หวนรักภรรยาคืนเดียว

67.0K · จบแล้ว
รวิญาดา ผการุ้ง นักเขียน
51
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คืนนั้นหลิวชิงหลินตกเป็นของซุนเซิงเพราะถูกมารดาวางยาปลุกกำหนัด เช้าวันต่อมาเขาจากไป พร้อมกับทิ้งเงินไว้ให้นางก้อนหนึ่ง ห้าปีผ่านไปพบกันอีกครั้ง เขากลับคิดทวงสิทธิ์ความเป็นสามี และบิดาของลูกน้อย นางจะไม่มีวันยอมให้เขาสมหวัง !

นิยายจีนโบราณเศรษฐีจีนโบราณโรแมนติกจีบเมียเก่ามีลูกคู่นอนคืนเดียวแม่เลี้ยงเดี่ยว

บทที่ 1. ตอน วางอุบาย/1

บ้านตระกูลหลิว อำเภอต้าหลี่ แคว้นเป่ยฉี

ซุนเซิงพาหลิวชิงหลินและนางหวังจู มาถึงบ้านของพวกนางในช่วงเย็น ตลอดทางเขานั่งอยู่ด้านนอกทำหน้าที่ขี่รถม้า ปล่อยให้สองแม่ลูกนั่งอยู่ด้านใน

ก่อนหน้านั้นซุนเซิงพาสองแม่ลูกไปพบกับหลิวซืออิน เถ้าแก่เนี้ยร้านขายอาหารทะเลแห้ง นางหวังจูกับหลิวชิงหลินเป็นญาติที่เหลืออยู่ของหลิวซืออิน หลังจากถูกนางหวังจูอาสะใภ้ข้อร้องแกมบังคับให้หลิวซืออินขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทนหลิวชิงหลิน เมื่อกลับมาบ้านอีกครั้งก็พบว่าบ้านถูกเพลิงไหม้ หลิวซืออินที่เข้าใจผิดมานานว่าคนในครอบครัวถูกไฟคอกตายในกองเพลิง แท้จริงแล้วครอบครัวตระกูลหลิววางอุบายหมายหลอกเจ้าหนี้ ให้เข้าใจว่าพวกเขาได้ตายไปแล้ว จากนั้นก็พากันย้ายไปอยู่เมืองหลวง แต่โชคไม่ดีนักเมื่อถูกคนชั่วหลอกลวงโกงเงินทองไปจนหมดตัว หลิวจื่อเซิ่งอาของหลิวซืออินเสียใจจนล้มป่วยตายจากไป นางหวังจูกับหลิวชิงหลินจึงกลับมาอยู่บ้านเดิม

ซุนเซิงมาส่งสินค้าที่อำเภอต้าหลี่ เขาแวะมาดูบ้านเก่าของหลิวซืออินแล้วพบสองแม่ลูกเข้า สอบถามจนรู้ความจริงว่าทั้งสองคือคนในครอบครัวของหลิวซืออิน จึงพาไปหาเถ้าแก่เนี้ยของเขา แต่นางหวังจูนั้นคิดสร้างปัญหาให้หลิวซืออินซุนเซิงจึงพาสองแม่ลูกมาส่งบ้าน แรกนั้นหวังจูไม่ยินยอมกลับ แต่ถูกหลิวชิงหลินบังคับพาตัวมาจนได้ นางจึงบ่นลูกสาวมาตลอดทาง

“ถึงบ้านของพวกเจ้าแล้ว รีบลงมาเถอะ ข้าขอส่งแค่นี้”

เมื่อรถม้าจอด ซุนเซิงก็กระโดดลงไป แล้วตะโกนบอกสองแม่ลูกให้ลงมาจากรถ

“ขอบคุณพี่ซุนมากที่มาส่งข้ากับท่านแม่ เข้าไปดื่มน้ำชา แล้วค่อยกลับนะเจ้าคะ”

หลิวชิงหลินประคองมารดาลงมาจากรถพลางเอ่ยขอบคุณ นางเห็นว่ารถม้าเร่งเดินทางคงจะเหน็ดเหนื่อย จึงเชิญเขาไปดื่มชาพักผ่อนก่อน

“ไม่เป็นไร ข้าจะกลับแล้ว”

ซุนเซิงปฏิเสธ แต่นางหวังจูกลับไม่ยินยอม นางมีแผนการบางอย่างผุดขึ้นในใจ จึงเอ่ยขึ้นว่า

“คุณชายซุน พักสักครู่คงไม่เสียเวลา ให้พวกข้าสองแม่ลูก ตอบแทนน้ำใจท่านสักครั้งเถอะ”

“พี่ซุน พักม้าให้กินน้ำก่อน นี่ก็ค่ำแล้วท้องฟ้าก็ครึ้ม อีกสักครู่ฝนคงจะตกเดินทางกลับจะอันตราย”

หลิวชิงหลินมองท้องฟ้าที่กำลังครึ้ม มีเมฆดำปกคลุม ในไม่ช้าฝนคงตกลงมา นางนึกเป็นห่วงซุนเซิง จึงคิดรั้งตัวเขาไว้

“ก็ได้ พวกเจ้าไปข้างในกันก่อน เดี๋ยวข้าจะพักม้า”

ซุนเซิงแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า เห็นว่าจะมีฝนตกและลมก็เริ่มพัดแรง อาจจะเกิดพายุขึ้น จำต้องตอบรับน้ำใจของสองแม่ลูก เขาพาพวกนางกลับมาบ้านแล้ว คงไม่มีปัญญาก่อเรื่องอะไรให้หลิวซืออินรำคาญใจอีก

"หลินเอ๋อ เจ้าเข้าครัวหุงข้าว เดี๋ยวแม่จะไปฆ่าไก่มาทำกับข้าว มื้อนี้แม่ทำกับข้าวเอง เจ้าไปดูแลคุณชายซุนเถอะ"

เมื่อเข้ามาในบ้าน นางหวังจูก็สั่งบุตรสาวให้หุงข้าว ตัวนางออกไปจับไก่หลังบ้านมาฆ่าทำน้ำแกง อาหารมื้อนี้นางขอลงมือทำด้วยตัวเอง

“ท่านแม่ ข้าหุงข้าวเสร็จแล้ว ข้าขอไปดูพี่ซุนก่อนนะเจ้าคะ”

หลิวชิงหลินเมื่อหุงข้าวเสร็จก็ออกไปดูซุนเซิง นางหวังจูที่จัดการถอนขนไก่และชำแหละเรียบร้อย ก็เอาไก่มาตุ๋นไว้ จากนั้นอาศัยช่วงที่ลูกสาวไม่อยู่ เดินเข้าไปในห้องเก็บของไปรื้อค้น หาไหสุราที่นางแอบซ่อนเอาไว้ สุราไหนี้นางคิดเก็บไว้ฉลองงานแต่งบุตรสาวของตน แต่หลิวชิงหลินกลับไม่มีบุรุษคนใดมาสู่ขอ แม่สื่อต่างส่ายหน้าไม่รับเป็นแม่สื่อให้ เหตุเพราะในอดีตหลิวชิงหลินเคยหนีงานแต่งและยังเคยถูกคู่หมั้นถอนหมั้น สตรีเช่นนี้ตระกูลไหนก็ไม่คิดแต่งเป็นสะใภ้ ต้องกลายเป็นสาวขึ้นคานไร้คนเหลียวแล นางหวังจูไม่อาจทนเห็นบุตรสาวของตนมีชีวิตอนาถเช่นนั้นได้ เมื่อพบซุนเซิงจึงคิดอยากได้เขาเป็นลูกเขย

“คุณชายซุน ท่านเหมาะกับหลินเอ๋อของข้า ข้าจะส่งเสริมวาสนาของท่านกับนางเอง”

นางหวังจูรีบออกไปจากบ้าน กำเงินตำลึงในมือไปยังร้านยา นางรู้จักกับเจ้าของร้านนี้ดี เขามียาชนิดหนึ่งเป็นยาปลุกกำหนัด หากต้องการซื้อต้องยอมจ่ายเงินตำลึง และต้องเก็บเป็นความลับไว้เพราะยาชนิดนี้เป็นยาต้องห้าม เมื่อได้ยามาก็นำมาผสมในสุราเตรียมไว้ จากนั้นก็มาดูไก่ที่นางตุ๋นไว้ และเตรียมผักไว้ผัด

"ท่านแม่ ให้ข้าช่วยนะเจ้าคะ"

หลิวชิงหลินเข้ามาช่วยมารดาในครัว เห็นนางหวังจูกำลังตุ๋นไก่ จึงไปหั่นผักมาผัด ปกติอาหารของสองแม่ลูก จะกินอยู่แบบง่ายๆ วันนี้มีแขกมาเยือน นางหวังจูจึงลงทุนฆ่าไก่มาทำกับข้าวรับรอง

"ไม่ต้องมาช่วยแม่หรอก เจ้าออกไปดูแลคุณชายซุนเถอะ นั่งคุยเป็นเพื่อนเขาสักนิด"

นางหวังจูไล่ลูกสาวออกไป แต่หลิวชิงหลินไม่ยอมทำตาม

"พี่ซุนคงไม่อยากคุยกับข้าหรอก ให้ข้าช่วยทำเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ"

"เจ้านี่นะ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย แบบนี้จะได้ออกเรือนเมื่อไหร่ มิต้องเป็นสาวแก่คาบ้านรึ"

นางหวังจูส่ายหน้า เมื่อลูกสาวไม่ได้ดั่งใจ นางนึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ลูกต้องขึ้นคาน หากครอบครัวของนางไม่ถูกน้องเขยหลอกลวง คงไม่สิ้นเนื้อประดาตัว หลิวชิงหลินอาจจะได้แต่งงานกับคนดีๆ มีชีวิตที่มีความสุขไปแล้ว แต่นี่บุตรสาวนางกลับต้องถูกผู้ชายถอนหมั้น หาคนมาแต่งด้วยไม่ได้ นางทนเห็นชีวิตที่น่าอนาถเช่นนี้ไม่ไหวแล้ว

"หลินเอ๋อ เจ้าว่าคุณชายซุนเป็นอย่างไร"

คำถามนี้ทำให้หลิวชิงหลินแก้มร้อนวูบ หลบตามองผักที่ตัวเองกำลังหั่น พลางตอบมารดาเสียงแผ่งว่า

"ก็ดีเจ้าค่ะ เขาเป็นคนมีน้ำใจ ท่านแม่ไก่น่าจะเปื่อยแล้ว เดี๋ยวข้าไปผัดผักนะเจ้าคะ"

หลิวชิงหลินหยิบชามใส่ผักลงผัดในกระทะ ไม่ยอมเอ่ยถึงซุนเซิงอีก กิริยาท่าทางนั้นทำให้คนเป็นแม่ยิ้มขำ