"เฮ้อ เกลียดจริงคนรู้ทัน แม่น้ำค้างจอมบงการ!"
เหอะ ๆ ได้ยังไงกัน จะให้คนสวยระดับฉันไปแต่งงานกับไอ้หน้าปลวกนั่นไม่มีทางหรอก ฉันยังจำได้ไอ้อ้วนไอ้ขี้เหร่นั่นมันเคยแกล้งฉันด้วย ครั้งนั้นฉันจมน้ำเกือบตายก็เพราะฝีมือมัน
มันปั่นจักรยานให้ฉันนั่งซ้อนท้าย ขาของฉันก็เข้าไปในล้อรถจักรยานเฮงซวย ทำให้ขาฉันเป็นแผล เป็นรอยแผลเป็นจนถึงตอนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น
แต่มีครั้งหนึ่งที่ฉันเอาคืนมัน โดยการเอาเศษแก้วใส่รองเท้ามัน สุดท้ายฉันก็ได้ทำแผลให้ ทั้งทำทั้งเกลียดนั่นแหละ แต่มันก็ไม่หยุดแกล้งฉันนะ พอมันหายมันก็ทำอีกฉันโคตรเซ็ง ตามติดชีวิตเหมือนเป็นหอสระอี
"ไม่ ถ้าพ่อกับแม่บังคับน้ำหวาน น้ำหวานจะหนีไปให้ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวไปเลย"
"แค่ขับรถไปบริษัททุกวันแกยังหลงเลยน้ำหวาน แล้วจะไปที่ไหนรอด" แม่ฉันกอดอกจ้องมองฉัน อันนี้มันก็เรื่องจริงอีกเรื่องถึงแม้จะไปทุกวัน แต่ก็ไม่รู้ว่าฉันเหม่ออะไรขับรถหลงทางบางวันก็มี บ้าบอคอแตกจริงๆ
"แม่ก็รู้ว่าน้ำหวานมีเพื่อน น้ำหวานจะให้เพื่อนน้ำหวานพาไปก็ได้"
"เอาสิ แม่จะยึดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบัตรเงินสดหรือของใช้ต่าง ๆ แม้กระทั่งรถแม่ก็จะไม่ให้น้ำหวานใช้ น้ำหวานต้องรักษาสัญญาของพ่อแม่ ที่ให้ไว้กับผู้ใหญ่ถึกด้วย"
"หนูไม่แต่งหนูขอปฏิเสธ ถ้าแม่จะยึดแม่ก็ยึดเลยค่ะน้ำหวานไม่สน"
"ได้จ้ะเดี๋ยวแม่ให้ลูกน้องจัดการทุกอย่างเลย กระเป๋าราคาแพงที่โชว์ในตู้ของลูก แม่จะเอาไปบริจาคให้หมด" คำพูดของแม่ทำเอาฉันหูผึ่ง กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงหูดับที่ฉันสะสมเอาไว้ 10 ตู้จะเอาของฉันไปบริจาค ไม่ได้ฉันไม่ยอมเรื่องอะไรจะให้สมบัติล้ำค่าของตัวเองถูกบริจาคล่ะ
"ไม่นะคะ"
"เพราะฉะนั้นลูกต้องทำตามข้อตกลงระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แม่เชื่อว่าการที่พ่อกับแม่ทำแบบนี้มันดีกับน้ำหวานที่สุดแล้ว เหมราชเป็นผู้ชายที่นิสัยดี แม่กับพ่อคิดว่าดูคนไม่ผิดหรอก" อวยอะไรกับไอ้หมีควายนั่น
"หนูปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมคะ ทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม" ฉันทำสีหน้าเศร้าสลดเหมือนกำลังขอร้องความเห็นใจนั่นแหละ เรื่องตอแหลเรื่องกะล่อนฉันได้แม่อยู่แล้ว
"ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นแม่รู้ทัน ต่อให้น้ำหวานจะปฏิเสธพ่อกับแม่ก็มีวิธีที่จะทำให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อกับแม่เลือกให้ เหมราชเป็นคนดี รับรองว่าดูแลลูกได้ดีแน่นอน"
"นี่แม่เกลียดน้ำหวานจนอยากผลักไล่ไสส่งให้เอาผัวแล้วไปอยู่ที่อื่นเหรอคะ?"
"เปล่าสักหน่อย ปีนี้ 28 ปีหน้า 29 อายุประมาณนี้ควรมีผัวได้แล้ว อายุเยอะกว่าจะต้องท้องกว่าลูกจะโตก็แก่กันพอดี เห็นแม่ไหมลูกโตขนาดนี้แม่ก็ยังสาวยังสวยอยู่เลย ส่วนพ่อ...." แม่เว้นวรรคเล็กน้อยแล้วอมยิ้มหันไปจ้องมองพ่อ "ถึงจะอายุเยอะแล้วก็ยังหล่อดูดีอยู่ดี" อวยกันเข้าไป เฮ้อ ปวดจิต อยากได้ยาพาราซัก 10 กระปุกมากรอกปากตัวเองให้หายปวดหัว
แต่....เชี่ยอะไรวะเนี่ย ฉันคิดอย่างหงุดหงิด สมองอันปราดเปรื่องก็ดันคิดบางอย่างออก สัญญาก็คือสัญญานั่นแหละ แต่ถ้าเกิดว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้รักไม่ได้ชอบกัน มันก็ยกเลิกสัญญาได้นี่นา...
"แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นปฏิเสธและไม่อยากแต่งงานกับน้ำหวาน งานแต่งก็มีสิทธิ์ยกเลิกใช่ไหมคะ"
"ไม่รู้สิ แม่เองก็ยังไม่ได้คุยกับเหมราชเลย เหมราชเขาก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ด้วยมั้งเท่าที่แม่เดานะ เพราะผู้ใหญ่ถึกเขาก็ไม่ได้พูดเรื่องเหมราชให้ฟัง แต่เขาทวงสัญญาและอยากให้เด็กทั้งสองฝ่ายแต่งงานกัน"
เออ สัญญาอะไรไม่ปรึกษาลูกเต้าเลย คนที่ลำบากก็เป็นลูกนี่แหละที่จะต้องทำตาม ถ้าไม่ติดว่าพ่อแม่อยู่ด้วยนะ ฉันจะกรี๊ดให้มันคอแตกเลย หมดกันความฝันความโสดของฉัน จะต้องไปทนอยู่กับไอ้หน้าปลวกหุ่นโอ่งแดง ฉันอยากจะกรี๊ด
แต่ไอ้เหมราชมันเกลียดฉันจะตาย เหมือนที่ฉันเกลียดนั่นแหละ ถ้ามันรู้ความจริงว่าฉันกำลังต้องแต่งงานกันมันต้องปฏิเสธแน่นอน ความหวังที่จะครองตัวเป็นโสดกลับมาอีกครั้ง หึหึ
อุตส่าห์ครองตัวเป็นโสดมาตั้งนมนาน ผู้ชายหล่อ ๆ ตั้งมากมายมาตามจีบแต่ก็ไม่เคยสนใจ แต่สุดท้ายก็ต้องมาหงุดหงิดเพราะสัญญางี่เง่าของพ่อกับแม่กับผู้ใหญ่บ้านนอกคนนั้น
ถ้ามันปฏิเสธก็ดีไป แต่ถ้าไม่ล่ะ กรรมเวรเลยนะ
รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ถ้าเพื่อนของฉันรู้ว่าฉันต้องมีผัวที่หน้าตาน่าเกลียดแบบนั้นคงหัวเราะเยาะฉันจะฟันร่วงแน่ ๆ โอ๊ย!อยากจะบ้าตาย
แต่ถ้าไอ้เหมราชมันไม่อยากแต่งงาน ทุกอย่างก็จะเข้าแผนฉันหมด ฉันคิดแล้วยิ้มออกมา ฉันมันตอแหลอยู่แล้ว เปอร์เซ็นที่จะสำเร็จน่าจะค่อนข้างสูงอยู่ เฮ้อ คิดปลอบใจตัวเองนะ
"เฮ้อ แล้วกำหนดที่น้ำหวานต้องแต่งงานกับไอ้โอ่งแดง เอ้ย! เหมราชวันไหนคะ"
"อีก1เดือนกว่า ๆ จ้ะ วันนั้นมันเป็นวันดี เราก็เลยตั้งใจให้ลูกกับเหมราชแต่งกันวันนั้น ส่วนเรื่องสถานที่จัดงานเลี้ยงชุดเรื่องอะไรลูกไม่ต้องซีเรียสเลยนะ แม่น้ำค้างจะจัดการให้ลูกหมดทุกอย่างเลย"
"ค่ะ" ตอบอย่างจำใจ
"แต่ระหว่างนี้แม่จะยึดเงินในบัญชียึดรถแล้วก็ยึดกระเป๋าในตู้โชว์ของลูก บัตรอีกหลาย ๆ อย่างเอาไว้เป็นตัวประกัน อย่าคิดหนีล่ะ เพราะลูกไปไหนไม่รอดแน่"
"เฮ้อ เกลียดจริงคนรู้ทัน แม่น้ำค้างจอมบงการ!" ฉันบ่นแล้วเดินกระแทกส้นขึ้นข้างบน ไอ้อ้วนตือโป๊ยกายป่านนี้คงจะ200 กิโลกรัมแล้วมั้ง ก็ชอบกินซะขนาดนั้น ถ้าได้แต่งงานแล้วนอนร่วมเตียงกันจริง ๆ เตียงคงหักเป็นแน่ เฮ้อ กรรมของคนสวย
แต่มันจะไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นแน่นอน ฉันจะยุติทุกอย่างไม่ให้มันเกิดขึ้นเอง
