ตอนที่ 3.
พัทรดาตาโตอ้าปากค้าง รีบหันหลังเข้ามายืนพิงผนังห้อง ใจเต้นโครมคราม ร่างของผู้ชายตัวเปลือยเปล่าปรากฏอยู่ตรงหน้าโดยไม่คาดคิด แสงไฟจากดวงไฟตรงระเบียง ที่เจ้าของห้องตรงกันข้ามเปิดไว้ สาดแสง ทำให้มองเห็นร่างนั้นชัดตา บวกกับผิวขาวจัดของเจ้าของร่างไร้อาภรณ์ช่วยทำให้การมองเห็นถนัดถนี่มากขึ้น ศีรษะได้รูปสลัดผมที่ยาวระบ่าตัดสไลด์ ตรงปลายชี้นิดๆ ไปมาจนน้ำกระเซ็นแล้วใช้นิ้วสางผมเสยให้เรียบ ทรงผมอินเทรนสไตล์เกาหลีแบบที่ฮิตตัดกันทั่วเมืองนั้นรับกับใบหน้าเรียวยาว ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาสะอาดตา ทำให้แลดูคล้ายหนุ่มแดนกิมจิเข้าไปอีก นักเขียนสาวหัวใจหวิวไหว เต้นรัวแรงเมื่อสายตาแลเลยต่ำลงมา มองเห็นแผงอกกว้างเนียนสะอาดมีหยดน้ำเกาะพราวต้องแสงไฟวิบวับ บริเวณท้องมีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยได้รูปที่เรียกกันว่าซิกแพค อย่างคนชอบออกกำลังกายส่วนใหญ่เขามีกัน สายตาชะงักหยุดแค่นั้น ไม่กล้ามองต่ำลงไปกว่านั้น
“อี๋...ตาจะเป็นกุ้งยิงไหมเนี่ยเรา”
พัทรดารีบถอดแว่นออกขยี้ตาให้ภาพเมื่อครู่จางหายไป หัวใจยังเต้นตึกตัก แก้มนวลร้อนวูบขึ้นมา เกิดจนโตมาถึงป่านนี้เพิ่งเห็นผู้ชายเปลือยกายจะจะตา นี่คงคิดว่าตัวเองหุ่นดีเสียเต็มประดา ถึงกล้าเดินโทงๆตัวเปล่าออกมาอวดสายตาชาวบ้าน นักเขียนสาวอดกระแนะกระแหนไม่ได้ พยายามสงบใจค่อย ๆ เดินมาแง้มม่านหน้าต่างดูอีกครั้ง ในมือกำแว่นตาไว้แน่น
ริมระเบียงฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มคนเดิมยังไม่กลับเข้าไปด้านใน ท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัวไว้เรียบร้อย ไม่น่าหวาดเสียวเหมือนเมื่อครู่ เขาเต้นหยองแหยงกำหมัดชกลมไปมา ทำอย่างกับตัวเองเป็นนักมวย พัทรดาเบ้ปาก ดวงตากลมโตจดจ้องร่างสูงล่ำสันนั้นไม่ละสายตา อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวว่าถูกสายตาของสาวบ้านตรงข้ามจ้องมองอยู่ เขาหยุดชกลมหันมาเบ่งกล้ามทำท่าชายงามยามเบ่งกล้ามตอนประกวด
“ว๊าย!ทำอะไรก็ไม่รู้ น่าเกลียดจริง”
สุดที่จะทนดูต่อไปไหว นักเขียนสาวจึงถอยกลับมาในห้อง วางแว่นตาลงบนโต๊ะหนังสือ แล้วเอามือปิดหน้าทุ่มตัวลงกับที่นอนซุกหน้ากับหมอนนุ่ม พยายามสลัดภาพของหนุ่มข้างบ้านออกจากหัว ภาพของหนุ่มล่ำหน้าขาวลอยวนล่อหลอกจนหัวใจสั่นไหวไปหมด
คนข้างบ้านกลับเข้ามาในห้องจัดการสวมชุดนอน แล้วหยิบแฟลสไดรฟ์มาเสียบคอมพิวเตอร์เปิดดู
“เอ๋...ต้นฉบับนิยายเรื่องเล่ห์รักจอมโจร โดยพัทรดา”เขาอ่านออกเสียงมือก็เลื่อนเม้าท์คลิกดูเนื้อหาภายใน
“เธอต้องแต่งงานกับฉัน ห้ามปฏิเสธนะ เอเธนส์จ้องหน้าหญิงสาวในอ้อมแขนเขม็ง สายตาดุดัน นายบังคับฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม หญิงสาวพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนของจอมโจรหนุ่ม อุ๊แม่เจ้า! นิยายตบจูบหรือเนี่ย...”
อาราอ่านไปบ่นงึมงำไป แต่ไม่ยอมละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ ตั้งใจอ่านงานเขียนของนักเขียนสาวต่อ
“ผมไม่สนใจ ตอนนี้คุณเป็นเชลยของผมแล้ว คุณต้องทำตามที่ผมต้องการทุกอย่าง เฮ้อ...จะบ้าตาย ยายแมวคราวไม่รู้คิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ไง งี่เง่าสุดๆ”ปากด่าแต่มือยังคลิกเมาท์เลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุดท้าย
“ความรักทำให้หัวใจสองดวงหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง และจะไม่มีสิ่งใดมาพรากคนทั้งคู่จากกันได้อีก นิยามความรักฉบับนักเขียนนิยายน้ำเน่าแท้ๆ”
อาราทำหน้าย่น ปากเบ้ ไม่ได้ซาบซึ้งกับเรื่องที่อ่านสักนิด ในสมองนึกถึงหน้าคนเขียนอย่างหมดศรัทธา นี่หรือนิยายที่ผู้หญิงชอบอ่านนักหนา มันให้อะไรกับคนอ่านบ้างนอกจากความเพ้อฝันบ้าๆบอๆ ชายหนุ่มดึงแฟลสไดรฟ์ออก ใช้ปลายนิ้วกดปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนหยิบหนังสือมาพลิกดูอีกหน สุดท้ายเขาโยนหนังสือในมือทิ้ง ไม่สนใจว่ามันจะกระเด็นไปตกส่วนไหนของห้อง แล้วลุกขึ้นเดินมาล้มตัวลงบนที่นอน
“เสียเวลาหลับ เวลานอน!”
อาราบ่นเสียงดังก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟ ซุกหน้าลงนอน ครู่ต่อมาก็กรนสนั่นห้องอย่างคนนอนง่ายทั่วไป เมื่อหัวถึงหมอนไม่ต้องกลัวว่าจะหลับไม่ลง
“เอส! ตื่นได้แล้วลูกสายแล้ว!”
เสียงเคาะประตูดังมาพร้อมเสียงแหลมๆของมารดา อาราเงยหน้าขึ้นจากหมอน ก่อนจะซบลงอีก เสียงเคาะประตูยังดังไม่หยุด ทำให้คนที่ตั้งใจจะนอนต่อตัดใจลุกขึ้น
“ตื่นแล้วคร้าบแม่...”อาราตะโกนบอก น้ำเสียงยังงัวเงีย
เสียงเคาะประตูเงียบไป “ตามลงมาทานข้าวนะลูก”เสียงของคุณเอมใจดังมาอีกหน ก่อนจะลากรองเท้าแตะเดินลงบันไดไป
อาราบิดขี้เกียจแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว ตอนเดินออกมาเท้าเหยียบสิ่งหนึ่งบนพื้น หนังสือนิยายที่เขาโยนทิ้งเมื่อคืนนั่นเอง ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาพร้อมยักไหล่
“เฮอะ...นิยายน้ำเน่าของยายแมวคราว”
เขาเดินไปหยิบแฟลสไดรฟ์บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ก่อนเดินลงไปข้างล่าง วันนี้ร้านกาแฟปิดให้บริการหนึ่งวัน เพราะเอมใจจ้างช่างมาทาสีร้านใหม่
อารามองซ้ายมองขวาก่อนเดินเข้าไปเปิดลิ้นชัก แอบหย่อนของที่หยิบมาเมื่อคืนกลับลงไป
“เอสอยู่ไหนลูก!”เสียงคนเป็นแม่ร้องเรียก ทำให้คนที่ทำตัวเป็นแมวสะดุ้งโหยง
“อยู่ทางนี้คร้าบ! ผมกำลังจะเข้าไปแล้วคร้าบ!”
พร้อมเสียงตอบรับอารารีบพาตัวเองไปเสนอหน้า ให้มารดาเห็น
