บทที่ 2 หว่านซูฉีผู้อ่อนแอ 1/1
บทที่ 2 หว่านซูฉีผู้อ่อนแอ
นายพลหยางเฟยคือบิดาของว่าที่สามีเธอ เขาแต่งงานใหม่หลังจากที่แม่ของหยางซีห่าวตายไป ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีลูกด้วยกัน เนื่องจากนายพลหยางประสบอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ไม่สามารถมีลูกได้อีก แต่ความจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ นอกจากตัวของท่านนายพลและคนในตระกูลหยาง
ทำให้แม่เลี้ยงอย่างเพ่ยจิงหลันต้องพาหลานสาวมาอยู่ด้วย เพราะต้องการให้หลานสาวแต่งกับลูกเลี้ยงของตน เนื่องจากรู้ดีว่าตนเองนั้นหมดหวังที่จะมีทายาทเพิ่มให้กับตระกูลหยาง
เพ่ยจีทำตัวไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ ทั้ง ๆ ที่พื้นเพของเธอเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา โดยที่ตัวของเพ่ยจีเป็นลูกสาวของน้องชายเพ่ยจิงหลัน
“น่าสนุกไม่น้อยนะ แต่งเข้าตระกูลหยางไปฉันคงไม่เหงาแล้วละ”
หว่านซูฉียิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ถ้าสองคนนี้ไม่เข้ามาก้าวก่ายและวุ่นวายกับชีวิตเธอมากนัก ก็จะปล่อยให้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ถ้าเมื่อไรที่ทั้งสองคนล้ำเส้นเข้ามา เธอจะทำให้อยู่ไม่สู้ตายเอง
แต่ถ้าสามีในอนาคตเกิดชอบพอกับหลานสาวแม่เลี้ยงขึ้นมาจริง ๆ เธอจะหาทางให้ทั้งสองได้ครองคู่กัน แถมด้วยใบหย่าและออกมาใช้ชีวิตกับครอบครัว ซึ่งเวลานี้เธอเหลือเพียงพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เท่านั้น รวมถึงพี่จื่อหานและพี่ตู้หมิงที่เธอนับรวมเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน
“แล้วบ้านที่ฉันให้พี่หาให้เป็นอย่างไรบ้าง ขอน้ำขอไฟแล้วหรือยัง” หว่านซูฉีนึกเรื่องบ้านขึ้นได้จึงเอ่ยถามคนสนิท
หลังจากที่เธอแต่งเข้าตระกูลหยางแล้ว จึงไม่ต้องการให้พี่ชายและพี่สะใภ้อยู่บ้านหว่านอีก ต่อให้จะต้องแลกกับเงินสินสอดไม่กี่ร้อยหยวนก็ตาม
“เรียบร้อยแล้วครับ บ้านหลังนั้นพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที แต่ทำไมนายหญิงไม่ให้คุณเหวินเปียวไปอยู่ที่คฤหาสน์ล่ะครับ น่าจะสะดวกสบายกว่า”
ตู้หมิงถามกลับ ในเมื่อคิดจะออกจากบ้านหว่าน ทำไมไม่ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของนายหญิงเลยล่ะ ที่นั่นมีทั้งคนรับใช้ แม่บ้าน รวมถึงคนดูแล ย่อมสะดวกสบายกว่าจะมาอยู่บ้านหลังขนาดกลางข้างบ้านเขา
“อยู่ใกล้พี่นั่นแหละดีแล้ว ฉันยังไม่กล้าบอกพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ว่าฉันคือนายหญิงซู กลัวทั้งสองจะตกใจ อีกทั้งพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใช้ชีวิตแบบชาวบ้านมาตลอด หากจะเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบปุบปับคงตั้งตัวไม่ทัน”
หว่านซูฉีตั้งใจว่าจะบอกพี่ชายเรื่องย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง และให้พี่จื่อหานอ้างว่าจะให้สหายฝากเข้าทำงานกับนายหญิงซู โดยให้ตู้หมิงออกหน้าแทนเธอ ส่วนเรื่องจะบอกความจริงเมื่อไรนั้นคงต้องรออีกสักระยะ เวลานี้หว่านซูฉีไม่ต้องการให้พี่ชายและพี่สะใภ้เป็นกังวลในตัวตนของเธอ
“ครับ นายหญิง” ตู้หมิงเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายต้องการ เลยไม่คิดจะโต้แย้งอะไรอีก
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันกลับก่อนก็แล้วกัน เฮ้อ...ต้องแกล้งเป็นคนอ่อนแอและไม่สู้คนนี่มันลำบากเหมือนกันนะพี่ตู้หมิง”
หว่านซูฉีหันมายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากสำนักงานในทางเข้าออกลับสำหรับเธอและคนสนิททั้งสอง เพื่อกลับไปหมู่บ้านและเป็นหว่านซูฉีผู้อ่อนแอเช่นเดิม
ขณะเจ้านายเดินกลับไป ตู้หมิงมองตามแผนหลังของเธอคล้ายจะเป็นกังวล เขาเห็นหญิงสาวมาหลายปีแล้ว และเขาไม่เคยเห็นว่าจะมีสักครั้งที่หว่านซูฉีได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวคนอื่น
เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา นายหญิงของเขามีความคิดที่ล้ำลึก ไม่แน่ว่าบางความคิดนั้นผู้ใหญ่อายุเช่นเขาก็ยังคิดไม่ได้ แต่หว่านซูฉีกลับคิดได้ และเริ่มทำการค้าตั้งแต่อายุยังน้อย
“หวังว่านายหญิงจะมีความสุขกับสิ่งที่เลือกนะครับ”
ตู้หมิงพึมพำออกมา เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถบังคับนายหญิงของเขาได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม รวมถึงเรื่องแต่งงานในครั้งนี้ด้วย
การที่นายหญิงยอมแต่งเข้าตระกูลหยาง คงเป็นเพราะพี่ชายที่เธอรักมากขอร้อง ไม่เช่นนั้นก็อย่าหวังว่าหว่านซูฉีจะยอมทำตาม
