บทที่ 4
เสียงหัวเราะดังลอดออกมากจากห้องพักของคนไข้ คนที่ยืนอยู่หน้าประตูชะงักเงี่ยหูฟังว่าข้างในกำลังคุยอะไรกัน วายุแวะมาเยี่ยมมารดาก่อนกลับบ้านเหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่วันนี้รู้สึกว่าจะมีแขกพิเศษนั่งอยู่ในห้องคนป่วยด้วย
“คุณลม” นมนิ่มร้องทักด้วยความดีใจ
สีหน้าของคุณหญิงนาถดูดีขึ้นมาก พร้อมที่จับการผ่าตัดในอีกไม่กี่วันแล้ว ข้างเตียงของนางมีใครบางคนที่คุ้นตาและทำให้หัวใจแทบลุกเป็นไฟ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไร นายลม” กรณ์ รณภัทรหันมาทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน
“นายสบายดีนะ” วายุปรายตาไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างกรณ์
นงนภัสยืนยิ้มหวานให้กรณ์อยู่ข้างๆ มันช่างขวางหูขวางตาเสียเหลือเกิน อยากจะไปลากตัวเจ้าหล่อนมาอยู่ใกล้ๆ แล้วจัดการลงโทษอีกสักรอบให้เข็ด
“พ่อกรณ์มาเยี่ยม ตาลมกินอะไรมาหรือยัง วันนี้นมนิ่มกลับไปทำซุปมาให้แม่ กินไหมลูก” คุณหญิงถามด้วยความห่วงใย
“ทางนี้เลยค่ะ คุณลม นมอุ่นให้นะคะ” นมนิ่มดึงมือวายุมาอีกทางปล่อยให้คนที่มาเยี่ยมได้คุยกับคนป่วยเต็มที
ซุปกระดูกหมูที่นมนิ่มอุ่นให้ดูจะไม่อร่อยถูกปากเสียเลย เขาแทบไม่สนใจว่าเครื่องเคียงในชามมีอะไรบ้าง กินแค่คำสองคำก็อิ่ม ตั้งท่าจะเดินเข้าไปฟังว่าใครคุยอะไรบ้าง แต่โดนหญิงวัยกลางคนดึงไว้ด้วยผลไม้จานใหญ่
“กินนิดเดียวเอง กินผลไม้อีกหน่อยเผื่อไม่อิ่ม” นมนิ่มคะยั้นคะยอ
ฝรั่งในจานแหลกแทบไม่เป็นชิ้นดี เมื่อกรณ์ลุกขึ้นพนมมือไหว้ลาคุณหญิงนาถแล้วแตะเอวของนงนภัสเดินออกไปต่อหน้าต่อตา
เจ้าหล่อนกล้าดีอย่างไรถึงให้คนอื่นมาถูกเนื้อถูกตัว ทีแค่จูบเมื่อวันก่อนทำอย่างกับจะเป็นจะตาย
“แม่จะนอนแล้วนะ” คุณหญิงหาวเบาๆ
“ผมกลับก่อนก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้แวะมาเยี่ยมแม่ใหม่” วายุก้มลงหอมแก้มมารดาก่อนจะขอตัวกลับไปทันที
เขาแทบจะเหาะกลับบ้านรามบดินทร์เพื่อไปจัดการกับคนที่กล้าบังอาจไปทำดีกับศัตรู
แต่ทว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านเคาะประตูแทบมือหัก คนข้างในก็ไม่ยอมออกมาพูดด้วย พรุ่งนี้วายุจะไปขอกุญแจสำรองทุกห้องมาจากนมนิ่ม ดูซิว่าจะหนีไปไหนได้อีก
วายุทั้งไม่พอใจและหมั่นไส้ที่เห็นนงนภัสยืนคุยกับกรณ์อย่างสนิทสนมที่สนามด้านข้าง เนื่องด้วยคุณหญิงนาถขอร้องให้กรณ์ช่วยเป็นธุระปลูกตึกหลังเล็ก เป็นที่พักสำหรับนางหลังจากที่ผ่าตัดหัวเข่าทั้งสองข้าง
“คุณลมมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” นมนิ่มโผล่หน้ามาถามด้วยความแปลกใจ
“เปล่า ผมกำลังจะเข้าบ้านพอดี บอกพวกนั้นด้วยว่าอย่ามาทำอะไรเสียงดังน่ารำคาญ”
“โถ คุณลม ก่อสร้างก็ต้องมีเสียงโน่นนี่บ้างซิคะ” นางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เข้าใจ แต่ก็ให้รู้กาละเทศะเวล่ำเวลามั่ง ไม่ใช่นึกจะตอกนึกจะทำตอนไหนก็ได้ ที่นี่บ้านคนอยู่ไม่ใช่...” เขายั้งปากไว้ได้ทันแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที
เรื่องก่อสร้างมีเสียงดังรบกวนแค่ชั่วครั้งชั่วคราววายุเข้าใจและไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่ไม่เข้าใจและไม่พอใจก็คือทำไมมารดาต้องเลือกคนที่ไม่ชอบหน้ามาทำงานนี้ด้วย และยังจะ...แม่ลูกไล่ตัวแสบนั่นอีก ยิ้มหน้าบานไม่หุบเดินตามกันเป็นเงาตามตัวไม่ยอมห่าง
เจ้าหล่อนอย่ามาอ้างว่าคุยกับช่างเรื่องการก่อสร้าง ผู้หญิงจะรู้อะไรเรื่องพวกนี้นอกจากอยากอยู่ใกล้ๆ กันมากกว่า ยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นไส้ทำให้หงุดหงิดแต่ก็แอบจับตามองดูอยู่ไม่ห่าง
นมนิ่มให้เด็กไปตามวายุที่ห้องทำงานมารับประทานของว่างที่ศาลาริมสระ ของว่างที่พี่เลี้ยงรู้ใจทำให้ล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งสิ้น เพียงแต่มันกินไม่ลงเพราะมีกรณ์นั่งอยู่ด้วยแถมนงนภัสยังดูแลเป็นพิเศษอีกด้วย
“ของโปรดคุณลมทั้งนั้นเลยค่ะ” นมนิ่มตัดสาคูใส้หมูใส่จานให้ ตามด้วยน้ำตะไคร้ใบเตยเย็นชื่นใจ
“คุณกรณ์รับลอดช่องใช่ไหมคะ” นงนภัสหันมาถามกรณ์ที่นั่งตรงข้ามกับวายุ
ลอดช่องน้ำกะทิของโปรดของกรณ์ถูกนำมาวางตรงหน้าอย่างรวดเร็ว วายุแทบอยากจะหยิบถ้วยลอดช่องเขวี้ยงทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น เพียงเพราะเห็นนงนภัสส่งยิ้มหวานและตักลอดช่องทานอย่างเอร็ดอร่อย
“สาคูเพิ่มไหมคะ คุณลม” นมนิ่มถามอย่างเอาใจ
“ไม่ ผมอิ่มแล้ว”
“ลอดช่องฝีมือนมนิ่มยังอร่อยเหมือนเดิมนะครับ” กรณ์เอ่ยชมจากใจ
นับจากที่ครอบครัวย้ายไปตั้งรกรากที่ต่างจังหงัด โอกาสที่จะได้ทานของอร่อยฝีมือนมนิ่มก็แทบไม่มี เขาเองก็ไม่คิดว่าคุณพี่เลี้ยงใจดีจะยังจำของชอบที่เคยทานตอนเด็กๆ ได้
“นมไม่ได้ทำค่ะ คุณกรณ์ ฝีมือคุณฟ้า” นมนิ่มเฉลยว่าใครเป็นคนทำ
“โอโห้ นี่น้องฟ้าทำเองเหรอ ฝีมือใช้ได้ทีเดียว” กรณ์พยักหน้ารับและขอลอดช่องเพิ่มเป็นด้วยที่สอง
“นมนิ่มเป็นคนสอนน่ะค่ะ” หญิงสาวรู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนที่จ้องมองตนอยู่
เมื่อเหลือบไปมองเห็นสีหน้าและแววตาของวายุที่จ้องเขม็งมาที่ตนเวลานี้ นงนภัสเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อร่อยก็ทานเยอะๆ นะคะ คุณกรณ์ มีอีก” แม่นมใจดีเชื้อเชิญ
วายุรู้สึกว่าใครต่อใครก็พากันให้ความสนใจกับกรณ์จนลืมไปว่ามีเขาอยู่ด้วย โดยเฉพาะรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าของนงนภัสตลอดจนท่าทีสนิทสนมมากเกินไป ยิ่งขวางหูขวางตาจนแทบไม่อยากจะนั่งอยู่ต่อไปได้
“จะไปไหนคะ คุณลม” นมนิ่มร้องถามเมื่อจู่ๆ ก็เห็นวายุขอตัว
“รู้สึกปวดหัว อากาศมันร้อนไปหายาทานก่อนดีกว่า”
วายุเดินดุ่มๆ กลับขึ้นตึกโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ขืนนั่งอยู่ต่อเขาอาจจะได้ชกหน้าใครบางคนเพราะทนไม่ได้แน่
คอยดูเถอะ ใครที่คิดจะแปรพักตร์ มันต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสมที่สุด
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะถือวิสาสะเปิดเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มและยาแก้ไข
นงนภัสรับปากนมนิ่มว่าจะขึ้นไปดูวายุแทนนางที่กลับไปโรงพยาบาลพร้อมกรณ์เมื่อตอนเย็น สาวใช้รายงานว่าชายหนุ่มไม่ลงมาทานอาหารและบอกเพียงสั้นๆ ว่าปวดหัว
“คุณลมคะ” นงนภัสวางถาดลงแล้วเปิดไฟในห้องให้สว่าง
วายุรู้ตัวแล้วว่าใครเข้ามาในห้อง เขาแกล้งปิดไฟและรีบเข้าไปอาบน้ำรอจังหวะให้คนที่เข้ามาเผลอเสียก่อน จากนั้นจึง
“ปล่อยนะคุณลม” นงนภัสตกใจเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง
