บท
ตั้งค่า

1:ล้วนไม่เคยเสน่หาต่อผู้ใด

1

ล้วนไม่เคยเสน่หาต่อผู้ใด

ยามโหย่ว หน้าประตูวังหลวง

“ลมอะไรหอบพี่รองมาหาข้าหรือขอรับ?” เซี่ยเฟยหงที่เพิ่งเลิกงานแล้วเดินออกมาเจอพี่ชายคนรองของฮูหยินยืนรออยู่หน้าประตูวังหลวงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“คิดถึง...” หานหมิงซานแสร้งตอบด้วยแววตาหวานเชื่อม ขณะที่ตอบก็รู้สึกขนลุกตัวเองนัก

“ฮ่าๆๆ” เซี่ยเฟยหงหัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าวอย่างรู้ทัน

“จะชวนไปดื่มก็บอกมาเถิดขอรับ”

“ไปด่งไปดื่มอะไรกั๊นนน แค่จะชวนไปกระชับความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง”

“ที่ไหนขอรับ?”

“หอเทียนลู่ฮัว...”

“ไม่ไปขอรับ!” เซี่ยเฟยหงปฏิเสธทันควัน ก่อนจะพูดต่อ

“หากเป็นเหลาสุราธรรมดา ข้าพอจะไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนท่านได้ แต่หากไปที่มีหญิงงามด้วย ข้าไม่ไปเด็ดขาดขอรับ!”

“อะไรเจ้าจะกลัวมี่เอ๋อร์ขนาดนั้น” หานหมิงซานกล่าวพร้อมกับหัวเราะร่วน ก่อนจะชะงักไปเมื่อเจอรังสีอำมหิตจากบุรุษตรงหน้า คุณชายรองตระกูลหานจึงรีบกระแอมแล้วพูดใหม่

“อะแฮ่ม...ข้าหมายถึงอิงมี่”

ไอ้น้องเขยคนนี้! ไหนๆ ก็ละเว้นท่านพ่อให้เรียกมี่เอ๋อร์ได้แล้ว ละเว้นพวกข้าไม่ได้เรอะ!?

พวกข้าเรียกมาก่อนเจ้าอีกนะ แต่จะด่าก็ไม่ได้ เดี๋ยวมี่เอ๋อร์งอน...ตั้งแต่แต่งกันไปก็ปกป้องเซี่ยเฟยหงตลอด พี่ชายอย่างพวกข้าน้อยใจได้ไหม!?

“ไม่ได้กลัวขอรับ แค่ไม่อยากทำให้นางเสียใจ” คำพูดของน้องเขยทำให้หานหมิงซานอดไม่ได้ที่จะไอออกมาราวกับสำลักอะไรบางอย่าง

“เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับพี่รอง หรือมีสิ่งใดติดคอท่านอยู่?” เซี่ยเฟยหงถามด้วยความเป็นห่วง

“สาบานนะว่าเจ้าเคยเป็นคุณชายเสเพลประจำเมืองจินหลิงที่มีไท่ซานคู่บ้านคู่เมืองจริงๆ”

“จริงแท้แน่นอนขอรับ แต่ตอนนี้ข้าเป็นวิฬาร์ของนางคนเดียว” เซี่ยเฟยหงกล่าวยอมรับพร้อมกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย เล่นเอาคู่สนทนาแทบอยากจะหันหลังกลับไปโก่งคออาเจียนด้วยความหมั่นไส้

ไม่ไหวแล้ว! หมั่นไส้คู่นี้เหลือเกิน!

จากนั้นอีกฝ่ายก็พูดต่อพลางมองไปยังพี่เขยคนรองแล้วยิ้มบางๆ

“หากวันไหนที่ท่านพี่มีคนรัก ท่านพี่ก็จะเข้าใจเองขอรับ”

“ฮ่าๆๆ ข้าจะรอดูวันนั้นนะ” หานหมิงซานตอบ ก่อนจะหัวเราะออกมาแต่ในใจนึกแย้งทันที

ฝันไปเถิด! ข้าไม่หาสตรีมาคุมแบบเจ้าหรอก! พูดถึงก็นึกภาพตัวเองตอนมายืนเอ่ยกับคนอื่นแบบที่อาหงกำลังทำมิออกเลย…

แบบนี้เหรอ? ข้าเคยเป็นคนเสเพล๊เสเพล เจ้าชู้ประตูดินสุดๆ แต่ตอนนี้หยุดที่นางคนเดียว

เหอะๆ แค่คิดก็รู้สึกเลี่ยนขึ้นมาแล้ว!

“ต้องมีแน่นอนขอรับ ดูอย่างข้าสิ”

“นั่นเพราะพวกเจ้าถูกจับหมั้นหมายและมีความรู้สึกต่อกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ต่างหาก ส่วนข้ามิเคยมีผู้ใดเลย เอาภาษาสวยๆ ก็ยังมิเคยเสน่หาต่อผู้ใด” ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นการสนทนา

“ไม่ไปหอเทียนลู่ฮัวก็ได้ ไปร้านเหล้าเถ้าแก่เนี้ยกันดีกว่า เพิ่งเปิดใหม่ แต่เห็นวงในบอกว่าสุราดี”

“ไม่เอาร้านที่เจ้าของเป็นสตรีขอรับ” เซี่ยเฟยหงปฏิเสธ

ก็แหม ส่วนมากเถ้าแก่เนี้ยที่เจอมามักจะสวยและมีรูปร่างที่... ไม่ทันไร จินตนาการของเขาก็ปลิวหายไป เมื่อพี่เขยคนรองเอ่ยแทรกขึ้นมา

“เจ้าของร้านเป็นผู้ชาย! แต่ใช้แซ่เนี้ยเฉยๆ”

เพล้ง! เสียงอะไรสักอย่างแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ผู้เป็นน้องเขยจะกล่าวว่า

“อ้อ เช่นนั้นไปขอรับ!”

“ตามข้ามาทางนี้เลย” หานหมิงซานกล่าวพลางเดินนำคู่สนทนาที่ร้างลาจากการท่องราตรีและร่ำสุราในร้านรวงมานาน จนไม่รู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องร้าน ย่าน และที่เที่ยวเริงรมย์ไปยังที่ตั้งของร้าน…

ขณะเดียวกัน กลางป่าใหญ่แห่งหนึ่ง

“บังอาจนัก!” สตรีในอาภรณ์สีเขียวอ่อนที่ดูทะมัดทะแมงตวาดใส่ชายชราชุดขาวราวกับผู้ทรงศีลและมีเคราสีดอกเลายาวเฟื้อยถึงพื้น ซึ่งถูกจับมัดมือไพล่หลังบนเก้าอี้ ใบหน้าเนียนในตอนนี้แดงก่ำด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมา

ผัวะ! โครม! สิ้นเสียงกำปั้นที่กระแทกใส่ใบหน้าตอบ ร่างผอมแห้งของอีกฝ่ายก็หงายหลังตกจากเก้าอี้ลงไปกองที่พื้นทันที

“โอ๊ย!!” ชายชราร้องด้วยความเจ็บปวดทั้งจากการที่ถูกหมัดอีกฝ่ายกระแทก และทั้งตอนที่ร่างตกกระทบพื้น

“พูดจาไม่เป็นมงคลเช่นนี้ก็อย่าอยู่เลย!” เจ้าของกำปั้นตวาดก้อง พลางเตรียมจะไปซ้ำบาทาใส่ร่างตรงหน้า

ทว่า…

หมับ!

“นายหญิง! ใจเย็นๆ ก่อนนะขอรับ” เหล่าสมุนชายฉกรรจ์หลายคนรีบเข้าไปรั้งตัวร่างอ้อนแอ้นที่หาได้บอบบางดังสตรีทั่วไปไว้แล้วลากนางออกมาให้ห่างจากชายชราที่กำลังนอนร้องโอดโอย

“ปล่อยข้า!! ข้าจะจัดการกับเจ้าหมอดูเฒ่ากำมะลอนี่!! บังอาจมาทำนายทายทักว่าข้าเกิดมาไร้คู่ครองที่แท้จริง ดีสุดก็คบได้แต่พวกไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ซ้ำยังกล้าปรามาสอีกว่าเกิดมาต้องทำตัวมั่วไปทั่วทุกชาติไป อย่างชาตินี้เป็นหัวหน้าโจรก็ยังอุตส่าห์เป็นหัวหน้าโจรล่าสวาท หน็อยแน่! ไม่รู้เสียแล้วว่าข้าเป็นผู้ใด!”

ไอ้ไร้คู่ครองที่แท้จริงนางไม่ค่อยซีเรียส หรอก! ทำเป็นหูทวนลมไปก็ลืมได้แล้วแต่อย่างหลังนี่สิ!!

“หัวหน้าโจรปล้นสวาทบ้านบิดามารดาเจ้าหรือ? แล้วยังมีหน้าบอกข้าเป็นสตรีร่านทุกชาติอีก! นี่ใกล้จะย่างเข้า 20 แล้วยังไม่เคยเสน่หาผู้ใดเลย! พวกลูกน้องก็อยู่ร่วมกันฉันพี่น้องมิตรสหาย ไม่เคยมีใครล่วงเกินใคร ไอ้หมอดูกำมะลอ ไอ้เฒ่าลวงโลก ถุย! ช่างพูดออกมาได้!” แม้จะถูกรั้งตัวไว้ แต่ ‘ซือซิง’ ก็ยังคงก่นด่าคนตรงหน้าอย่างเหลืออด พร้อมกับถ่มน้ำลายใส่เจ้าของคำพูด

“นั่นแหละขอรับ ในเมื่อมันเป็นหมอดูกำมะลอ เช่นนั้นอย่าได้ถือสาเอาความกับมันเลย ในเมื่อนายหญิงก็รู้ว่าคำพูดแต่ละอย่างของมันล้วนเชื่อถือมิได้” มือขวาของกลุ่มนาม ‘เผิงเกา’ รีบกล่าวปรามพลางรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก

อุตส่าห์ล้อมดักรถม้าของขบวนการผู้เฒ่ากำมะลอที่ตั้งใจจะจัดขบวนไปตั้งแผงดูดวงและหลอกขายของมงคลที่เมืองเว่ยอี้ได้ จึงจับเหล่าผู้ช่วยของมันมัดกองรวมกันไว้ในยุ้งฉางที่ว่างเปล่า ของกลางทั้งหมดรวบรวมไว้ในรถม้า และเอาตัวหมอนี่มานั่งเก้าอี้เพื่อจะสอบสวนเอาความ แต่ผู้เฒ่ากำมะลอก็ดันอยู่ดีไม่ว่าดี ปากพล่อยพูดถึงดวงนายหญิงซึ่งปีนี้อายุอานามจะปาไป 20 หนาวเรื่องคู่ครอง ทั้งดูถูกที่นางเป็นหัวหน้าโจรยังไม่พอ! หาว่านายหญิงของพวกเขาเป็นสตรีร่านราคะอีก สมควรแล้วที่จะโดนเช่นนี้

ทว่าพวกเขามิอาจปล่อยให้นางจัดการไอ้หมอดูเฒ่ากำมะลอนี่ให้ตายคามือได้ มิเช่นนั้นนางจะโดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ทั้งที่ความจริงอยากจับมันหักคอแล้วเอาไปโยนให้เสือกินเสียด้วยซ้ำ!

“นี่! ข้าก็แค่พูดความจริง! นางโจรเช่นเจ้านอกจากจะดำรงอาชีพทุจริตแล้วคงปล้นสวาทใช้มารยาด้วยล่ะสิ มิเช่นนั้นคงไม่มีบุรุษรายล้อมรอบตัวเชื่อฟังคำสั่งมากมายขนาดนี้” หมอดูเฒ่าที่ยังคงไม่สำเหนียกตัวเองเงยหน้าขึ้นมาเค้นเสียงพูดพลางยิ้มเยาะใส่สตรีตรงหน้า ด้วยดูทีท่าแล้วคนอื่นๆ ไม่ยอมปล่อยให้สตรีตรงหน้ามาทำร้ายตน ทั้งนอกจากนางแล้วก็ไม่มีใครลงมือทำร้ายเขา จึงจงใจกล่าววาจายั่วโมโหออกไปเช่นนั้น

“พวกเจ้าดูมันพูดสิ!! ปล่อย! มารดาจะเอามันให้เลือดตกยางออกเลย!!”

“โจหมี เจ้าก็ทำให้มันหุบปากเสีย” เผิงเกาหันไปกล่าวกับมือซ้ายของกลุ่มอย่างระอา

ปึก! เจ้าของชื่อพยักหน้ารับแล้วประสานมือฟาดใส่ท้ายทอยของหมอดูกำมะลอทำให้มันสลบไปทันที

“เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง!”

“แล้วก็ไม่ทำตั้งแต่แรก…” ชายฉกรรจ์คนอื่นที่ล้วนเป็นลูกน้องของซือซิงกล่าวด้วยความเซ็ง

“ระหว่างที่รอทางการมารับตัวก็เอาไปใส่ตาข่ายดักสัตว์แล้วแขวนไว้บนต้นไม้เสีย!” ซือซิงออกคำสั่งด้วยความโมโห เมื่อเห็นสีหน้าของคนอื่นๆ ที่มองมาจึงสำทับ

“อะไร? ไม่มีความผิดเสียหน่อย!”

“มีข้อหากักขังเหนี่ยวหน่วงขอรับ…” เผิงเกาที่เคยศึกษาเรื่องกฎหมายบ้านเมืองผ่านตามาบ้างตอบ

“หน่วงเหนี่ยว!” โจหมีแก้ให้

“เฮอะ!” หัวหน้าโจรสาวที่ทุกคนล้วนเรียกว่านายหญิงแค่นเสียงอย่างขัดใจ แล้วกล่าวต่อพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็บอกไปว่ามันเป็นอุบัติเหตุสิ! ตาเฒ่านั่นโง่เดินไปเหยียบกับดักเอง ไม่ใช่ความผิดของเราเสียหน่อย ให้เขาห้อยต่องแต่งอยู่บนนั้นสัก 1-2 ชั่วยาม ค่อยไปปลดลงมาก็ได้”

“….” เหล่าชายฉกรรจ์ลอบมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก

“เถอะน่า อีกอย่างพี่ชายก็รู้ดีอยู่แล้วว่าข้าเป็นคนเช่นไร เขาไม่ว่าอะไรหรอก!”

“ขอรับ เอาที่นายหญิงสบายใจเลย” เผิงเกากับโจหมีเอ่ยแล้วหันไปพยักพเยิดให้ฝูกง เจาเยี่ยน โม่เกา จุนจิง ฉงฉิงเข้ามาเอาร่างผอมแห้งที่นอนสลบเหมือดไปจัดการตามคำสั่ง…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel