บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ผู้หญิงขี้อิจฉา

"น้าครับผมหิวแล้ว" หลิวชิงเฟยขมวดคิ้ว พลางมองไปยังหน้าประตูห้องนอน ก็เห็นหลิวซานผู้เป็นหลานชาย ชะโงกครึ่งศีรษะเข้ามามองอย่างขลาดกลัว ครั้นเห็นเธอหันกลับไปมอง เด็กชายก็รีบหลบไปอยู่ข้างประตู

"เฮ้อ..."

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเพราะเห็นท่าทางของเด็กน้อย ดูท่าคงจะกลัวเธอมากกระมัง แต่กระนั้นก็ลุกขึ้นเดินมาหาหลิวซานอยู่ดี เด็กน้อยยืนตัวหดมือกำชายเสื้อเก่า ๆ ของตนเองเอาไว้แน่น สายตาก็มองไปที่ปลายเท้าของตนเอง ไม่รู้เพราะเหตุใดอยู่ ๆ น้ำตาเธอก็อยากจะไหลออกมา ทำไมเด็กคนหนึ่งถึงได้น่าสงสารเช่นนี้

"เช่นนั้นเสี่ยวซานอยากกินอะไรดีจ๊ะ เดี๋ยวน้าจะทำให้กิน" ถึงแม้จะถามว่าอยากกินอะไร แต่ดูแล้วอาหารการกินในบ้านก็ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก เธอเดินจูงมือเดินชายไปนั่งที่โต๊ะกลางบ้าน

"นั่งรอตรงนี้น้าไปต้มบะหมี่สักครู่ เมื่อวานเรายังเหลือเส้นบะหมี่อยู่เลย เสี่ยวซานกินบะหมี่ไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็นน้าค่อยทำของอร่อย ๆ ให้กิน"

หลิวชิงเฟยตบมือลงบนบ่าหลานชายเบา ๆ และเดินหายไปทางห้องครัวหลังบ้าน ทว่าเพียงไม่นานก็เห็นเด็กน้อยเดินตามเข้ามา เกาะขอบประตูมองตาปริบ ๆ หญิงสาวหลุดเสียงหัวเราะออกมา

"ตามมาทำไมเล่า กลัวน้าไม่ทำอาหารให้กินหรือไง"

"ไม่ใช่ครับ...แต่น้าไม่เคยทำอาหารมาก่อน ผมอยากช่วย"

"ไม่เคยทำมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าทำไม่เป็นสักหน่อย ไม่เคยได้ยินหรือว่าลูกผู้ชายไม่ควรอยู่ใกล้ครัว"

"ทำไมอยู่ใกล้ครัวไม่ได้ครับ ตอนที่แม่ล้มป่วยผมก็ต้มข้าวให้แม่กิน" หลิวชิงเฟยเม้มปากเป็นเส้นตรง เธอลืมไปได้อย่างไร ต่อให้เด็กคนนี้จะมีอายุเพียงแค่ห้าขวบแต่ก็โตกว่าเด็กในยุคสมัยของเธอ หากเป็นเด็กในยุคปัจจุบันเกรงว่าตัวแค่นี้คงจะยังนั่งอ้าปาก มือกดโทรศัพท์ให้แม่ป้อนข้าว เหมือนลูกนกลูกกาอยู่เลย

"ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวซานก็มาช่วยน้าทำบะหมี่ก็แล้วกัน แต่ว่าบ้านเราไม่มีเนื้อเหลือแล้วน่ะสิ กินบะหมี่ไข่กับผักได้ไหม"

"ได้ครับ เดี๋ยวผมจุดไฟเองครับ"

"เสี่ยวซานไปเก็บผักให้น้าดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวน้าจะจุดไฟและนวดแป้งเพิ่ม เส้นบะหมี่เหลือไม่มากแล้ว" หลิวซานไม่ได้คัดค้านอีก เด็กชายหยิบมีดอันเล็กและตะกร้าไม้สานเดินออกไปยังหลังบ้าน แปลงผักเล็ก ๆ นี้เป็นแม่เขาที่ปลูกเอาไว้ และยังมีแม่ไก่แก่ ๆ อีกหนึ่งตัว ที่สามวันจะออกไข่สักฟอง ทั้งยังได้เพียงฟองเล็ก ๆ เท่านั้น เด็กชายมองผักที่เริ่มเหี่ยวเพราะขาดการดูแล พลันน้ำตาก็ไหลออกมา ตั้งแต่แม่ล้มป่วยเขาก็คอยดูแลแม่ จนไม่มีเวลามาสนใจผักพวกนี้ สามวันรดน้ำสักครั้ง แต่พวกมันก็ยังรอดมาได้ แล้วทำไมแม่เขาถึงไม่รอดล่ะ ทำไมเธอต้องตายด้วย

หลิวชิงเฟยมองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่หัวไหล่ห่อลง ความจริงหลิวซานเป็นเด็กดี หลิวจิ้งเฟยก็เป็นคนดี มีเพียงหลิวชิงเฟยเจ้าของร่างเดิมเท่านั้นที่นิสัยไม่ดี ร่างเดิมนี้เป็นผู้หญิงโง่เขลาและขี้อิจฉา เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง เมื่อครั้งที่ยังเด็ก รัฐบาลมีโครงการสอบชิงทุนเรียนฟรีที่เซียงไฮ้ พี่สาวเธอสอบติดและได้ไปเรียน พ่อแม่เธอดีใจเป็นอย่างมาก ยอมขายที่นาหลายร้อยหมู่เพื่อส่งให้หลิวจิ้งเฟยไปเรียน ตอนนั้นหลิวชิงเฟยทั้งอิจฉา ทั้งเกลียดชังที่พ่อแม่ไม่ยุติธรรม หลังจากที่พี่สาวเธอไปเรียนที่เซียงไฮ้ พ่อกับแม่ก็ทำงานหนักมากขึ้นเพื่อส่งเงินให้พี่สาว ส่วนเธอก็เอาแต่ต่อว่าและด่าทอ ไม่ยอมหยิบจับช่วยเหลืออะไรที่บ้านเลยสักอย่าง

แน่นอนว่าพ่อแม่ของหลิวชิงเฟยก็ไม่ได้ต่อว่าลูกสาว ทั้งยังพยายามชดเชยให้ลูกสาวคนเล็กอย่างเต็มกำลัง หลายปีต่อมาหมู่บ้านที่เธออยู่เกิดภัยธรรมชาติ พื้นดินแห้งแล้งน้ำในแม่น้ำเหือดแห้ง พ่อกับแม่เธอไม่ยอมบอกหลิวจิ้งเฟย ทั้งยังพยายามหาเงินส่งให้พี่สาวใช้ แต่เธอเกลียดที่พวกเขาทำเช่นนั้น จึงเขียนจดหมายและแอบสอดเข้าไปในซองเดียวกับที่พวกเขาไหว้วานให้หัวหน้าหมู่บ้านเขียนถึงลูกสาวสุดที่รัก และเมื่อหลิวจิ้งเฟยรับรู้เรื่องทั้งหมด ทั้งยังรู้ว่าพ่อกับแม่ขายที่นาไปหมดแล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อ แต่เข้าไปเป็นนักร้องที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง และเป็นฝ่ายส่งเงินกลับมาที่บ้านแทน ช่วงนั้นชีวิตของหลิวชิงเฟยราวกับเจ้าหญิง มีเงินซื้อของกินดี ๆ และยังมีเสื้อผ้าทันสมัยที่พี่สาวส่งมาให้ประจำ และยังมีเครื่องสำอางใหม่ ๆ อีกด้วย

แต่แล้วเรื่องราวแห่งความฝันก็อยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งพี่สาวเธอก็อุ้มท้องกลับมาที่บ้าน พ่อรักหลิวจิ้งเฟยมาก พอเห็นอย่างนั้นก็รับไม่ได้ ทั้งโมโหและเสียใจคว้าเอาสุราขึ้นมาดื่มเมามายจนตกน้ำตายไปก่อนที่หลิวซานจะเกิดมาเสียอีก จิ้งเฟยทั้งเสียใจและโทษตัวเอง เธอพยายามจะฆ่าตัวตายแต่คนเป็นแม่ก็ห้ามเอาไว้ และดูแลเธอเป็นอย่างดี จนกระทั่งคลอดหลิวซานที่หน้าตาน่าชังทั้งตัวอวบอ้วนออกมา แต่ทุกวันก็ไม่ใช่ว่าจะดีนัก หลิวชิงเฟยก็เอาแต่ด่าว่า เรื่องที่หลิวจิ้งเฟยทำให้บ้านเธอกลายเป็นคนจน และทำให้พ่อต้องตาย และความเกลียดชังทั้งหมดก็พาลมาลงที่หลิวซาน และเมื่อหลิวซานอายุได้สามปี แม่ของพวกเธอก็ตกเขาตายตอนที่ขึ้นไปหาของป่าบนเขาทิ้งให้พวกเธออยู่เพียงสามคน

ตั้งแต่หลิวจิ้งเฟยคลอดหลิวซานร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรงมาตลอด พอแม่ตายไปอีกคน เธอจึงต้องรับหน้าที่เสาหลักของบ้าน ทั้งรับจ้างทำงานในไร่นา เวลาว่างก็ขึ้นเขาไปหาของป่าและดักสัตว์เล็ก ๆ มากินเป็นอาหาร อยู่ต่อมาไม่นานร่างกายถูกใช้งานหนักจนเกินรับไหว จึงล้มป่วยและจากไปอีกคน ทิ้งหลิวซานเอาไว้ให้หลิวชิงเฟยผู้เป็นน้องสาว หากเป็นหลิวชิงเฟยคนเก่า ไม่แน่ว่าจะเอาเด็กชายไปขายแลกเงินไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอคือหลิวชิงเฟยดาราสาวจากยุคอนาคตมีความรู้ความสามารถ ในเมื่อเธอและหลิวซานเหลือกันเพียงสองคน ต่อให้วิญญาณจะไม่ใช่คนเดิม แต่กายเนื้อยังเป็นสายเลือดเดียวกัน เธอย่อมไม่ทิ้งหลานชายเพียงคนเดียวนี้แน่นอน

"น้าครับแม่ไก่มันออกไข่มาแค่ฟองเดียว น้าต้มใส่บะหมี่ของน้าเถอะครับ ผมชอบกินผักน้าเอาผักให้ผมเยอะ ๆ แทน" ดูเอาเถอะหลานชายผู้นี้รู้ความแค่ไหน สายตามองไข่ไก่ฟองเล็กที่เหมือนไข่นกกระทาแทบจะตัดใจไม่ได้ แต่ก็พยายามยื่นมันให้เธอ หัวใจคนไม่ได้ทำจากหยกเสียเมื่อไร เธอจะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร

"เสี่ยวซานกินเถอะ ไข่ไก่มีประโยชน์ต่อเด็กอย่างเธอมากกว่าน้าเสียอีก และต่อให้มีเพียงบะหมี่กับผัก น้าก็จะทำให้อร่อยเหมือนกินบะหมี่เนื้อเลย รอกินได้เลยจ้ะ" เธอยื่นมือไปดึงแก้มที่ผอมแห้งของหลาน เด็กวัยนี้ควรมีแก้มที่ย้วยสักหน่อยถึงจะดี แต่ไม่เป็นไรเวลายังอีกยาวไกล เธอจะขุนเด็กน้อยคนนี้ให้มีเนื้อมีหนังอวบอั๋นน่ากอดให้ดู
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel