บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ต่อ 1

“น้ำผึ้งเอ๊ย หยิบของให้แม่หน่อยลูก”

“จ้า แม่จ๋า” สาวน้อยที่ถูขนานนามว่าน้ำผึ้งลากเสียงยาวขานรับผู้เป็นมารดาพร้อมกับหาสิ่งที่นาง ดวงดี พลีชีพ ผู้เป็นมารดาต้องการ

น้ำผึ้ง หรือ ดรุณนุช พลีชีพ ในวันนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวหน้าตามอมแมมอีกแล้ว แต่เธอโตเป็นสาวสะพรั่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยทีเดียวและสวยหาตัวจับอยาก ด้วยดวงหน้ารูปไข่นวลใส ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตสุกใส ที่มักประดับรอยยิ้มหวานบนเรียวปากอวบอิ่มสีเรื่อ มันทำให้คนมองใจหวิวๆ ได้อย่างน่าทึ่งทั้งๆ ที่เธอแค่ยิ้มเท่านั้น

ร่างผอมดำ และเก้งก้างครั้งวันวานไม่มีให้เห็นแล้ว มีเพียงหญิงสาวรูปร่างโปร่งระเหิดระหง ช่วงขาเรียวยาว เอวบางรับกับสะโพกมนกลมกลึง และเหนือสิ่งอื่นใด ทรวงอบอวบอัดคัพดี ที่ทำให้เธอกลายเป็นสาวสวยเซ็กซี่ไปโดยปริยายและยิ่งเมื่อเดือนก่อน มีหนังสือแฟชั่นขอมาถ่ายแบบเพื่อขึ้นปกหนังสือแฟชั่นชื่อก้องโลกฉบับหนึ่ง และก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเกาะที่ต้องการประชาสัมพันธ์เกาะไปในตัวในบางมุม และบังเอิญเหลือเกินที่นางแบบคนดังที่ถูกทาบทามมาถ่ายแบบป่วยกะทันหันทางทีมงานจึงต้องหานางแบบ แบบด่วนจี๋และสายตาอันแหลมคมประดุจเหยี่ยวทะเลของสไตลิสต์ชื่อดังก็มาโป๊ะเชะที่สาวน้อยหน้าคม ที่กำลังทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของรีสอร์ทซึ่งเธอมาช่วยงานในตำแหน่งนั้นชั่วคราว

ทั้งๆ ที่วันนั้นเธอแต่งกายด้วยชุดประตัวพนักงานที่เป็นเพียงเสื้อแขนกระบอกติดกระดุมหน้าตลอดแนวสีครีมอ่อนเกือบขาว ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายทอมือที่ทอขึ้นใช้สำหรับพนักงานที่ทำงานในรีสอร์ตบนเกาะพราวแสงจันทร์ และนุ่งผ้าถุงลายดอกไม้สีสดใสที่ใช้สีที่ได้จากธรรมชาติ อันเป็นเครื่องแต่งกายที่เรียบง่ายและเป็นแนวการแต่งกายที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและการแสดงออกถึงความเรียบง่ายและรักความสงบให้กับผู้มาเยือนได้รับรู้ว่า เกาะพราวแสงจันทร์คือสถานที่พักผ่อนที่เน้นความเป็นอยู่ที่ธรรมดา เรียบง่ายแบบอยู่กับธรรมชาติจริงๆ และใช้ชีวิตในการมาพักผ่อนบนเกาะในแบบของคนพื้นที่มากกว่าจะสนองความต้องการอันหรูหรา และฟุ้งเฟ้อ และเสพติดความฟุ่มเฟือย

การถ่ายแบบเป็นไปด้วยดี แต่รูปชุดสุดท้ายที่ดรุณนุชสวมใส่ถ่ายแบบนั้น ซึ่งเป็นเพียงผ้าคาดอกสีน้ำตาลไหม้ซึ่งพาดพันรอบอกคัพซีที่เผยความอวบอิ่มแบบที่ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ เปิดเผยเอวบางอรชร และสะโพกกลมกลึงภายใต้ผ้าถุงลายดอกไม้สีสดใสงดงาม แต่ชายผ้านั้นกลับแหวกสูงขึ้นมาถึงหน้าขา โชว์เรียวขายาวนวลเนียน และหญิงสาวแค่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนชายหาดที่น้ำทะเลกำลังซัดเข้าหา ร่างกายบางส่วนเปรอะเปื้อนด้วยเม็ดทรายขาวสะอาด ใบหน้างามมองกล้องด้วยแววตาสดใส ริมฝีปากแย้มยิ้มอย่างน่ารัก

ถึงแม้ว่าภาพที่ออกมาดรุณนุชจะไม่ได้โพสท่าเย้ายวนหรือเซ็กซี่อย่างที่นางแบบถ่ายแบบลงหนังสือบางเล่ม แต่ท่าทางของสาวน้อยชาวเกาะที่ดูเป็นธรรมชาติและรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งตาและริมฝีปากอวบอิ่มสีเรื่อ อวดเรียวฟันสวยราวไข่มุกนั้นก็สะกดสายตาใครต่อใครที่ได้เห็นให้หลงใหลได้ไม่ยาก และภาพชุดสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้เธอกลายเป็นนางแบบหน้าใหม่ที่แจ้งเกิดเพียงแค่หนังสือวางแผงวันแรกและขายดิบขายดีจนทางนิตยสารเล่มนั้นต้องมาขอให้เธอเป็นแบบให้อีก แต่สุดท้ายไม่ว่านิตยสารเล่มไหนๆ ก็รับประทานแห้วไปตามๆ กันเพราะเธอปฏิเสธทุกฉบับ เธอชอบชีวิตแบบเดิมมากกว่าชีวิตที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม

“วันนี้ได้ข่าวว่านายหัวให้ไอ้เด่นดังไปรับคนมาทำงานแทนคนตกแต่งรีสอร์ตคนเก่า ไม่รู้ว่ามาถึงหรือยัง”

“จริงเหรอแม่ แล้วเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะแม่”

“ผู้หญิงมั้ง เห็นว่างั้นนะไอ้สองตัวนั่นบอกว่าเป็นทอมกับดี้ด้วยว่ะไอ้ผึ้ง” นางดวงดีเล่าให้ลูกสาวฟังขณะที่หญิงสาวช่วยโขลกน้ำพริก

“โห แม่รู้ดีขนาดนั้นเชียว เขาอาจจะไม่เป็นก็ได้”

“ถ้าไม่เป็นก็ดีสิ เห็นสองตัวนั่นบอกว่าเธอสวยน่ารักมาก ถ้าพวกเธอไม่เป็นอย่างนั้นก็ดีสิวะ นายหัวของเราจะได้มีหญิงสาวสวยๆ มาป่วนใจให้หายเศร้าบ้าง”

“แม่นี่คิดไปไกลนะ อย่างนายหัวน่ะวันๆ ฉันเห็นแต่อยู่กับลิง ต้นไม้ ต้นกาแฟ แล้วก็หอย...”

โป้กกก!!! เสียงทัพพีโขกลงมากลางกระหม่อมบางทันทันควัน

“โอ๊ยอะไรน่ะแม่เอาทัพพีมาโขกหัวผึ้งทำไม เจ็บนะนี่อูย จะโนรึเปล่ายิ่งวันนี้มีทัวร์นักเรียนมาด้วย แม่อ่ะ” หญิงสาวบ่นอุบมือบางลูบหน้าผากมนป้อยๆ

“ก็แกมันทะลึ่ง เป็นสาวเป็นนางพูดออกมาได้ ว่าวันๆ นายหัวอยู่แต่กับหอย นังลูกบ้า”

“อ้าวแม่ก็ ผึ้งยังพูดไม่จบ ที่ว่าอยู่กับหอยคือหอยมุกที่ฟาร์มหอยมุกของนายหัว โฮๆๆ แม่ก็เล่นซะหัวเกือบแตก ยายดวงดีทำไมใจร้ายกับลูกสาวแสนสวยแบบนี้” สาวน้อยแกล้งร้องคร่ำครวญอย่างน่าหมั่นใส้ และเรียกค้อนงามๆ จากคุณนายดวงดี เป็นรางวัล

“ก็แกเล่นพูดไม่จบนี่หว่า เอ้ากับข้าวเสร็จแล้ว รีบกินจะได้รีบไปทำงาน แล้วอย่าลืมเอาขนมนี่ไปให้นายหญิงด้วยล่ะ อ้าวแล้วนี่เจ้ากุ้งแก้วไปไหนล่ะ”

“โน่นมาแล้ว ตุ๊ต๊ะมาเชียว เดี๋ยวต้องให้มันลดความอ้วนบ้างแล้ว เจ้านี่ชักจะหนักเกินไปแล้ว”

เจ้ากุ้งแก้ว ลิงน้อยที่พลัดหลงกับพ่อแม่ซึ่งเป็นลิงจากคณะละครสัตว์ที่ตระเวนเล่นไปตามที่ต่างๆ แล้วแต่เจ้าของคณะจะพาไป มันเป็นลูกลิงเพศผู้ที่พี่ชายฝาแฝดทั้งสองได้มาในขณะที่ไปดูงานกับนายหัวที่เกาะสมุย ในตอนนั้นเจ้าลิงน้อยมีสภาพที่ร่อแร่เต็มทีเพราะขาดอาหารและหนีการรังแกจากเด็กๆ และบรรดาสุนัขจรจัดที่จ้องตะครุบเจ้าลิงน้อยที่โซซัดโซเซอย่างไร้จุดหมาย และการขาดอาหารหลายมื้อทำให้มันเดินมาเป็นลม ต้องใช้คำว่าลิงเป็นลมไม่ใช่ลิงลม เพราะมันเดินมาล้มลงต่อหน้าพี่ชายฝาแฝดของเธอ และพวกเขาก็ได้นำมันมารักษาดูแลและเลี้ยงดูจนทุกวันนี้

ในตอนนี้มันไม่มีคราบของลิงจรจัดผู้หิวโหยอีกต่อไปเพราะมันได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและกินดีอยู่ดีจนเกินไป บัดนี้มันก็เลยอ้วนจนแทบจะเดินไม่ไหว จากเมื่อก่อนนี้มันสามารถปีนต้นมะพร้าวเก็บมะพร้าวได้เร็วและเยอะโดยที่ไม่ต้องมีเชือกหรือคนคอยคุม มันแสนรู้ราวกับเป็นคนๆ หนึ่งเลยทีเดียวทั้งขี้เล่น แสนงอน และร้ายกาจอย่างที่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่มันติดที่ว่ามันเป็นลิงแต่เจ้ากุ้งแก้ว ก็เป็นลิงที่ฉลาดมากๆ แต่หลังจากที่มันซนจนได้เรื่องมีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันแอบไปเล่นน้ำทะเลและเผลอไปเอาแมงกะพรุนไฟมาเล่นทำให้โดนพิษแมงกะพรุนที่ขาซ้ายทำให้มันไม่สามารถใช้งานขาซ้ายได้คล่องแคล่ว และไม่อาจจะปีนเก็บมะพร้าวได้ ครั้งแรกที่มันรู้ตัวว่าขาของมันไม่เหมือนเดิม มันคงจะเสียใจมากและถ้าเป็นคนมันก็คงจะแอบร้องไห้เป็นแน่ เจ้ากุ้งแก้วเกิดอาการซึมเศร้าไปหลายวัน คนในครอบครัวของดรุณนุช และที่เรือนใหญ่ยังต้องมาคอยปลอบใจและหาของขวัญมาเยี่ยมอาการซึมเศร้าอยู่นานนับเดือนกว่าที่มันจะหาย ขนาดว่าเจ้าคอบร้าสุนัขตัวโปรดของนายหัวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับมัน ยังต้องยอมสงบศึก ไม่กวนไม่แกล้งมันชั่วคราว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel