บท
ตั้งค่า

บทที่ 3: ลมหายใจปีศาจ

วารีกลับออกจากห้องเก็บเอกสารในค่ำคืนที่ฝนโปรยบางเบา ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยเสียงดังอื้ออึงของความจริงที่เพิ่งเปิดเผย เธอเลือกจะไม่เผชิญหน้ากับหมอหัตถาทันที — ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะต้องการ "ฟังความเงียบ" ให้มากกว่านี้อีกสักนิด

หนึ่งสัปดาห์ถัดมา

วารีกลับมาที่โรงพยาบาลจิตเวชวังแก้วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะผู้สังเกตการณ์อิสระในโครงการศึกษาพฤติกรรมผู้ป่วยร่วมกับทีมอาจารย์จิตแพทย์

แน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกหมอหัตถาถึงข้อมูลที่เธอรู้

เธอนั่งมองเขา... ทุกการเคลื่อนไหว

เช้าวันหนึ่ง

ห้องตรวจยังคงเงียบเหมือนเดิม แต่วันนี้มีบางอย่างแปลกออกไป

หมอหัตถาใส่น้ำหอมกลิ่นจาง ๆ ที่ไม่ใช่กลิ่นประจำตัวเขา

มันไม่ใช่กลิ่นพุดซ้อนแบบเดิม

มันคือ “กลิ่นข้าวมันไก่” — กลิ่นที่ถูกซ่อนในกลิ่นดอกไม้ ราวกับใครบางคนปรุงขึ้นมาอย่างตั้งใจ

วารีเฝ้ามองถ้วยชาดอกไม้ที่เขาเสิร์ฟเธอ เธอไม่ได้แตะมันเลยสักหยด

ในใจเธอแอบนึกถึงการทดสอบพิษสารเคมี ที่สามารถทำได้จากแค่กลิ่นที่มากับไอน้ำ

อีกวันหนึ่งในสวนของโรงพยาบาล

เธอแอบได้ยินหมอหัตถาคุยโทรศัพท์เสียงเบา

“ไม่ต้องห่วงครับ... ไม่มีใครจำบ้านหลังนั้นได้แล้ว”

“ใช่... ตอนเผาทิ้งไป ผมอยู่ด้วย... ถึงแม่จะเป็นคนเริ่ม แต่มันก็จบไปนานแล้ว”

คำว่า “แม่” ในประโยคนั้นทำให้วารีขนลุกวาบ

ยายสาเคยอ้างว่าเป็น “ป้า” ของหมอหัตถาในเอกสารราชการ

แต่ในเสียงกระซิบนี้ — เขาเรียกเธอว่า “แม่”

วารีเดินกลับไปที่ห้องพักในโรงแรมเล็ก ๆ ที่เธอเช่าไว้ระหว่างการสังเกตการณ์ เธอวางรูปยายสาไว้ข้าง ๆ แฟ้มประวัติของหมอหัตถา แล้วเปิดสมุดโน้ตเล่มเล็ก

หน้าแรก เขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ว่า...

"แม่ไม่ได้เลี้ยงลูก... แม่สร้างปีศาจ"

เธอยังไม่พร้อมจะพูดกับหมอหัตถา

เพราะปีศาจบางตน... ต้องถูกดักฟังตอนกระซิบในความมืด

วารีกลับมายืนหน้าแผนที่เก่าของเมืองในห้องสมุดประชาชน ภายใต้แสงสลัวของโคมไฟหัวโต๊ะ เธอกำลังไล่นิ้วตามถนนเส้นเก่า ถนนที่ถูกลบชื่อไปแล้วจากแผนที่รุ่นใหม่ ถนนที่ยายสาเคยเอ่ยถึงในบทสนทนา... “ตอนนั้นหลังบ้านยังอยู่ติดสวนมะม่วง ยุคที่คนยังต้มฟืนทำครัว ไม่ใช่ไฟฟ้าแบบนี้”

ขณะเธอกำลังจดข้อมูลลงสมุด เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นเบา ๆ จากด้านหลัง

“ถ้าคุณกำลังหาบ้านที่ถูกเผาในปี 2532 ผมอาจช่วยได้”

ชายคนนั้นชื่อว่า “อินทัช”

อดีตบรรณารักษ์ที่เคยอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ

เขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่ย้ายออกหลังเหตุการณ์ “ไฟไหม้ลึกลับ” ในซอยท้ายวัดวังแก้ว

ปัจจุบันอินทัชเป็นผู้ดูแลคลังเอกสารเก่าในโบสถ์ร้างใกล้ชานเมือง และที่นั่นเองที่เขาเก็บ “ของบางอย่าง” ไว้

ในโบสถ์ร้าง

อินทัชพาวารีเดินผ่านแถวของตู้เหล็กขึ้นสนิม ก่อนจะเปิดกล่องไม้ใบหนึ่ง

“นี่คือพิมพ์เขียวบ้านยายสา รุ่นที่ยังไม่เคยส่งให้เทศบาล เพราะมันมีห้องลับ... ห้องที่ไม่มีใครในบ้านเคยพูดถึง”

วารีหยิบพิมพ์เขียวนั้นขึ้น ภายในระบุโครงสร้างห้องใต้ดินขนาดเล็ก ที่ถูกซ่อนไว้ใต้พื้นห้องครัวของบ้านหลังนั้น

อินทัชพูดช้า ๆ:

“ผมเคยได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องจากใต้ถุนบ้านนั่นคืนหนึ่งก่อนบ้านจะถูกไฟไหม้...

ตอนนั้นผมไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะหมอหัตถายังเป็นแค่เด็กที่นิ่งผิดปกติ”

วารีชะงัก... ความเงียบปะทะหัวใจเธออีกครั้ง

ไฟที่เผาบ้านวันนั้น อาจไม่ใช่เพื่อทำลายหลักฐานอย่างเดียว

แต่อาจเพื่อ “ฝัง” บางสิ่ง... ที่ไม่ควรถูกเปิดเผย

หลังจากวารีแยกกับอินทัชในยามบ่ายที่แดดเริ่มอ่อน เธอขับรถไปยังจุดหมายใหม่ — ซากบ้านหลังเก่าของยายสา ที่อยู่ในเขตปลายเมือง เขตที่ไม่มีใครอยากแวะโดยไม่มีเหตุผล

แต่ระหว่างทาง...

เธอสังเกตว่ารถสีเทาคันหนึ่ง ตามมาในระยะที่ใกล้ผิดปกติ

ในกระจกมองหลัง

คนขับเป็นชายวัยกลางคน สวมหมวกแก๊ปต่ำบดบังใบหน้า

เมื่อเธอเลี้ยว... เขาเลี้ยว

เมื่อเธอหยุด... เขาชะลอ

วารีตัดสินใจทดสอบ —

เธอแกล้งเลี้ยวเข้าซอยแคบ แล้วจอดรถดับเครื่อง

...เสียงเครื่องยนต์ของรถสีเทาดับตามมาเงียบ ๆ

เธอคว้ามีดพับในช่องเก็บของหน้ารถ เตรียมใจไว้ทุกทาง

แต่ก่อนที่เธอจะลงจากรถ

ชายคนนั้นกลับเปิดกระจกช้า ๆ แล้วโบกมือ

“ขอโทษครับ! คุณทำสมุดหล่นไว้ที่ห้องสมุด ผมเลยรีบขับตามมาคืน!”

วารีนิ่งงัน

เขาหยิบสมุดโน้ตปกดำเล่มเล็กที่เธอใช้จดข้อมูลในห้องสมุด

ข้างในยังมีแผนที่วาดมือกับพิมพ์เขียวที่อินทัชให้ไว้แนบอยู่

วารี (ถอนหายใจ):

“ขอบคุณค่ะ... ฉันเข้าใจผิดไปหน่อย”

ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ แล้วขอตัวกลับ เธอมองตามเขาจนรถลับตา

แม้เหตุการณ์จะจบลงโดยไม่มีอะไรน่าหวาดหวั่น

แต่ก็ทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจเธอ — หรือเธอเริ่มหวาดระแวงเกินไป?

ยามเย็น ณ ซากบ้านเก่าหลังสวนมะม่วง

ที่ดินเปล่ารกร้าง ต้นไม้ขึ้นหนาทึบ

มีเพียงซากกำแพงบางส่วนที่ยังยืนหยัด

กลิ่นเขม่ายังอบอวลจาง ๆ คล้ายไม่เคยจางหายจากวันเพลิงไหม้

วารีก้มลงสำรวจพื้น

และพบฝาท่อปูนซีเมนต์ทรุดตัวอยู่ใต้เศษไม้

เมื่อเปิดออก... มีบันไดเหล็กขึ้นสนิมทอดลึกลงไปในความมืด

เสียงนกร้องสุดท้ายของเย็นวันนั้น

เงียบไปเมื่อวารีเริ่มก้าวลงทีละขั้น...

ที่นั่นคือห้องลับที่ถูกลืม

หรือบางที... อาจไม่เคยมีใครลืมเลย

พวกเขาแค่ เลือกจะไม่พูดถึงมันอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel