บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เผชิญหน้า

“จริงเหรอเพียง ข่าวดีจริง ๆ ฉันดีใจกับเธอด้วยนะ” ชลิตาแสดงความยินดีกับเพื่อนเมื่อได้ยินข่าวดีจากปากของเพียงฟ้า

“ขอบใจมากนะตา ว่าแต่เธอสะดวกจะรับหนูฝนไปอยู่ด้วยก่อนตอนเย็นใช่ไหม” เพียงฟ้าถามด้วยความเกรงใจ ตอนนี้เพียงฝนอายุได้สองขวบกว่าแล้ว เพราะต้องทำงานเธอจึงฝากลูกไว้กับเนิร์สเซอรี แต่วันนี้คงไม่สามารถไปรับได้ทันเวลาจึงต้องมาขอให้เพื่อนรักช่วยดูลูกให้ก่อน

“สะดวกสิ หนูฝนก็หลานสาวฉันนะ ดีเลย แม่ฉันก็บ่นคิดถึงหนูฝนทุกวัน เดี๋ยวตอนบ่ายฉันไปรับที่เนิร์สเซอรี” ชลิตารับปาก เธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว อีกอย่างลูกของเธอจะได้มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกันด้วย

“ขอบคุณนะตา เธอคือเพื่อนที่แสนดีที่สุดในชีวิตฉันเลย” เพียงฟ้าพูดด้วยแววตาตื้นตันใจ ชลิตาให้ความช่วยเหลือเธอหลายอย่างตั้งแต่ที่เธอหนีมาจากผู้ชายคนนั้น พอใช้ชีวิตไปได้ไม่เท่าไหร่เธอก็ต้องรับรู้ว่าในท้องของเธอมีสายเลือดของเขาอยู่ การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลย แน่นอนว่าเพื่อนสนิทและครอบครัวของเพื่อนคอยช่วยเหลือเธออยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งเธอให้กำเนิดลูกน้อยและหางานทำได้ ในตอนนี้เพียงฟ้าจึงได้มาเช่าบ้านหลังเล็กอยู่กับลูกน้อยสองคน

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันได้ยินเธอพูดหลายรอบแล้วนะ ฉันเต็มใจช่วยเหลือเธอ เรามีกันอยู่สองคนนี่ นอกนั้นก็ไม่มีใครคบแล้ว ถ้าฉันไม่คบเธอแล้วฉันจะมีเพื่อนเหรอ” ชาลิตาพูดติดตลก คำพูดของเธอทำให้คนฟังหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน

“คูมแม่ขา” น้ำเสียงงัวเงียของเพียงฝนดังขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยสะลึมสะลือตื่นหลังจากที่หลับไปตั้งแต่บ่าย

“ตื่นแล้วเหรอคะคนเก่งของน้าตา มาให้น้ากอดหน่อยนะ” พูดจบเธอก็ย่อตัวลงไปกอดร่างเล็กเอาไว้

“วันนี้คูมน้ามาหาน้องฝน”

“ใช่จ้ะ น้าซื้อขนมของโปรดของน้องฝนมาด้วยนะ ไหน สาวน้อยคนไหนอยากทานเอ่ย”

“หนูค่า น้องฝนอยากทานค่า” เพียงฝนที่เห็นขนมเค้กของโปรดในมือของน้าสาวก็ยกมือขึ้นสุดแขนพร้อมยิ้มโชว์ฟันกระต่ายทันที

“ก่อนทานขนมต้องทำยังไงก่อน” เพียงฟ้าถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเข้ม

พอเห็นอย่างนั้นเด็กหญิงตัวน้อยก็เผยสีหน้าเศร้าออกมาแล้วลดแขนลงช้า ๆ

“ต้องทานข้าวก่อน งั้นน้องฝนทานข้าวก่อนทานหนมดีไหมคะคูมแม่”

“เก่งมากคนสวยของแม่ งั้นน้องฝนนั่งเล่นกับน้าตาไปก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จัดอาหารใส่จานก่อน”

เด็กหญิงพยักหน้าก่อนจะเข้าไปหาผู้เป็นน้าแล้วหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน

หน้าปากซอยมีตลาดและร้านข้าวแกงเจ้าประจำของเพียงฟ้า ปกติแล้วตอนเย็นเธอจะซื้อแกงถุงกลับมากินที่บ้านเป็นประจำ แต่ตอนเช้าเธอมักจะเข้าครัวทำอาหารเองเพราะมื้อเช้าเธอสามารถทำอาหารง่าย ๆ ก่อนออกไปทำงานได้ และโชคดีที่ลูกสาวของเธอก็เป็นคนไม่เลือกกินแถมยังกินเก่งอีกด้วย

ในวันนี้ชลิตาอยู่รับประทานข้าวเย็นกับสองแม่ลูก พอกินข้าวเสร็จหนูน้อยเจ้าของแก้มซาลาเปาก็นั่งกินขนมเค้กต่ออย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางของเธอทำเอาทั้งคนเป็นแม่และน้าต่างมองด้วยความเอ็นดูไม่น้อย

เพียงฟ้ามองดูลูกสาวด้วยสายตารักใคร่ปนเศร้าสร้อยไม่น้อย ในบางครั้งที่เธอมองใบหน้าของเพียงฝนตรง ๆ เธอจะเห็นภาพซ้อนของผู้ชายอีกคนเข้ามา ถึงแม้จะผ่านมานานแล้วแต่ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่ในใจของเธอเสมอ เนื่องจากเธอเคยรักเขามาก พอถูกทำลายหัวใจก็ทำให้เธอแบกรับความเจ็บปวดไม่ไหว

หลังจากที่เพื่อนสนิทเอ่ยปากขอตัวกลับเพียงฟ้าก็พาลูกน้อยมาอาบน้ำทาแป้งก่อนจะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน ไม่นานนักเด็กหญิงก็ผล็อยหลับไป เพียงฟ้าจ้องมองไปที่ลูกสาวด้วยรอยยิ้มแล้วค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไปจูบหน้าผากเล็กด้วยความรัก

ถึงแม้จะไม่ง่ายกับการเป็นแม่คนโดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้เลี้ยงเด็กคนนี้ให้เติบโตขึ้นมา สำหรับเธอเพียงฝนคือของขวัญที่ดีที่สุด เพราะมีลูกคนนี้ถึงทำให้เธอยังมีลมหายใจอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายนี้ต่อไปได้

เพียงฟ้าออกเดินทางไปพร้อมกับเจ้านายหนุ่ม พอรับรู้ว่ากำลังจะเดินทางไปที่โคราชก็พลันทำให้หัวใจของเธอที่มีอดีตไม่ควรจำรู้สึกสั่นไหวขึ้นมาไม่น้อย แต่ในเมื่อรับปากไปแล้วไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องทำให้ได้ อีกอย่างโคราชเป็นจังหวัดใหญ่ เธอคงไม่บังเอิญไปเจอกับผู้ชายคนนั้นแน่นอน

“ลูกค้าของเราเขาเซ็นสัญญาร่วมงานกับเราเรียบร้อยแล้วนะ ถือว่าโชคดีมากเลย ไร่นี้ใคร ๆ ก็รู้จัก เห็นว่าตั้งแต่ที่ทายาทรุ่นที่สามมาบริหารต่อก็ยิ่งทำให้ไร่ภูชิตเป็นที่รู้จักของคนกลุ่มมาก”

คำพูดของเจ้านายทำให้เพียงฟ้ามีสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นไร่ของผู้ชายคนนั้น พอรู้อย่างนี้หญิงสาวก็แทบอยากจะขอลากลับไปซะเดี๋ยวนี้

“เมื่อกี้บอสบอกว่าชื่อไร่อะไรนะคะ”

“ไร่ภูชิต คุณพลอยรู้จักหรือเปล่าครับ”

“มะ ไม่ค่ะ พลอยไม่รู้จัก” เพียงฟ้ารีบตอบกลับทันควัน

ท่าทางของหญิงสาวทำให้พงศ์เทพรู้สึกสงสัยไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้คิดจะถามอะไรต่อจนกระทั่งรถเก๋งคันหรูมาจอดที่หน้าคาเฟแห่งหนึ่ง

เพียงฟ้าจำได้ว่านี่เป็นคาเฟที่ภูชิตเคยบอกเธอว่าอยากจะทำ เธอไม่คิดเลยว่าเวลาผ่านมาไม่กี่ปีจะทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ตอนนี้เธอรู้สึกไม่อยากลงจากรถแต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ยังดีที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับงานในไร่มากเพราะวัน ๆ อยู่แค่ที่บ้านของเขา อาจจะมีไปตลาดและเดินเล่นชมไร่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ทุกวัน อีกอย่างเธอหายหน้าไปหลายปีคงไม่มีใครจำเธอได้ หญิงสาวพยายามปลอบใจตัวเองระหว่างที่เดินตามพงศ์เทพเข้าไปในคาเฟ

“นั่งก่อนครับคุณพลอย ผมทักไปบอกเจ้าของที่นี่แล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง”

เพียงฟ้าพยักหน้ารับและพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกหวาดกลัวเอาไว้ในใจ ในเมื่อเธอกับเขาจบกันไปนานแล้วเธอคงไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไร แถมยังเป็นเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายนอกใจ เธอไม่มีอะไรให้ต้องหวาดกลัว

ในระหว่างที่เพียงฟ้ากำลังนั่งปลอบใจตัวเองอยู่ ๆ ร่างสูงโปร่งอันคุ้นเคยก็เดินเข้ามาในร้าน เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแต่แววตาที่ดูว่างเปล่าของชายหนุ่มที่แสร้งทำเหมือนไม่รู้จักกันก็ทำให้เธอชะงักไปในทันที

“สวัสดีครับคุณพงศ์เทพ”

“สวัสดีครับคุณภูชิต นี่พลอยขวัญ คนดูแลโพรเจกต์นี้ครับ”

“สวัสดีครับคุณพลอยขวัญ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยทักทายหญิงสาวระหว่างดึงเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามเธอ

เพียงฟ้ามองสบแววตาคมเข้มอันคุ้นชินที่กำลังสบตาเธอ สามปีแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขาเลย ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปพอสมควร เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าในตอนนั้น และท่าทางเคร่งขรึมที่ดูไม่เหมือนเสือยิ้มง่ายอย่างภูชิต อดีตคนรักของเธอ เขาคนนี้ราวกับไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก

ภูชิตขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่จ้องมองมายังเขาโดยไม่ทักทายตอบ แววตาของเธอทำให้เขารู้สึกไม่เข้าใจ มันไม่ใช่การชื่นชมเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ชอบจ้องมองมาที่เขา ทว่าสายตาของหญิงสาวมีทั้งความว่างเปล่า ความโกรธ และความเสียใจที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ

“คุณพลอยครับ เป็นอะไรไปครับ” พงศ์เทพที่เห็นหญิงสาวเงียบไปก็สะกิดแขนเธอเล็กน้อย

เพียงฟ้าได้สติจึงรีบหลบสายตาจากคนตัวสูงตรงหน้าแล้วพยายามฝืนยิ้มออกมา

“ขอโทษค่ะ เอ่อ สวัสดีค่ะคุณภูชิต” เธอพยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่นไหว เขาทำเหมือนไม่รู้จักเธอแบบนี้ก็ดีแล้ว เธอไม่ควรรู้สึกเสียใจหรือเผลอไปคาดหวังอะไร

“ตามสบายนะครับ อยากทานอะไรสั่งได้เลยครับ ผมต้องการคุยเรื่องงานแบบสบาย ๆ ไม่อยากให้เป็นทางการมากเกินไป”

“ครับคุณภูชิต”

ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งสองคุยกันเพียงฟ้าก็พยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ในตอนนี้เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว พอได้เจอหน้าและได้ยินน้ำเสียงของเขาอีกครั้งความรู้สึกในอดีตก็ย้อนกลับมาที่เธอเหมือนเดิม อดีตที่เธออยากลืมมาโดยตลอด แต่พอมาในตอนนี้เธอกลับทำไม่ได้

“เอ่อ เราสองคนเคยรู้จักกันมาก่อนไหมครับ ขอโทษที่ผมต้องถามแบบนี้ คุณทำเหมือนรู้จักผมเลย บางทีผมอาจจะลืมหรือจำคุณไม่ได้”

“คุณภูชิตหมายความว่ายังไงครับ” พงศ์เทพที่ได้ยินคำพูดของลูกค้าคนสำคัญก็ถามกลับไปอย่างสงสัย

“ผมเคยเกิดอุบัติเหตุเลยสูญเสียความทรงจำไปบางช่วงครับ แต่คุณพลอยทำเหมือนรู้จักผม ผมก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า”

เพียงฟ้าอดตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไม่ได้ เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แสดงว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นต้องร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้เขาความจำเสื่อม หรือเขาแค่กำลังโกหกเธออยู่ แต่พอลองมองใบหน้าของเขาชัด ๆ ก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาไม่ได้โกหก เพราะบริเวณหางคิ้วของเขามีรอยแผลเป็นจาง ๆ ซึ่งเธอจำได้ว่าสมัยคบกันใบหน้าของเขาไม่มีรอยตำหนิ

“ปะ เปล่าคะ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอโทษที่พลอยเสียมารยาทนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ” ภูชิตพูดพร้อมกับมองหญิงสาวที่ก้มหน้าลงมองโต๊ะโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel