บทที่ 5. ตอน ในคืนฝนพรำ/3
“เรื่องพวกนี้ รักไม่รักก็ทำได้ทั้งนั้น เมื่อครู่เราสองคนก็ทำกันไปแล้วมิใช่หรือ จะทำต่ออีกสักรอบสองรอบ คงไม่เป็นไร”
ซุนเซิงโถมกายเข้าหาร่างงาม ผลักหลิวชิงหลินให้นอนลงอีกครั้ง ดวงตาของเขาวาววับด้วยความปรารถนา ฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดยังไม่หมดสิ้นลงไป เขาดื่มสุราหลายจอกย่อมได้รับยามากกว่านาง รอบเดียวคงไม่พอให้ขจัดพิษของยาได้
“พี่ซุนได้โปรดปล่อยข้าเถอะ ข้าขอร้องท่าน”
“ข้าไม่ปล่อย ฤทธิ์ยายังไม่หมด ข้าทรมานเหลือเกิน ให้ข้าเถอะนะชิงหลิน ข้าไม่ไหวแล้ว”
เสียงของซุนเซิงแหบพร่า เขาหอบหายใจแรง ใบหน้าเหยเกคล้ายกำลังเจ็บปวด หลิวชิงหลินเห็นแบบนั้นก็หยุดดิ้นรนขัดขืน ในใจนางเป็นห่วงเขามาก
“พี่ซุน นี่ท่านยังไม่หายหรือ โธ่ ท่านแม่ ท่านทำร้ายพวกเรามากเกินไปแล้ว ฮือ”
หลิวชิงหลินร้องไห้ออกมา นางเสียใจและอดสูตัวเอง ทั้งที่เขาทำลายนาง แต่นางกลับไม่โกรธแค้นเขา ยังนึกห่วงใยเขา จะมีผู้ใดโง่งมเช่นนางอีก
“ชิงหลิน อย่าร้องไห้ ข้าไม่ทำแล้ว เจ้าไปห่างๆ ข้า”
ซุนเซิงพลิกกายลงนอนหงาย ปล่อยนางเป็นอิสระ เขานอนงอตัวมือกุมกลางกายที่กำลังปวดร้าว ท่าทางทรมานมาก
“พี่ซุน ฮือ ให้ข้าช่วยท่านนะ”
หลิวชิงหลินคล้ายหมูไม่กลัวน้ำร้อน นางขยับเข้าไปกอดเขาเอาไว้ พาตัวเองไปนอนทับร่างกำยำของซุนเซิง ทรวงอกนุ่มแนบชิดกับแผงอกหนาของเขา ใบหน้างามแดงจัดเมื่อพยายามฝืนความอับอาย ก้มหน้าลงไปประกบริมฝีปากบนปากของเขา
ซุนเซิงเผยอปากแล้วสอดลิ้นเข้ามาโพรงปากนุ่มของนาง จุมพิตนางอย่างเร่าร้อนดุดัน เพลิงในกายของเขากำลังพุ่งพล่าน เมื่อหลิวชิงหลินยอมจำนน เขาจึงไม่ยอมปล่อยนางไป
เสียงครางครวญดังขึ้นอีกครั้ง สองชายหญิงในรถม้าต่างพัวพันกัน บทรักบทนี้เร่าร้อนยิ่งกว่าครั้งแรก กินเวลายาวนานจนแสงแรกของอรุณรุ่งฉายส่องท้องฟ้า
ในยามเช้า นางหวังจูเดินออกจากห้องด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม บุตรสาวของนางหายไปทั้งคืนไม่กลับมา เรื่องดีงามที่นางวางแผนไว้ คงสำเร็จสมปรารถนาแล้ว
นางหวังจูเปิดประตูห้องของซุนเซิง พร้อมตั้งท่าจะกรีดร้อง ทำท่าโวยวายให้สมบทบาท แต่ต้องเงียบเสียงลงเมื่อภายในห้องกลับไม่มีผู้ใดอยู่เลย บนเตียงว่างเปล่า ผ้าห่มกองอยู่บนพื้น คนในห้องพร้อมกับลูกสาวของนางหายตัวไปไหนกัน
“คุณชายซุน หลินเอ๋อ พวกเจ้าสองคนอยู่ที่ไหน”
นางหวังจูวิ่งตามหารอบบ้าน ไม่พบแม้แต่เงาของทั้งสอง จนเวลาผ่านไป ก็เห็นร่างของลูกสาวเดินโซเซกลับมา
“หลินเอ๋อ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา แล้วคุณชายซุนล่ะ”
นางหวังจูรีบวิ่งไปหาลูกสาว พาตัวเข้ามาในบ้าน ใบหน้าของหลิวชิงหลินซีดเซียว เสื้อผ้ายับยุ่ง ผมก็ฟูไม่เป็นทรง คนเป็นมารดารีบสำรวจเนื้อตัวบุตรสาว พบรอยจ้ำบนลำคอและเนินอก ก็รู้ว่าหลิวชิงหลินถูกใครบางคนทำลายความสาวไปแล้ว
“ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงทำกับพวกเราเช่นนี้ ฮือ ท่านทำลายชีวิตข้า”
หลิวชิงหลินร้องไห้ออกมาด้วยความคับแค้นใจ หากเป็นผู้อื่นทำร้ายนางเช่นนี้ นางคงแลกชีวิตกับคนผู้นั้นไปแล้ว แต่คนทำกับเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด นางจะทำเช่นไรได้ นอกจากร้องไห้
“เจ้าอย่าร้องเลยลูก แม่จะให้เขารับผิดชอบเจ้า แล้วนี่คุณชายซุนอยู่ที่ใด”
นางหวังจูลูบหลังปลอบโยนบุตรสาว เอ่ยถามถึงเขยขวัญของตน แต่หลิวชิงหลินกลับส่ายหน้าบอกว่า
“พี่ซุน... เขาไปแล้ว เขาไม่คิดรับข้าเป็นภรรยา และเขาก็ให้เงินถุงนี้มาเป็นค่าตัวข้า ท่านแม่ท่านรับเงินนี่ไป ค่าตัวของข้าได้เท่านี้แหละเจ้าค่ะ”
หลิวชิงหลินล้วงหยิบถุงเงินวางใส่มือมารดา ในนั้นเป็นตั๋วแลกเงินหนึ่งร้อยตำลึง ค่าตัวที่เขามอบให้ชดเชยพรหมจรรย์ของนาง
“หากเจ้าไม่คิดให้ข้ารับผิดชอบ เจ้าก็รับเงินนี่ไว้ ข้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด”
หลังจากเขาปลดปล่อยบนร่างของนางไปหลายหน ก็พานางมาส่งที่ทางเข้าบ้าน ก่อนจะหยิบถุงเงินยัดใส่มือนาง แล้วขี่รถม้าจากไปอย่างไม่ใยดี
“สารเลว เขาได้เจ้าแล้วไม่รับผิดชอบได้หรือ ข้าจะไปบอกให้ซืออินจัดการกับเขา”
นางหวังจูโมโหมาก นางวางอุบายนี้หวังให้อีกฝ่ายรับผิดชอบลูกสาว แต่ซุนเซิงกลับโยนเงินใส่หน้าเป็นค่าตัวหลิวชิงหลิน ทำราวกับบุตรสาวของนางเป็นนางโลม คนเป็นมารดาแค้นใจนัก
“ท่านวางยาเขา สิ่งที่เขาทำกับข้าเกิดจากฤทธิ์ยา เขาย่อมเกลียดชังข้า ท่านคิดว่าหากเขายอมรับข้าเข้าเรือนแล้ว เขาจะรักใคร่ดูแลข้าเป็นอย่างดีเช่นนั้นหรือ เขาร่ำรวยเพียงนั้นอาจจะแต่งสตรีที่ดีกว่าข้ามาเป็นภรรยาหลวง ให้ข้าเป็นอนุในเรือนหลัง ชีวิตข้าถูกท่านแม่ทำลายไปแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องมีชีวิตที่เหลืออย่างน่าอนาถเช่นนั้น”
พูดจบหลิวชิงหลินก็พาตัวเองเข้าห้องไป ปล่อยให้มารดาของตน นั่งนิ่งด้วยความตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
“นี่ข้า... ข้าทำลายชีวิตลูกข้า ด้วยมือข้าเช่นนั้นหรือ”
นางหวังจูคิดได้เมื่อสายไปแล้ว นางได้กระทำเรื่องเลวร้ายต่อหลิวชิงหลิน จนไม่อาจจะแก้ไขได้
///
