ ที่เป็นผู้จัดการด้านการตลาด
“เปิดประชุมวันนี้ตอนบ่ายโมง ช่วยบอกเลขาของฉันให้จัดการด้วยเมื่อคุณออกไป..”
“ได้ครับ..”
เมื่อคล้อยหลังผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผู้จัดการโรงงานกับหัวหน้าคนงานก็ขอพบเธออย่างเร่งด่วน
“เป็นไปได้ยังไง ใครเป็นผู้นำ..”
“ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำ ดูเหมือนพวกเขาจะรวมตัวกันเองนะครับ..”
“เขาบอกว่าในเมื่อบริษัทมีกำไร ทำไมไม่ขึ้นค่าแรงให้เขา หากไม่ยอมขึ้นค่าแรงพวกเขาจะหยุดงานแล้วลาออก..”
“หากพวกเขาลาออกจริง ๆ..”
ญารินดายกมือขึ้นแล้วหลับตานิ่งอยู่ชั่วครู่
“พวกเขาเอาข่าวมาจากไหนว่าบริษัทมีกำไร..”
“เหมือนมีใบปลิวที่ไม่รู้ที่มา บอกข่าวนี้ครับ ..”
ผู้จัดการโรงงานส่งใบปลิวให้เธอ
“เจ้านายโหด งก ได้กำไรอย่างงามแต่ไม่ยอมขึ้นค่าแรง ดีแต่ใช้ กดขี่แรงงาน..”
เธอขยำใบปลิวแผ่นนั้นไว้แน่น
“จะทำอย่างไรดีครับ..”
ญารินดาระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า
“ต้องหยุดคนงานให้ได้ก่อน ให้พวกเขายอมทำงานต่อ..”
เธอเอ่ยออกมาเบา ๆ
“เลื่อนการประชุมเป็นวันพรุ่งนี้เก้าโมง..”
เธอกดสัญญาณเสียงบอกเลขาก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าผู้จัดการโรงงานและหัวหน้าคนงาน ตรงไปยังโรงงานเพื่อพูดคุยกับคนงาน
“คนงานหยุดประท้วงและทำงานต่อแล้วครับ..”
“เพราะอะไร..”
ทฤษฎ์ธาดาเอ่ยถามนายทรงชัยเมื่อเขาโทรศัพท์เข้ามา
“ผมไม่แน่ใจแต่ดูเหมือนว่าคุณญารินดาจะออกไปพูดกับคนงานด้วยตัวเองครับ..”
“ญารินดาหรือ?..”
“ครับ..”
ทฤษฎ์ธาดานิ่งไปชั่วครู่
“กว้านซื้อวัตถุดิบที่เธอจำเป็นต้องนำเข้าโรงงานมาเก็บไว้ให้หมด เพิ่มราคาวัตถุดิบให้บริษัท ที่ขายส่งให้คุณญารินดาประจำ และไม่ว่าบริษัทไหนที่ขายวัตถุดิบที่จำเป็นของบริษัทเธอ กว้านซื้อมาให้หมด ใช้ชื่อผู้ซื้อว่า..นฤทธิ์ โภคทรัพย์อนันต์”
“ครับ..ผมจะจัดการให้เร็วที่สุด..”
ทฤษฎ์ธาดาวางสาย
“เก่งนักหรือญารินดา..”
เขายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะกดหมายเลขสั่งคนของเขาให้เตรียมโกดังสำหรับเก็บกักตุนสินค้าที่นายทรงชัยกำลังจะสั่งเข้ามาไปเก็บไว้ที่นั่น
