บท
ตั้งค่า

ไปพาตัวมา

เรื่องวางแผนพี่ชายของเขาเก่งกาจยิ่งนัก แต่หากเป็นเรื่องพละกำลังเขาไม่แพ้ผู้ใดแน่นอน

“ข้าให้เสี่ยวถงไปพานางมาที่ค่าย ถึงตอนนั้นเจ้าจะทรมานนางเช่นไรก็ย่อมใด” ตงหยางหมุนจอกสุราในมือ

ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เมื่อถึงใบหน้างามของสองพี่น้องที่เขาเคยสนิทสนม

“ยังเป็นท่านพี่ที่หลักแหลม” ฝูเหิงยิ้มเย็นออกมา เขาอยากจะรู้เมื่อนางตกอยู่ในเงื้อมมือของเขานางจะยังเยือกเย็นอย่างที่เคยเป็นได้หรือไม่

เสี่ยวถง เมื่อมาถึงที่บ้านดินที่พักของตระกูลหวัง เขาก็แจ้งเรื่องที่ท่านแม่ทัพเรียกสองพี่น้องให้เข้าไปพบ เพื่อสอบถามเรื่องอาการป่วยที่ทั้งคู่ได้มาขอยาไป

เหยาเหยานางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ หรือพวกเขาจะรู้ตัวของพวกนางแล้ว แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะคนอย่างฝูเหิงหากรู้ว่าเป็นนางไม่ปล่อยให้นางออกจากค่ายทหารในตอนแรกเป็นแน่

แต่หนิงเฉิงเริ่มสั่นสะท้านเสียแล้ว เพราะเขารู้ดีว่าคนเช่นตงหยางร้ายกาจเจ้าเล่ห์มากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็ยังยอมเดินทหารไปที่ค่าย

เพื่อไม่ให้บิดามารดาเป็นห่วงทั้งคู่สบตากันก่อนที่จะรับรู้ว่าไม่สมควรพูดถึงสองพี่น้องเซี่ย

เสี่ยวถงที่เห็นใบหน้าของเหยาเหยาในครั้งแรกยังอดที่จะจ้องมองนางตาค้างไม่ได้ ไม่ต่างจากที่ทหารพูดคุยกันในค่าย ความงามของนางทำให้เขาดูต่ำต้อยจนไม่กล้ามองใบหน้างามนั้นนาน

“แม่นาง หาผ้าปิดหน้าเสียหน่อยเถิด” เขาเอ่ยออกมาอย่างหวังดี

เหยาเหยานางลืมเรื่องนี้ไปสนิท ก่อนจะหันไปหาเสี่ยวผิงเพื่อให้นางนำผ้าปิดหน้ามาให้นาง

“เดินไหวหรือไม่” หนิงเฉิงเอ่ยถามน้องสาว เมื่อเห็นว่านางเดินช้าลง

เหยาเหยาส่ายหัว เพราะนางตอนที่ออกมาจากค่ายทหารในตอนแรกก็เร่งฝีเท้าเสียจนแผลที่บาดเจ็บระบมเพิ่ม ยิ่งต้องเดินไปอีกรอบนางก็ก้าวขาไม่ออกเสียแล้ว

เสี่ยวถงมองนางอย่างเห็นใจ แต่เขาก็ไม่อาจที่จะช่วยแบกนางได้ ยังดีที่มีพี่ชายนางมาด้วย หนิงเฉิงจึงแบกน้องสาวขึ้นหลังแล้วเดินช้าๆ ไปที่ค่ายทหาร

ตงหยางนั่งดื่มสุรารออย่างใจเย็น แต่ผิดกับฝูเหิงที่เขาเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย

“เหตุใดถึงช้านัก” เขาตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย

“หึหึ มิใช่เจอนางแล้วเจ้าก็ใจอ่อนเสียก่อนเล่า” ตงหยางเอ่ยดักทางน้องชาย

เมื่อสี่ปีที่แล้ว ก่อนจะเดินทางมาชายแดนเหนือ เขาเห็นฝูเหิงหายออกจากขบวนกองทัพไป เมื่อกลับมาก็เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขา

เมื่อถามเสี่ยวซานบ่าวของน้องชาย เขาจึงได้รู้ว่าน้องชายตัวดีแอบไปที่จวนตระกูลหวัง เพียงแต่ไม่กล้าเข้าไปด้านใน

“ไม่มีวัน” เขากัดฟันเอ่ยออกมา ก่อนจะยกไหสุราขึ้นดื่ม เพื่อดับความร้อนที่อยู่ในใจ

“ท่านแม่ทัพ คุณชายหวังกับคุณหนูหวังแม่แล้วขอรับ” เสี่ยวถงร้องบอกอยู่ที่หน้ากระโจม

ตงหยางลุกพรวดขึ้นก่อนจะเดินออกไป เขาลากตัวหนิงเฉิงไปที่กระโจมของเขาทันที

หนิงเฉิงก็ตกตะลึงเกือบจะปล่อยน้องสาวที่อยู่บนหลังตกพื้นเสียแล้ว

“แล้วเหยาเหยาเล่าขอรับ” เขาเอ่ยถามเสียงสั่น

“นางไม่ตายหรอก แต่เจ้าไม่แน่” ตงหยางกระซิบข้างหูของหนิงเฉิง ก่อนจะดึงแขนของเขาให้เข้าไปในกระโจม

เหยาเหยายืนนิ่งอย่างตกตะลึงที่เห็นพี่ชายถูกลากตัวไปเช่นนั้น พอนางก้าวขาจะตามไปกลับถูกมือหนาใหญ่ดึงรั้งเข้าไปในกระโจมเสียก่อน

เจินเหยาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็แทบจะล้มไปกองกับพื้น นางส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อเท้าของนางเหยียบเข้ากับขาโต๊ะที่หักกระจายอยู่ทั่วพื้น

“โอ๊ยยย” นางสะบัดมือที่จับนางไว้ออก ก่อนจะก้มลงไปจับที่เท้า

“หึ เพียงเท่านี้ก็ทนไม่ได้แล้วหรือ”

เจินเหยาตัวแข็งทื่อ เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่านางจะถูกพาตัวมาให้พบเขา

กลิ่นสุราที่ออกมาจากตัวของฝูเหิง ทำให้นางสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว ตอนที่ไม่ดื่มสุรานางก็รับโทสะของเขาไม่ไหวแล้ว แล้วนี่เขาดื่มสุราเข้าไปไม่รู้ว่านางจะเจอเรื่องร้ายเช่นไร

เจินเหยาปรับอารมณ์ให้กลับมาเยือกเย็นเช่นเดิม นางข่มความเจ็บไว้ เพื่อไม่เผยให้เขารู้ ก่อนจะลุกขึ้นมองไปที่ฝูเหิง

“ท่านต้องการพบข้าด้วยเรื่องอันใด”

ฝูเหิงเพียงเห็นท่าทางที่สงบนิ่งของนาง เขาก็อยากจะตะโกนใส่หน้านาง เพื่อให้นางเผยความกลัวที่มีต่อเขาออกมาเสียบ้าง

ฝูเหิงเอื้อมมือไปดึงผ้าปิดหน้าของเจินเหยานางออกอย่างหยาบคาย

“ข้าไม่นึกว่าจะได้เห็นคุณหนูหวังบุตรสาวอดีตท่านราชครูตกอับเช่นนี้”

เจินเหยาเม้มปากแน่น นางโกรธที่เขาดึงผ้าปิดหน้าของนาง แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรเขาได้

“หวังว่าท่านคงพอใจ หากไม่มีเรื่องใดข้าขอตัว” เจินเหยาหันหลังเพื่อจะรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

แต่ความเร็วของนางจะสู้ฝูเหิงได้อย่างไร เขาดึงแขนของนางไว้แน่น แล้วออกแรงบีบเหมือนอยากจะให้แหลกคามือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel