7. ความพลาดผิดชีวิตเปลี่ยน

“ป่านนี้ บุญญิสาจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

พอลลาร์ด พูดขึ้นมาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม เขานั่งอยู่ในห้องภายในโรงแรม เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องบินจากไครส์เชิร์ชไปยังเมืองเวลลิงตัน โดยจะต้องกระเตงสาวน้อย เอมม่า ไปด้วยกันตามคำสั่งของ ออกัส

“ก็อยู่กับพี่ชายของฉันน่ะสิ..”

เอมม่า มีแววตาสะใจหน่อย ๆ เธอเป็นสาวน้อยวัย 22 ปี ที่ยังมีความสดใสอยู่มาก

“พี่ชายคุณนี่มันร้ายกาจจริง ๆ เลยนะ คุณต้องโทรไปบอกเขา ให้ไปส่งโบว์ ที่โอ๊คแลนด์ ให้เธอได้พบกับเพื่อนของเธอที่นั่น ไม่ใช่พาไปตระเวนทัวร์กับพี่ชายคุณ”

“ไม่ดีหรือไงที่พี่ชายฉัน ทำหน้าที่แทนคุณทุกอย่าง พาเธอเที่ยวให้ครบหนึ่งเดือนตามที่คุณได้วางแผนเอาไว้ยังไงล่ะ”

“ถ้าคุณไม่ท้อง ผมคงไม่ยอมปล่อยให้พี่ชายคุณทำแบบนี้แน่”

พอลลาร์ด หงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“ช่วยไม่ได้ก็คุณทำฉันท้องนี่นา..คุณก็ต้องรับผิดชอบ” เอมม่า ยิ้มเยาะ

“ผมจะรับผิดชอบในการรับรองว่าเขาเป็นลูกของผมเท่านั้น”

“แล้วคุณก็จะไปแต่งงานกับผู้หญิงไทยคนนั้นน่ะหรือ อย่าลืมนะคุณรับปากกับพี่ชายของฉันว่าจะเลิกล้มงานแต่งงานกับเจ้าหล่อนไปแล้ว”

เอมม่า บอกย้ำเตือนเขาด้วยเสียงดุดัน

“ก็ผมเคยบอกคุณเสมอว่าผมวางแผนกับบุญญิสาเอาไว้แล้ว”

“เชอะ..วางแผนไว้..แต่คุณกลับทำฉันท้องทุเรศสิ้นดี”

“ถ้าจะทุเรศ เราก็ทุเรศด้วยกันทั้งคู่น่ะแหละ..ถ้าคุณไม่เมา ผมไม่เมาจนขาดสติจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือ”

“คุณโทษฉันหรือพอล..” เอมม่า ส่งเสียงถามอย่างไม่พอใจ

“เปล่า..ผมโทษตัวเองต่างหากที่หลวมตัวไปกับการยั่วยวนของคุณ”

“นี่คุณหาว่าฉันยั่วยวนคุณงั้นหรือ..”

“ก็หรือไม่จริง...ผมรู้นะว่าคุณต้องการจะประชดเจ้าหนุ่มที่ชื่อสมิธนั่น พอเขาทำท่าสวีทหวานกับผู้หญิงคนอื่นให้คุณเห็น คุณก็เลยมายั่วยวนผมเป็นการประชดเขา”

“ไม่ใช่นะ..ฉันไม่ได้แคร์สมิธสักหน่อย เขาจะมีผู้หญิงคนไหนก็ช่างหัวปะไร”

เอมม่า เสียงดัง สีหน้าเหมือนจะโกรธเขา ที่พูดถึงชายหนุ่มชื่อสมิธ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่ควงของเอมม่า มาก่อน เอมม่า รู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้รักพอลลาร์ด แม้แต่น้อย แต่ก็อยากจะประชดสมิธ อย่างที่เขาพูดนั่นแหละ

เอมม่า เคยคลั่งไคล้ สมิธ มาก่อน แม้จะรู้ว่าเขาเจ้าชู้แต่ก็คิดว่าเธอจะเอาชนะใจเขาได้ แต่เธอคิดผิด สมิธ ควงผู้หญิงในผับให้เธอเห็นต่อหน้าต่อตา เธอจึงประชดเขาด้วยการหันไปสนใจพอลลาร์ด ที่เผอิญมาเที่ยวผับในเวลานั้นด้วย

แต่ก่อนหน้านี้ เธอได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ พอลลาร์ด ในฐานะเพื่อนร่วมงานของพี่ชายแล้ว เมื่อมาเจอพอลลาร์ด อีกครั้งที่ผับ เธอจึงวาดลวดลายเป็นสาวน้อยร้อนรักยั่วยวนเขาในทันที เพื่อให้สมิธ ได้เห็นฝีมือว่าเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าเขาเช่นกัน เธอดื่มเหล้ากับพอลลาร์ดไปเยอะมาก ก่อนจะไปจบที่เตียงนอนห้องของพอลลาร์ดในคืนนั้น โดยที่เธอกับเขาไม่ได้ป้องกันอะไรเลย

เอมม่า ไม่ได้เสียใจสักนิดกับสิ่งที่ทำลงไป เธออยากจะให้สมิธได้เจ็บใจเล่นเท่านั้นเอง ที่เธอหันมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพอลลาร์ด หนุ่มใหญ่วัยสุขุมลุ่มลึก เพื่อให้สมิธได้สำนึกว่าหนุ่มน้อยวัยยี่สิบห้าอย่างเขานั้นไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย

แต่เอมม่า ไม่ได้หยุดความสัมพันธ์กับพอลลาร์ด เพียงครั้งที่เมานั้นครั้งเดียว ทว่า..เธอกลับนัดพบมีอะไรกับเขาอีกหลายครั้งด้วยกัน

“เราแค่มีอะไรกันเท่านั้น เราต่างมีอิสระในการที่จะมีใครก็ได้ ไม่ผูกมัดซึ่งกันและกัน”

เอมม่า บอกแก่พอลลาร์ด เช่นนั้น ซึ่งเขาก็รู้สึกพอใจและยอมรับ เขายอมเปิดเผยเรื่องที่เขากำลังวางแผนจะแต่งงานกับบุญญิสา สาวไทยที่ติดต่อกันข้ามประเทศได้เกือบสามเดือนแล้ว ท่าทางของเขาดูจริงจังกับผู้หญิงไทยคนนั้นมาก ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงกันมาก่อนเลย แต่เอมม่า ก็ไม่ได้สนใจกับเรื่องที่พอลลาร์ด กำลังจะแต่งงาน เพราะเธอก็ไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับเขา จนกระทั่งวันที่เธอรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง

เอมม่า ทุกข์ใจกับการตั้งครรภ์มาก เธอไม่ได้เปิดปากบอกเรื่องนี้ให้พอลลาร์ด รู้เลย เพราะเห็นเขากำลังมีความสุขที่จะได้แต่งงาน เขาถึงกับลางานเอาไว้หนึ่งเดือน เพื่อจะได้พาว่าที่เจ้าสาวของเขาที่เดินทางมาจากเมืองไทยไปท่องเที่ยว

ยิ่งใกล้วัน ที่เขาจะต้องไปรับผู้หญิงไทยคนนั้นที่สนามบินเมืองไครส์เชิร์ช เอมม่า ก็ยิ่งร้อนรุ่มกระวนกระวายใจจนไม่สามารถจะปิดบังเรื่องนี้ไว้กับตัวอีกต่อไป เธอตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้กับ ออกัส ผู้เป็นพี่ชายได้รับรู้เป็นคนแรก พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่พอลลาร์ด กำลังวางแผนจะแต่งงานกับผู้หญิงไทยคนนั้นด้วย

“ผู้หญิงไทยงั้นหรือ”

ออกัส เอ่ยถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงเครียด ภาพของผู้หญิงไทยในอดีตที่ออกัส เคยคลุกคลีเด่นชัดขึ้นมาในสมองทันที ทั้งที่เขาพยายามที่จะไม่นึกถึงภาพเลวร้ายนั้นอีก หลังจากผ่านมาหลายปีแล้ว

“ใช่ค่ะ..พอลเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงไทย” น้องสาวตอกย้ำให้พี่ชายได้ฟัง

“หมอนั่นคบหากับผู้หญิงไทยอยู่ด้วยในขณะที่เขาก็มีเธอด้วยงั้นหรือ”

ออกัส ถามน้องสาวแววตาเคร่งเครียด

“เขาติดต่อผู้หญิงไทยคนนั้น ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากันจริง ๆ เลย แต่เขาก็วางแผนจะแต่งงานกับเธอ พอล ดูจะตื่นเต้นกับผู้หญิงคนนั้นมาก เขาเตรียมตัวไปรับเธอที่สนามบินเช้าวันพรุ่งนี้”

เอมม่า บอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงสะอื้นขึ้นมา

“จะแต่งงานทั้งที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่คนที่เขาทำให้ท้องกลับไม่สนใจงั้นหรือ พี่จะยอมให้เธอแพ้ผู้หญิงไทยคนนั้นไม่ได้หรอกเอมม่า..จำได้ไหมว่าเราแพ้ผู้หญิงไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง ผู้หญิงไทยที่ทำลายชีวิตครอบครัวของเรา”

เอมม่า เข้าใจในคำพูดของพี่ชายอย่างดี

เธอกับพี่ชาย มีบาดแผล จากการกระทำของพี่เลี้ยงชาวไทยที่แย่งพ่อของเธอไปจากแม่ ผู้หญิงไทยคนนั้นทำให้ครอบครัวของเธอแตกแยก มาคราวนี้เธอกำลังท้องกับพอลลาร์ด คนที่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงไทย

เอมม่า นึกอยากจะเอาชนะผู้หญิงไทยคนนั้นขึ้นมาเสียแล้ว เธอไม่อยากจะแพ้ผู้หญิงไทยเหมือนที่แม่ของเธอเคยแพ้มาแล้ว

เช่นเดียวกับความคิดของ ออกัส ที่เขารู้สึกไม่ดีต่อผู้หญิงไทย ภาพของพี่เลี้ยงชาวไทยที่ชื่อแอ๋ว หน้าตาใสซื่อที่เดินทางมาเป็นพี่เลี้ยงของออกัส กับ เอมม่า ที่ประเทศออสเตรเลียเด่นชัดขึ้นมาทันที แอ๋วเข้ากันได้ดีกับ ออกัส และ เอมม่า เพราะความที่ผู้หญิงไทยคนนั้นดูสุภาพนุ่มนวลให้ความอบอุ่น ทำให้สองพี่น้องรักเธอมาก ถึงกับรบเร้าให้เธอสอนภาษาไทยให้ จนถึงขั้นพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้คล่องทั้งสองพี่น้องด้วยซ้ำ

แต่ความรักความไว้ใจก็ต้องมาพังทลาย เมื่อพี่เลี้ยงไทยได้ใช้มารยาแย่งพ่อไปจากแม่ได้สำเร็จ

ออกัส โทษผู้หญิงไทยที่เป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกแยก แม้ทุกวันนี้พ่อของเขาจะเลิกกับแอ๋วไปแล้ว แต่พ่อกับแม่ของเขาก็ไม่สามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกันได้อีกต่อไป เพราะแม่ของเขาได้แต่งงานใหม่กับชาวอาหรับ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศตะวันออกกลาง

ในขณะที่พ่อของเขา ก็ถูกผู้หญิงไทยคนนั้นปอกลอกเงินทองไปจำนวนมาก แล้วก็ตีจากไปหาผู้ชายคนใหม่ ทิ้งให้พ่อของเขาต้องเจ็บปวดอยู่นาน ก่อนจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิง

ชาติเดียวกัน และพ่อของเขาก็เริ่มมาตั้งต้นทำธุรกิจอย่างจริงจังอยู่ที่ออสเตรเลีย และมาเปิดสาขาที่นิวซีแลนด์

ออกัส เรียนจบจากอเมริกา เขาก็ออกเดินทางท่องเที่ยวเกือบปี ก่อนจะเข้ามาช่วยงานที่สาขาในนิวซีแลนด์ในปีนี้เอง

ส่วนเอมม่า ขอตามมาอยู่กับออกัสที่นิวซีแลนด์ด้วย เธอจึงได้รู้จักกับสมิธ และ พอลลาร์ด ที่นี่

ออกัส พา เอมม่า บุกไปหาพอลลาร์ด ยังโรงแรมที่พักในไครส์เชิร์ช กลางดึก เจ้าของห้องแปลกใจกับการมาของสองพี่น้องอย่างมาก แต่ทันทีที่เอมม่า บอกว่าเธอท้องได้สองเดือนแล้ว เขาก็นิ่งอึ้งไป คล้ายคนที่กำลังช็อกจน ออกัส ต้องเป็นคนพูดขึ้นมาว่า

“พอล..คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทิ้งปัญหาให้น้องสาวของผมรับผิดชอบคนเดียว คุณจะไปมีความสุขกับผู้หญิงไทยคนนั้นไม่ได้ ในขณะที่น้องสาวผมกำลังเผชิญกับความทุกข์ ต้องการกำลังใจอย่างมากแบบนี้”

เอมม่า ได้เห็นพี่ชายปกป้องเธออย่างเต็มที่ก็คราวนี้เอง แม้ที่ผ่านมาเธอกับพี่ชาย ดูเหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้สนใจในเรื่องส่วนตัวของกันและกันมากนัก แต่เมื่อถึงคราวที่เธอมีปัญหา ออกัส ก็เข้ามาช่วยให้เธอได้อบอุ่นใจอยู่เคียงข้างเธอ

“คุณท้องได้ตั้งสองเดือนแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาบอกตอนนี้”

พอลลาร์ด เอ่ยถามหลังจากตั้งสติได้แล้ว

“จะบอกตอนไหน คุณก็คือพ่อของเด็กในท้องอยู่ดี..คุณจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้หรอกนะพอล”

ออกัส บอกเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน แม้ ออกัส จะอายุน้อยกว่าพอลลาร์ด ถึงสิบสามปี แต่เมื่อเวลาที่เขาวางหน้าขรึมดุดันก็ทำให้พอลลาร์ด เกรงไปได้เหมือนกัน เหมือนกับเวลาที่ออกัส สั่งงานกับพอลลาร์ด อยู่ที่บริษัท เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว

“ผมไม่ปัดความรับผิดชอบแน่” พอลลาร์ดว่า

“งั้นก็ดี..เราจะได้มองหน้ากันติดในที่ทำงาน”

“แต่พรุ่งนี้เช้าผมจะต้องไปรับบุญญิสา ที่มาจากเมืองไทย ผมวางแผนจะแต่งงานกับเธอ”

พอลลาร์ด บอกความจริง

“รู้ว่าเอมม่าท้องแบบนี้ คุณยังคิดเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงไทยนั่นอีกหรือ”

ออกัส จ้องหน้าพอลลาร์ดนิ่ง

“ผมกับเอมม่า เราตกลงกันก่อนหน้านี้แล้วว่าเราไม่ได้คิดจะผูกมัดกันและกัน”

พอลลาร์ด ทวงคำสัญญาจากเอมม่า

“ถ้าคุณไม่คิดจะผูกมัด ทำไมถึงไม่ป้องกันล่ะ..คุณก็มีประสบการณ์ชีวิตมามากนี่นา ทำไมต้องทำน้องสาวผมท้องด้วย”

“เราเมาด้วยกันทั้งคู่ไม่ทันได้ป้องกัน” พอลลาร์ด บอกอย่างไม่สะทกสะท้าน

“แต่เอมม่าบอกว่าคุณกับเธอมีอะไรกันหลายครั้ง”

ออกัส ก็ไม่ยอมให้พอลลาร์ด แก้ตัวได้เช่นกัน

“ตอนหลังผมป้องกันทุกครั้ง” พอลลาร์ด จ้องหน้าออกัสคืน

“เลิกพูดเรื่องป้องกันหรือไม่ป้องกันซะทีได้ไหม..”

เอมม่า เป็นคนโพล่งขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ก็คือไม่ให้พอลลาร์ด แต่งงานกับผู้หญิงไทยคนนั้นต่างหาก

“แล้วจะให้พูดเรื่องอะไรอีกล่ะ ผมบอกแล้วไงว่าผมจะรับผิดชอบ” พอลลาร์ด บอกเสียงหงุดหงิด

“คุณจะรับผิดชอบฉันยังไงคะ” เอมม่า ถามพอลลาร์ดบ้าง

“ผมจะรับรองการเกิดของลูก”

“อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วล่ะพอล..แต่สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้คือระงับแผนการแต่งงานกับผู้หญิงไทยคนนั้นซะ”

ออกัส บอกเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง เอมม่าพอใจกับประโยคนี้ของพี่ชายนัก

“ผมทำไม่ได้..” พอลลาร์ด บอกเสียงหนักแน่น

“ทำไม” ออกัสถามต่อ

“ผมวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว ผมลางานหนึ่งเดือนเพื่อพาบุญญิสาไปเที่ยวและจะแต่งงานกันหลังจากนั้น”

“คุณก็บอกยกเลิกเธอไปสิ” ออกัส แนะนำ

“ผมทำอย่างนั้นก็แย่เต็มทนแล้ว บุญญิสา อุตส่าห์เดินทางมาหาผมที่นี่ ยอมลาออกจากงานที่เมืองไทยเพื่อมาเริ่มต้นชีวิตที่นี่ผมจะทำให้เธอผิดหวังไม่ได้”

พอลลาร์ด บอกด้วยความทุกข์ใจ

“คุณรักผู้หญิงคนนั้นงั้นหรือ” ออกัส มองหน้าถามความจริง

“ถึงไม่ได้รัก..แต่ผมคิดว่าหนึ่งเดือนที่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกันจะทำให้ผมรักเธอได้ไม่ยากนัก เพราะผู้หญิงไทยเป็นคนที่น่ารักอยู่แล้ว ผมชอบผู้หญิงไทย คุณคงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมก็เคยมีแฟนคนไทยมาก่อน”

คำพูดของพอลลาร์ด ทำให้ออกัส ชะงักไปชั่วคราว เขาหันไปมองหน้าน้องสาวแววตาวาววับ เขาเห็นเอมม่า เม้มปากแน่น