ตอนที่ 5 ชมดอกเบญจมาศ (1)
จินเหยาตื่นเช้ามาทำอาหารให้เซียวอวี้ด้วยตัวเอง วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ฟังจากแม่นมฝูว่าเขาชอบทานมื้อหนักในตอนเช้า จินเหยาจึงตุ๋นเนื้อกินคู่กับซาลาเปาและแผ่นแป้งโรยต้นหอมซอยที่ม้วนให้หยิบจับง่าย เซียวอวี้ชอบทานเนื้อและอาหารรสจัด แต่เขาก็ชอบทานของหวานตบท้ายด้วยเช่นกัน ดังนั้นจินเหยาจึงทำขนมหยกมรกตให้อีกจาน ส่วนของว่างนางจัดเกี๊ยวแห้ง ขนมถั่วกวนและผลไม้อบแห้งไปให้ ของอู่หยงกงกงก็เหมือนกัน ส่วนมื้อเที่ยงนั้นเขากินที่ทำงานได้ ตอนเย็นหากไม่มีเลี้ยงสังสรรค์ก็จะกลับมากินข้าวที่จวน
วันนี้จินเหยาหมักเนื้อไว้เพื่อสำหรับอาหารมื้อเย็น นางจะย่างเนื้อหมักสุราหวานทาด้วยน้ำราดรสเปรี้ยวหวานอีกที ทุกครั้งนางจะสนุกกับการคิดรายการอาหารให้เซียวอวี้ไม่น้อย
แม่นมฝูเดินเข้ามาพร้อมซองเทียบเชิญ จินเหยาเลยล้างมือและเดินกลับไปยังห้องน้ำชา จิบชาที่อี้หลวนส่งให้สองอึกแล้วรับเทียบเชิญจากแม่นมฝูมาเปิดอ่าน
ในเทียบเชิญนั้นมีความว่า ชวนนางและลี่อ๋องไปชมดอกเบญจมาศ เป็นเทียบเชิญมาจากจวนสู่อ๋อง
จินเหยาเงยหน้ามองแม่นม
“องค์ชายใหญ่มีเรือนรับรองนอกเมือง ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นสวนดอกเบญจมาศ ทุกปีจะเชื้อเชิญแขกไปเที่ยวเล่นด้วยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องของพวกเราก็ไปทุกครั้ง”
“เช่นนั้นเทียบเชิญนี้ต้องให้ท่านอ๋องดูก่อนหรือไม่”
“พระชายามิต้องกังวลไปเจ้าค่ะ เทียบเชิญมีสองฉบับ ฉบับนี้ส่งให้พระชายาเป็นพิเศษ ส่วนท่านอ๋องได้รับเทียบเชิญมาก่อนแล้วและคาดว่าท่านอ๋องคงตอบรับไปแล้วด้วย ถึงตอนนั้นพระชายาแค่เดินทางไปพร้อมท่อนอ๋องก็พอเจ้าค่ะ” แม่นมฝูอธิบายไปพร้อมรอยยิ้ม
“ได้ แม่นมช่วยบอกท่านอ๋องด้วยว่าข้าจะไป”
“ได้เจ้าคะ พระชายาจะสั่งตัดชุดใหม่หรือไม่ ยังมีเวลาเหลือหลายวัน หากเร่งหน่อยต้องเสร็จทันแน่นอน”
“ก่อนออกเรือนท่านแม่สั่งตัดชุดให้ข้าไว้มากแล้ว แค่หาที่เหมาะสมมาสักชุดก็ใช้ได้” จินเหยายิ้มตอบ ท่านแม่ของนางสั่งตัดชุดทั้งสี่ฤดูมาให้นางมากมายจนใส่แทบไม่ทัน นางจะไปสั่งตัดชุดใหม่อีกทำไมกัน แต่ของเซียวอวี้ย่อมต้องตัดใหม่บ้าง นางจึงให้แม่นมฝูเอาชุดเดิมของเซียวอวี้มาวัดขนาดและเลือกผ้าและแบบเองส่งไปให้ร้านตัดเย็บ กำชับให้ทางร้านเร่งมือให้สักหน่อย แม้ต้องจ่ายเงินเพิ่มก็ไม่ว่า
ผ่านไปหกวัน จนถึงวันที่ระบุในเทียบเชิญของจวนสู่อ๋องแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดราชการที่มีทุกๆ ห้าวัน เซียวอวี้จึงไม่ต้องลางาน ส่วนจินเหยาก็ลุกขึ้นรับอาหารเช้าและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แม่นมฝูมาตั้งแต่เช้าและมาช่วยเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ
“ในคลังของท่านอ๋องไร้เครื่องประดับงดงาม จะเอาออกมาให้พระชายาก็จะขายหน้าเอา”
“ของข้าก็มีมากแล้ว เครื่องประดับชุดที่ท่านส่งมาให้วันกลับไปเยี่ยมบ้านชุดนั้นก็งดงามมาก จะใส่ชุดนั้นไปก็ได้”
“ไม่ได้เจ้าคะ เครื่องประดับชุดนั้นหาได้มีราคาค่างวดอะไร พระชายาเก็บไว้ใส่เล่นตอนอยู่ในจวนก็พอแล้ว”
“แม่นมฝูอย่ากังวลไปเลย เช่นนั้นท่านช่วยเลือกเครื่องประดับพวกนี้ให้ข้าเถอะ แม้จะมีมากมาย แต่ข้าก็เลือกไม่ถูกเลย”
“พระชายาโปรดไว้ใจบ่าวเถอะ ไปงานเลี้ยงครั้งนี้จะให้น้อยหน้าผู้ใดไม่ได้โดยเฉพาะชายาสู่อ๋อง”
“แม่นมช่วยเล่าเรื่องชายาสู่อ๋องให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่”
“ชายาสู่อ๋องมาจากสกุลหลี่ คือสกุลเดิมของหลี่กุ้ยเฟยเจ้าค่ะ หลี่กุ้ยเฟยมีศักดิ์เป็นอาหญิงของนาง หลี่กุ้ยเฟยเป็นคนอย่างไร ชายาสู่อ๋องก็ไม่ต่างกัน พวกนางถือตัว มักใหญ่ใฝ่สูง แม้กับองค์รัชทายาทก็ไม่เกรงใจ เพียงแต่ติดที่บ้านเดิมของฮองเฮามาจากจวนแม่ทัพใหญ่ จึงกดข่มสกุลหลี่และหลี่กุ้ยเฟยไว้ได้ พระชายาแค่โอนอ่อนคล้อยตามแต่อย่าได้ก้มหัวให้นางก็พอเจ้าคะ”
จินเหยารับฟังอย่างตั้งใจ ถึงอย่างไรเรื่องในรั้วในวังนางก็รู้น้อยกว่าแม่นมฝู เพราะฉะนั้นจึงยินดีรับคำแนะนำของแม่นมฝู
เมื่อถึงเวลา จินเหยามารอที่โถงหน้าเช่นเคย ครั้งนี้เซียวอวี้ไม่ให้นางรอนาน เขาเดินนำไปขึ้นรถม้าก่อน จินเหยาจึงก้าวตามไป ขณะมองเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งตัดเสร็จบนร่างเขาด้วยความพอใจ ทั้งสองนั่งเงียบตลอดทางเช่นเคย มีอู่กงกง สีฉงองครักษ์และอี้หลวนตามไปด้วย
สำหรับจินเหยาแล้ว นางไปงานเลี้ยงของเชื้อพระวงศ์ครั้งแรก แม้จะตื่นเต้นแต่ก็ต้องสำรวมกิริยา จะให้ใครมาดูถูกไม่ได้เป็นอันขาด นางสวมเสื้อผ้าที่แม่นมฝูเลือกให้ เสื้อผ้าพวกนี้นางมองว่างดงามเกินความจำเป็น แต่ท่านแม่ที่มองการณ์ไกลย่อมต้องเข้าใจอะไรได้ดีกว่านาง แม่นมฝูเองก็อยู่ในวังมาก่อนย่อมสายตาแหลมคมมากกว่านาง ชุดที่นางเลือกให้จึงเป็นชุดรัดอกสีม่วงอมชมพู คาดทับด้วยแทบผ้าคาดเอว คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีม่วงดอกติงเซียง ที่ปกเสื้อปักลวดลายบุปผาดอกเล็ก ศีรษะปักด้วยปิ่นทองรูปหงส์ห้อยระย้าหยกขาว ตุ้มหูชุดเดียวกัน กับกำไลข้อมือหยกสลักลาย
ตรงเอวมีถุงหอมและหยกประดับชิ้นเล็กแต่ล้ำค่าหายาก โดยรวมแล้วดูคล้ายเรียบง่าย แต่กลับดูงดงามอ่อนช้อยสมฐานะ ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยจนดูขัดสน
