5.ลิขิตทราย
*** ทักทายคร้า ***
ชายต่างวัยทั้งสองยืนประจันหน้ากันท่ามกลางวงล้อมของทหารทั้งสองฝ่าย เมื่อก้าวเข้ามาประจันหน้ากลางวงล้อม อันบาอิสสบตาคมกล้าของอิศราแล้วก้มศีรษะให้นิดหนึ่ง
“หากข้าแพ้ ขอให้ทุกอย่างยุติ อย่าทำร้ายคนที่นี่ พวกเขาลำบากมามากพอแล้ว ฝากดูแลพวกเขาแทนข้าด้วย” อันบาอิสบอก ท่ามกลางสายลมทะเลทรายที่พัดพาเอาฝุ่นทรายลอยปลิวขึ้นบนอากาศ
“เราจะดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด เราสัญญา” อิศราเอ่ยเสียงทุ้มพลางสบตากับอันบาอิสเพื่อยืนยันคำพูด เสียงอินทรีทะเลทรายดังแว่วมาแต่ไกล อันบาอิสหยิบดาบวงพระจันทร์ออกจากเอว ชีคอิศราถอยหลังรับดาบจากเดวิชที่ส่งมาให้
ทั้งสองโรมรันต่อสู้กันอย่างดุเดือด ดาบคมกริบโค้งวาววับตวัดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร กำลังของคนสูงวัยหรือจะต้านกำลังของคนรุ่นใหม่ได้ เพียงไม่นานเลือดแดงฉานก็เต็มตัวอันบาอิส ร่างผอมสูงทรุดลงกับพื้น อิศราถลาเข้าไปประคอง เดวิชและเบนนิชมองอย่างกังวลกลัวเป็นกลลวง
“ฝีมือสมกับฉายาเหยี่ยวเวหา” อันบาอิสบอกเสียงพร่ากระท่อนกระแท่น
“ท่านก็สมกับเป็นจอมโจรทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่” อิศราบอกเสียงเครียด
อันบาอิสยกมือข้างหนึ่งจับบ่ากว้าง แล้วออกแรงบีบเพื่อพยุงตัว
“อย่าลืมคำสัญญา อย่าทำร้ายพวกเขา…” เสียงแผ่วเบาลงเรื่อยๆ หากเสียงหนึ่งกลับดังก้องมาแต่ไกล
“ท่านพ่อ!” เสียงเรียกปิ่มปานจะขาดใจดังมาจากหลังม้าอาหรับตัวใหญ่ ร่างบอบบางในชุดเดินทางทะมัดทะแมงกระโดดลงจากหลังม้าวิ่งเข้ามาประคองร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของผู้เป็นพ่อ มืออีกข้างก็ผลักร่างสูงใหญ่ออกแรงๆ อิศราไม่ทันระวังตัว เสียหลักนั่งลงไปบนพื้นทราย
“อณิมาลูกพ่อ เจ้ากลับมาแล้ว...” อันบาอิสยิ้มอย่างดีใจ หญิงสาวนามอณิมายิ้มให้บิดาทั้งน้ำตา
“ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้ว ท่านต้องไม่เป็นอะไรนะคะ” หญิงสาวกอดบิดาร้องไห้
อิศรามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างแปลกใจ ข่าวที่เขาได้รับคืออันบาอิสไม่มีครอบครัวนี่นา…
“ดูแลพี่น้องเราแทนพ่อ อย่าทิ้งพวกเขา อย่าทิ้งพี่น้องของเรา” อันบาอิสมองไปยังฟายุปกับตัสมินและคนที่ยืนรายล้อมอยู่ใกล้ๆ มือใหญ่กุมมือบางของบุตรสาวไว้แน่น
“ใครที่ทำกับเรา ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ลูกจะแก้แค้นให้ท่านเอง” อณิมาบอกอย่างเคียดแค้น อันบาอิสหันมองร่างสูงที่อยู่ไม่ไกล
“ฝากอณิมาด้วย อย่า...ทำ...” อันบาอิสบอกได้เท่านั้นก็สิ้นใจในอ้อมกอดของอณิมา
“ท่านพ่อ!” หญิงสาวก้มลงร้องไห้กอดศพบิดาไว้แน่น
ฟายุปเดินเข้ามาใกล้จับไหล่บางให้ลุกขึ้น อณิมาสะบัดหลุดจากการเกาะกุม แล้วเดินตรงเข้าไปหมายจะทำร้ายชีคอิศราที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
“อณิมา อย่า!” ฟายุปตะโกนบอกเสียงดัง
“แกฆ่าพ่อฉัน…” มือบางจับดาบที่ตกอยู่บนพื้นทรายตวัดเข้าใส่ ชายหนุ่มก้มหลบ แล้วคว้าข้อมือบางบิดไปด้านหลัง แต่ร่างบอบบางพลิกตัวออกมาตวัดดาบกลับเข้าใส่ทันที ชีคอิศราหลบไม่พ้น ปลายดาบกรีดเข้าไปแขนขวาเลือดไหลเป็นทาง หญิงสาวได้โอกาสกระโจนเข้าใส่อย่างรวดเร็ว มือใหญ่ยกมือรับข้อมือเล็กแล้วบิดอย่างแรง ดาบตกลงบนพื้นทราย
“โอ๊ย!” หญิงสาวร้องเสียงดัง
“เดวิชจัดการด้วย” อิศราส่งหญิงสาวให้กับองครักษ์คนสนิทเพราะต้องจัดการบางอย่าง
“ขอให้ทุกคนฟังเรา อันบาอิสจากไปอย่างสมศักดิ์ศรี เขาเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตเพื่อเผ่าเบดูอินทุกคน ต่อจากนี้ทางรัฐจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี ขอให้ทุกคนเชื่อใจเรา หลังจากนี้ต่อไปเราจะอยู่กันอย่างสันติ ทุกคนจะได้รับการฝึกอาชีพและมีงานทำ โดยไม่ต้องเร่ร่อนและอดอยากอีกต่อไป” อิศราบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เสียงพูดคุยปรึกษากันดังขึ้นเบาๆ อณิมามองผู้ชายที่ยืนพูดด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนจะออกแรงดิ้นเพื่อให้หลุดจากการจับกุม อิศราเห็นสายตาเกลียดชังที่มองมาก็ถอนหายใจเบาๆ
ทหารเข้าเคลียร์พื้นที่ ชีคอิศรากำลังนั่งคุยอยู่กับฟายุปและตัสมินในกระโจม อณิมานั่งร้องไห้ข้างศพบิดาที่ถูกนำมาวางไว้บทแท่นเพื่อประกอบพิธี มีเบนนิชยืนเฝ้าอยู่ไม่ไกล
“ท่านทั้งสองจะทำยังไงต่อไป” อิศราถามเสียงเรียบ มองผ่านม่านออกไปยังร่างบอบบางที่นั่งร้องไห้ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุอย่างไม่รู้สึกรู้สา เพราะกำลังอยู่ในห้วงของความทุกข์ระทม
“อนาคตของพวกเราทุกคนคงแล้วแต่ท่าน เราสองคนน้อมรับทุกอย่างเพราะเป็นความประสงค์ของท่านพี่อันบาอิส” ฟายุปเอ่ยอย่างนอบน้อม ลำพังตัวเขาเองคงไม่มีกำลังพอที่จะไปสู้รบกับกำลังทหารที่แข็งแรงอย่างกองทัพเหยี่ยวเวหาได้
“เราจะสร้างบ้านให้ทุกคนมีที่อยู่ พวกผู้หญิงก็จะต้องเข้าไปฝึกอาชีพที่ศูนย์ฝึกอาชีพ จนกว่าจะสามารถออกมาประกอบอาชีพได้” อิศราหันไปสบตากับฟายุปและตัสมิน
“ขอบคุณท่านชีคที่เมตตาพวกเรา พวกข้าสัญญาจะจงรักภักดีต่อพระองค์ตลอดไป” ฟายุปทำหน้าที่เป็นตัวแทนเผ่ากล่าวขอบคุณจากใจจริง
“ชีคเลือดไหลไม่หยุด ห้ามเลือดก่อนเถอะครับ” เดวิชบอกอย่างเป็นห่วง
“เดี๋ยวข้าให้อณิมาเข้ามาทำแผลให้” ฟายุปบอกพลางเดินออกไป แต่อิศราเรียกไว้ก่อน
“ไม่เป็นไร เธอคงกำลังเสียใจ” อิศราเอ่ยเสียงต่ำ
“ข้าต้องขอโทษแทนอณิมาด้วย ได้โปรดอย่าลงโทษนางที่บังอาจทำร้ายผู้นำแห่งชวาลา” ฟายุปบอกอย่างตื่นตระหนก เมื่อรู้ว่าโทษของการทำร้ายองค์เหนือหัวของชาวชวาลาคือประหารชีวิตสถานเดียว
**** ****
