บทที่ 5
“ไม่ปล่อยจะทำไม” ร่างสูงโปร่งมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มร่างกาย นงนภัสสัมผัสเนื้อแท้กำยำที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทั่วทั้งตัว เล่นอะไรแผลงๆ อีกแล้ว
“อย่าค่ะ ไปเช็ดตัวให้เรียบร้อย” เธอทำเหมือนดุเด็กเล็กๆ ที่ไม่รู้จักโต
“เช็ดให้หน่อยซิ” วายุยังไม่ยอมคลายกอด
“คุณลมปล่อยนะ” หญิงสาวขนลุกซู่เมื่อลมหายใจอุ่นรดที่ต้นคอผ่านมาถึงบ่าบาง สองแขนรั้งตัวเธอเข้าไปหาจนแนบชิด
“ไม่ปล่อย ไม่ทำอะไรทั้งนั้น” คางคมสันเกยซบบนบ่าใกล้แก้มสาว นงนภัสร้อนวูบวาบทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนเฉยปล่อยให้วายุได้ใจมากขึ้นไปอีก
“นมนิ่มให้เอาข้าวต้มกับยามาให้ค่ะ ทานซะจะได้ไม่เป็นไรมาก” นงนภัสพยายามจะแกะมือที่รั้งเอวออก แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จเพราะนอกจากทำอะไรไม่ได้แล้วยังถูกรวบไปกุมรวมกันอีกต่างหาก
“นมนิ่มใช้หรือเอามาให้เอง” เขากระซิบถามข้างหู อยากรู้ว่าใครสั่งหรือเธอห่วงกันแน่
“นมนิ่มค่ะ”
“ถ้างั้นไม่กิน เอาเก็บกลับไป”
นงนภัสใจหายที่จู่ๆ มือที่รั้งตัวเธอไว้คลายออกอย่างรวดเร็ว การกระทำที่ทำให้เลือดสาวร้อนรุ่มจบลงกระทันหัน หนำซ้ำวายุยังทำหน้างอเดินหนีเตรียมจะเข้าห้องน้ำไปอีกรอบด้วย
"คุณบอกว่าปวดหัว ทานข้าวซะหน่อยแล้วค่อยทานยา”
“ฉันไม่กิน พูดไม่รู้เรื่องหรือไง” วายุไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้เปิดโทรทัศน์ดูอย่างสบายใจ
“แต่ เอ่อ...” นงนภัสรู้ว่าเขาแกล้งเร่งเสียงโทรทัศน์ให้ดังยิ่งขึ้น
วายุทำไม่สนใจว่ามีนงนภัสอยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าหล่อนจะทำอย่างไรต่อ จะง้อเหมือนเมื่อก่อนหรือเมินใส่ไม่สนใจเพราะมีคนอื่นสำคัญกว่าแล้ว
“คุณลมคะ ทานข้าวซะหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อนคุณลมเพิ่งกลับมาอาจจะปรับตัวไม่ทัน ทานข้าวทานยาแล้วค่อยดูก็ได้นะคะ”
นี่ไง ...สิ่งที่ทำให้วายุได้ใจมากขึ้นไปอีก
จะกินง่ายๆ ก็ไม่ใช่วายุเสียแล้ว อยากให้ทำอะไรให้ก็ต้องมีขอแลกเปลี่ยนกันหน่อยซิ
เมื่อก่อนถ้านงนภัสอยากให้ทำอะไรให้หรือจะขอร้องอะไร เจ้าหล่อนมักมีคำอ้อนวอนหวานๆ หน้าตาใสๆ หรือข้อแลกเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าชีวิตอย่างเขาพึงพอใจทุกครั้ง
“ใช่ อากาศมันร้อน ฉันเลยไม่ค่อยอยากออกแรงทำอะไรเอง แล้วจะกินได้ไงล่ะ” เขาหันมาถามหน้าตาเฉย
มีหรือที่นงนภัสจะรู้ไม่ทันว่าเขาต้องการให้เธอทำอะไร ถ้าเป็นสมัยเด็กแค่ยืนป้อนข้าวให้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่นี่โตแล้ว ต่างคนต่างโตเป็นหนุ่มเป็นสาวจะมาป้อนอะไรกันอีกเล่า
วินาทีวัดใจว่าใครจะทำอะไร วายุกดรีโมตเปลี่ยนช่องดูไปเรื่อยๆ เหมือนไม่ได้จงใจแต่ฆ่าเวลามากกว่า ในขณะที่นงนภัสชั่งใจว่าควรทำอย่างไรต่อดี
“ทานข้าวค่ะ คุณลม” หญิงสาวยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“ก็บอกแล้วไงว่าขี้เกียจออกแรงเอง มันร้อนไม่ใช่เหรอ ถ้าเคลื่อนไหวเหงื่อออกมันก็ยิ่งร้อนยิ่งปวดหัว”
เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย ...
นงนภัสนึกหมั่นไส้ในใจ ถ้ากินเองไม่ได้ก็ไม่ต้องกินแล้วกัน แค่ตักข้าวเข้าปากมันจะออกแรงมากแค่ไหนกัน หญิงสาวระมัดระวังตัวเองมากขึ้น นับจากคืนที่เขาบุกเข้าไปปล้นจูบแรกในชีวิตไปหน้าตาเฉย อย่าหวังเลยว่าจะยอมทำอะไรให้ตัวเองเสียเปรียบอีก
“ตกลงไม่ทานใช่ไหม ถ้างั้นฟ้าเอาไปเก็บนะคะ” นงนภัสยกถาดอาหารไปเก็บทันที
“เดี๋ยว”
“ใจคอเธอจะให้ฉันหิวตายหรือไง ตั้งแต่กลางวันฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ”
“คุณลมก็ลุกมาทานข้าวซิคะ”
“ฉันนั่งแล้วขี้เกียจลุก เดินเอามาให้หน่อย” วายุวางรีโมตไว้ข้างตัวอย่างสบายอารมณ์
“นี่คะ ว้าย...”
ถาดอาหารวางข้างตัวแต่คนยกถูกรั้งมานั่งที่ตักคนรอ นงนภัสขยับไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นเพราะตอนนี้วายุกอดเธอเอาไว้แน่น
“หิวข้าว” เขาพึมพำเบาๆ ใบหน้าแนบที่สีข้างใกล้อกอิ่ม กลิ่นกายสาวโชยเข้าจมูกจนไม่อยากขยับทำอะไรทั้งสิ้น
“ปะ ปล่อยค่ะ คุณลม” ลมหายใจที่รดข้างตัวทำให้นงนภัสรู้สึกแปลกๆ ยิ่งเรือนกายกำยำที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวสะโพกงามสัมผัสบางอย่างที่หน้าขาได้ แก้มสาวแดงระเรื่อปั่นป่วนบอกไม่ถูก อยากจะลุกหนีแต่ก็ไม่กล้า
“หิว...” เขาเผลอสูดดมและแนบปลายจมูกเข้าที่ด้านข้างตรงฐานอกอิ่ม นงนภัสขนลุกแต่ต้องฝืนความรู้สึกไว้
“ป้อนหน่อย” มือหนารั้งเอวงามให้หันหน้ามาหาตัว อกอิ่มอยู่ในระดับใบหน้าวายุกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“คุณลมไม่ใช่เด็กๆ นะคะที่ต้องป้อนข้าว” น้ำเสียงนงนภัสสั่นเล็กน้อย
“เมื่อก่อนเวลาฉันไม่สบาย เธอก็ป้อนข้าวป้อนน้ำไม่ใช่เหรอ” สายตาคมเงยหน้ามองคนหน้าแดง
หัวใจนงนภัสสั่นไหว ได้โปรด อย่าทำสายตาเช่นนี้เลย
มันทำให้ใจสาวกำลังจะละลายกำแพงที่ตนสร้างไว้
กำแพงแห่งความต่างของชนชั้นและชาติกำเนิด
กำแพงที่ทำให้เธอต้องพยายามดิ้นรนหนีออกห่างจากความเป็นรามบดินทร์
กำแพงที่กั้นความรู้สึกแห่งการรอคอยมาทั้งชีวิต
“ป้อนนะ ฉันหิว” ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่ขอร้อง วายุทำราวกับตนเองเจ็บป่วยปางตาย
“ปล่อยก่อนแล้วจะป้อน” อย่างน้อยก็ให้เธอหายใจหายคอได้หน่อย เล่นกอดไว้แบบนี้และยังจะสายตาเว้าวอนขอที่ทำให้ลืมทุกสิ่งไปอีก
วายุยอมคลายกอดออกเล็กน้อยแต่ไม่ปล่อยหญิงสาวออกห่างตัว นงนภัสยอมทำตามคำขอที่ให้ไว้แต่แรก มือเรียวสั่นเล็กน้อยค่อยๆ ตักข้าวต้มป้อนใส่ปากคนแกล้งป่วย
“น้ำด้วย”
ลูกไล่คนสวยทำตามอย่างว่าง่าย ไม่ช้าข้าวต้มในชามก็หมดเรียบร้อย ทีนี้ก็เหลือยาแก้ไข้
“ยาค่ะ” นงนภัสยื่นถ้วยยาให้
“ไม่” คนดื้อสวนทันควัน
“แต่คุณลมต้องทานค่ะ” นงนภัสเอ่ยเสียงแข็ง
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบกินยา”
