ตอนที่ 8 รับชายารองเข้าจวน (2)
จ้าวโหยวเหลือบมองอู่หยงที่สีหน้าสงบนิ่งที่ยืนสำรวมอยู่ข้างเซียวอวี้ ก่อนจะก้มหน้ายิ้ม “เช่นนั้นผู้น้อยก็สมควรเข้าวังไปกราบทูลฮองเฮาแล้ว”
“อู่หยง ไปส่งจ้าวกงกง” เซียวอวี้ยกถ้วยชาขึ้นจิบไม่มองจ้าวโหยวอีก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวโหยวมาที่จวนเขาเพราะเหตุผลไร้สาระเล็ก ๆ น้อย ๆ เขารู้ดีว่าในจวนเขามีหูตาของฮองเฮาอยู่ ใช่ว่าเขาไม่อยากจัดการ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น นี่ทำให้เขาได้เห็นว่าฮองเฮารู้เห็นทุกความเคลื่อนไหวในจวนนี้และคอยเล่นงานเขาอยู่เรื่อยมา ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ฮองเฮารู้ว่าเขากับคุณหนูหลินเยี่ยมีใจเสน่หากันมานานแต่ก็ยังยกเรื่องชายาเอกของเขาขึ้นมาตอกย้ำ ว่าหากเขาพลาดพลั้งละเลยกฎเกณฑ์ในจวนเมื่อไร นางพร้อมจะเล่นงานเขาอยู่ทุกเมื่อ ฮองเฮาเป็นผู้ที่เห็นคนอื่นมีความสุขไม่ได้ จึงต้องสอดมือเข้าไปยุ่งอยู่ร่ำไป
เซียวอวี้ยิ้มหยัน เขาทนฝืนกลืนน้ำชาขมร้อนลวกปากลงไปได้อีกแค่ครึ่งถ้วย
เพล้ง!
ถ้วยชาแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย น้ำชาสาดกระจายอยู่บนพื้น
อู่หยงที่รีบเดินอยู่ไกล ๆ ได้ยินเสียงทางนี้จึงรีบวิ่งมาดู เห็นพวกสาวใช้ชะเง้อมองแต่ไม่กล้าเข้าไปในโถงข้าง เขาขมวดคิ้วแล้วดุเสียงดังก่อนจะไล่พวกนางไป ตัวเขารีบสาวเท้าเข้าไปในโถงข้าง เห็นทั้งน้ำชาและเศษถ้วยชาเกลื่อนอยู่บนพื้น ที่สำคัญคือกระเบื้องปูพื้นแตกไปหนึ่งแผ่นจากแรงกระแทกของถ้วยชา
เซียวอวี้หลับตาพยายามระงับโทสะ เขาสูดหายใจเข้าออกแรง ๆ หลายครั้ง เมื่อลืมตาอีกที สีหน้าและท่าทีเฉยชาเฉกเช่นปกติก็กลับมาแล้ว
“ส่งบัญชีรายรับรายจ่ายของจวนทั้งหมดไปให้พระชายา พาผู้ดูแลฝ่ายต่าง ๆ ไปให้พระชายารู้จักไว้ นับแต่นี้เป็นต้นไป เรื่องดูแลจวนให้เป็นหน้าที่นาง ผู้ใดเกียจคร้าน ทำผิด ให้พระชายาสำเร็จโทษได้ตามสมควร” พูดจบเขาสะบัดชายแขนเสื้อเดินจากไป
อู่หยงรู้ดีว่าครั้งนี้ฮองเฮาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องภายในของจวนลี่อ๋องมากเกินไปแล้ว ยังดีที่พระชายาไม่ใช่สตรีหัวแข็ง มิเช่นนั้นท่านอ๋องของเขาจะยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่
เขารีบไปจัดการเรื่องที่ท่านอ๋องสั่ง โดยพาคนและสมุดบันทึกสำคัญของจวนไปยังเรือนเฉียนเกอด้วยตัวเอง
จินเหยามองผู้ดูแลแต่ละฝ่ายแนะนำตัวด้วยท่าทางที่นอบน้อมกว่าหลายวันก่อนนัก อู่หยงพาคนมาและก็ถอยออกไปแล้ว เดิมที่จินเหยาไม่เข้าใจเซียวอวี้นัก แต่พอคนทั้งหมดกลับไปแล้ว แม่นมฝูก็เข้ามากระซิบข้างหูนางว่าฮองเฮาส่งขันทีข้างกายมาหาเรื่องท่านอ๋องอย่างเช่นเคย ทำให้ท่านอ๋องต้องระวังตัวจึงส่งมอบทุกอย่างในจวนให้พระชายาดูแลตามสมควร
“ตอนเข้าวังข้าก็พอจะรู้แล้วว่าฮองเฮาไม่ได้อยากพบท่านอ๋องมากนัก เกรงว่าตอนที่ท่านอ๋องอยู่ในวังคงลำบากไม่น้อย”
“ยิ่งกว่าลำบากเจ้าค่ะ ท่านอ๋องต้องมองสีหน้าคนอื่นทุกเรื่อง ต้องเก็บงำความสามารถทุกด้านเอาไว้ให้มิด ไม่เช่นนั้นคนที่พร้อมจะกระชากท่านอ๋องอย่างฮองเฮาไม่มีทางปล่อยท่านอ๋องมาถึงทุกวันนี้แน่”
ในวังหลวงคือถิ่นเสือแดนมังกร อยู่ไม่ยาก แต่จะเอาตัวรอดนั้นไม่ง่าย
“เรื่องในจวนข้าจะรับไว้ก่อนก็แล้วกัน วันไหนท่านอ๋องอยากส่งมอบหน้าที่ให้ใคร ข้าแค่ส่งคืนไปเท่านั้น”
“พระชายา ที่ท่านอ๋องทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าท่านอ๋องยังให้เกียรติพระชายาอยู่เจ้าค่ะ มิเช่นนั้นท่านอ๋องจะทำนิ่งเฉยไปก็ได้ เหตุใดต้องปกป้องพระชายาจากฮองเฮาเช่นนี้ด้วย”
จินเหยาแค่ฟังไว้แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาให้เกียรตินางนั้นย่อมใช่ แต่ไม่ใช่ความสนิทเสน่หาฉันสามีภรรยาแน่นอน ทั้งตัวเขาและตัวนางล้วนพึ่งพาอาศัยให้อยู่รอดในราชวงศ์นี้ก็เท่านั้นเอง
หลังจากนั้นจินเหยาสะสางบัญชีของจวนพร้อมกับผู้ดูแล รวมทั้งเร่งตระเตรียมงานแต่งรับชายารองที่กำลังจะมาถึง ทุกอย่างแม้จะมีปัญหายิบย่อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เงินจากคลังส่วนกลางถูกเอาออกมาใช้เกินครึ่ง จินเหยาจึงแบ่งเงินส่วนตัวของตัวเองออกมาใช้ในงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน
วันนี้เป็นวันงานมงคลแล้ว นางตื่นแต่เช้าสวมอาภรณ์ของพระชายาเอกชินอ๋องอยู่ในโถงพิธี ราชโองการแต่งตั้งถูกประกาศต่อหน้าบ่าวสาวและทุกคนในโถงพิธี แม้ขั้นตอนจะไม่ได้ยุ่งยากอย่างการแต่งพระชายาเอก แต่กระนั้นก็วุ่นวายอยู่ครึ่งค่อนวันเช่นกัน เสร็จการคำนับฟ้าดิน เจ้าสาวถูกพาไปห้องหอที่เรือนเยี่ยฮัว จินเหยาคอยดูแลแขกฝั่งสตรีโดยมีแม่นมฝูคอยช่วย เซียวอวี้อยู่ฝั่งแขกบุรุษพร้อมกับเจ้ากรมพิธีการที่พาคนมาช่วยดูแล งานเลี้ยงเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ผู้คนจึงพากันเห็นใจจินเหยาอยู่มาก แม้เป็นชายาเอกแต่สามีไม่ได้โปรดปราน ซ้ำบ้านเดิมของชายารองก็เหนือกว่าบ้านเดินของตน มีแต่คนคิดว่าพระชายาลี่อ๋องต้องอยู่อย่างลำบากเสียแล้ว
