บทที่ 4 แผนร้าย 1/1
บทที่ 4 แผนร้าย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน บริเวณนี้มีบ้านไม่กี่หลังเท่านั้น และเพราะมีความเกี่ยวพันในฐานะเครือญาติ การที่หว่านซูฉีจะมาที่นี่และต่อให้ใครพบเห็นเข้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ชายรูปร่างกำยำเดินออกมาเปิด เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงทำความเคารพเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูให้เข้ามาด้านใน
“ครับนายหญิง” ท่าทางของชายหนุ่มคนนี้นอบน้อมไม่น้อยเนื่องจากรู้ตัวตนของหญิงสาวตรงหน้านี้ดี และเขาคือคนสนิทอีกคนที่แฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านโดยปลอมตัวเป็นพรานป่า
“จับตาดูปี้เจียวและหมี่ลี่ไว้ด้วยนะพี่จื่อหาน”
“ครับนายหญิง”
จื่อหานตอบรับ การที่นายหญิงสั่งให้จับตาป้าสะใภ้และลูกพี่ลูกน้องนั่นหมายความว่าสองคนนี้ย่อมมีแผนการร้าย เนื่องจากที่ผ่านมาเขาแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านมาสี่ห้าปี ไม่มีสักครั้งที่นายหญิงจะให้จับตามองคนบ้านหว่าน
“อีกไม่นานพี่จื่อหานไม่ต้องอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้วนะ พี่ช่วยคุยกับพี่ใหญ่หน่อยสิว่าให้ไปสมัครงานที่สำนักงานนายหญิงซู และพี่ไปพักอาศัยอยู่ในบ้านของพี่ใหญ่ด้วย พี่ใหญ่และพี่สะใภ้จะได้ไม่แปลกใจเรื่องบ้านหลังนั้น”
หว่านเหวินเปียวมีความคุ้นเคยกับจื่อหานไม่น้อย เนื่องจากพี่สะใภ้คือน้องสาวคนเดียวของจื่อหาน เพียงแต่ตัวตนของนายหญิงซู พี่สะใภ้ของเธอไม่รู้เรื่อง
“ครับนายหญิง”
จื่อหานนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เขาและน้องสาวเร่ร่อนมาตายเอาดาบหน้า เนื่องจากตอนที่เขาเป็นทหารป้าสะใภ้แอบขายน้องสาวให้กับกลุ่มใต้ดิน ในวันที่เขาไปช่วยน้องดันเผลอฆ่าคนตายเข้า เลยตัดสินใจหนีมาเมืองนี้
ก่อนจะมีกลุ่มนักเลงเข้ามาเล่นงานเนื่องจากเขาเป็นคนต่างถิ่น ในขณะที่เขากำลังพลาดพลั้งไม่คิดว่าตู้หมิงจะเข้ามาช่วยไว้โดยคำสั่งของเด็กน้อยคนหนึ่ง
พอรู้เบื้องหลังของเด็กน้อยนามว่าหว่านซูฉี เขาจึงตัดสินใจถวายความภักดีเพื่อตอบแทน เขาและน้องสาวเลยได้มาอยู่หมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อมาปกป้องนายหญิงในเวลานั้นที่ยังเป็นเด็กน้อยวัยสิบสองปี
แต่ใครจะคิดเล่าว่าพี่ชายของนายหญิงเกิดชอบพอซวงซวง และทั้งสองตัดสินใจใช้ชีวิตและแต่งงานกันในที่สุด ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้เป็นย่า
ซึ่งเขาเองไม่คิดว่านายหญิงซูจะเห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างซวงซวงและเหวินเปียว
หว่านซูฉีนั่งพิงพนักเก้าอี้ เธอครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะใช้นิ้วเคาะโต๊ะตามนิสัยเดิมเมื่อต้องใช้ความคิด พร้อมกับเอ่ยเรื่องที่เธอพบเจอตอนเข้ามาในหมู่บ้าน
“วันนี้ตอนที่ฉันกลับเข้ามาหมู่บ้าน คล้ายกับมีคนมองและสะกดรอยตาม แต่ฝ่ายนั้นดูเหมือนจะไม่ได้คิดร้าย แต่อย่างไรฉันก็ยังไม่ไว้ใจ พี่จื่อหานให้คนสืบให้หน่อยว่าใครกันที่สะกดรอยตามหญิงสาวอ่อนแอและขี้ขลาดของบ้านหว่าน”
“ในความคิดผม น่าจะเป็นท่านผู้พันครับ วันนี้ผมเจอท่านโดยบังเอิญบนเขา คล้ายกับท่านไม่ต้องการให้ใครพบเห็น ไม่แน่ว่าอาจจะมาดูหน้าของว่าที่เจ้าสาว แต่ยังไงเรื่องนี้ผมจะสืบอย่างละเอียดอีกครั้งครับ”
การคาดเดาของจื่อหานไม่ผิดเพี้ยน เนื่องจากเขาพบเจอท่านผู้พันตอนไปพบลูกน้องบนเขา ชายหนุ่มจึงคิดว่าท่านผู้พันน่าจะมาแอบมาดูว่าที่เจ้าสาวของตนเอง
“เขากลับมาแล้วหรือ”
“ครับนายหญิง น่าจะเพิ่งมาถึง”
ซูฉีครุ่นคิดเล็กน้อย เวลานี้เขาควรกลับมาแล้ว เนื่องจากอีกไม่ถึงครึ่งเดือนงานแต่งงานก็จะเกิดขึ้นแล้ว ไม่แน่ว่าเมื่อเห็นเธออ่อนแอและดูขี้ขลาดไม่เหมาะที่จะอยู่เคียงข้างเขา ผู้พันหยางอาจจะเป็นคนยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ด้วยตัวเอง
หากเป็นอย่างที่คิดเธอคงเป็นอิสระจากการแต่งงานครั้งนี้
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ซูฉีจึงกลับมายังบ้านหว่านทันที
