บทที่ 2. ตอน วางอุบาย/2
สองแม่ลูกช่วยกันทำกับข้าวจนเสร็จ ก็ยกออกไปตั้งโต๊ะ
"อาหารเสร็จแล้ว มากินกันเถอะ ข้ามีสุรารสดีอยู่ไหหนึ่ง คุณชายซุนคงไม่รังเกียจ"
นางหวังจูรินสุราที่นางเก็บไว้อย่างดี ให้ซุนเซิงดื่ม
"อืม ขอบคุณท่านป้า"
ซุนเซิงจำต้องยกจอกสุราขึ้นดื่ม เขารีบคีบอาหารเข้าปาก คิดจะกินให้อิ่มเร็วๆ จะได้รีบกลับ แต่นางหวังจูก็เอาแต่รินสุราให้
"ท่านแม่ท่านกินเถอะ อาหารจะเย็นหมดแล้ว"
หลิวชิงหลินแตะแขนมารดาให้นั่งลง นางอึดอัดใจกับท่าทางเอาใจใส่เกินพอดีของนางหวังจู นางไม่อยากให้ซุนเซิงนึกดูถูก ก่อนหน้าเขาเคยเอาเงินฟาดหัวนางให้กลับมาบ้านโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับหลิวซืออินอีก ท่าทีดูแคลนนั้นทำนางช้ำใจไม่น้อยไม่น้อย
"หลินเอ๋อ เจ้าก็ดื่มเป็นเพื่อนคุณชายซุนสักจอกสิ แขกมาเยือนทั้งทีเราต้องต้อนรับดีๆ"
นางหวังจูรินสุราส่งให้บุตรสาว หลิวชิงหลินจำต้องรับมาดื่ม แล้วกินข้าวไปเงียบๆ
อาหารมื้อนั้นจบลง พร้อมกับฝนที่เทกระหน่ำลงมา ด้านนอกลมพัดแรงม้าไม่อาจวิ่งฝ่าไปได้
"คุณชายซุน คืนนี้ท่านก็พักที่นี่เถอะ ฝนตกหนักลมแรงเช่นนี้ อันตรายมาก"
นางหวังจูนึกขอบคุณสวรรค์ ที่บันดาลให้ฝนตกหนัก ทำให้มีโอกาสรั้งซุนเซิงให้ค้างคืนที่บ้านนาง
"ข้าต้องรบกวนท่านป้าแล้ว"
ซุนเซิงจำต้องพักค้างคืนที่บ้านหลังนี้ เขามองสบตาหลิวชิงหลิน นางหลบตาเขาเดินไปจัดห้องให้เงียบๆ
"พี่ซุนท่านไปนอนเถอะ ข้าจัดห้องเสร็จแล้ว"
หลิวชิงหลินเชิญซุนเซิงเข้าห้อง ตัวนางพามารดาเข้านอน แล้วเอายาให้กินก่อนนอน
"หลินเอ๋อ คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็น แม่ว่าเอาผ้าห่มไปให้คุณชายซุนสักผืนเถอะ"
นอนได้ครู่หนึ่ง นางหวังจูก็ผุดลุกขึ้นมาบอกบุตรสาว เถ้าแก่ร้านขายยาบอกว่า ยาปลุกกำหนัด จะออกฤทธิ์ภายในครึ่งชั่วยามหลังกิน ยาชนิดนี้เป็นชนิดอ่อนไม่ได้ออกฤทธิ์ทันทีเมหือนยาปลุกกำหนัดชนิดอื่น ทำให้คนถูกวางยาแทบไม่รู้สึกตัว นางทำท่าจะลุกไปเอาผ้าห่มให้ซุนเซิง รอให้ลูกสาวมาอาสาเอง
"ท่านแม่นอนเถอะ เดี๋ยวข้าเอาไปให้เขาเอง"
หลิวชิงหลินกดไหล่มารดาให้นอนลง นางลุกไปหยิบผ้าห่มในตู้ เดินออกไปจากห้อง ตรงไปยังห้องของซุนเซิง นางหวังจูมองตามร่างของลูกสาวไป แอบลอบยิ้มสมใจ เมื่อแผนการที่นางวางไว้กำลังจะสำเร็จ นอนรอผลในห้องด้วยความยินดี
คืนนี้ฝนตกหนักอากาศค่อนข้างเย็น ในห้องไม่มีผ้าห่ม แต่ซุนเซิงไม่รู้สึกหนาวเลย ภายในกายของเขากลับมีความร้อนบางอย่างวูบวาบไปทั่วร่าง ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา ขณะหอบหายใจแรง
"นี่เกิดอะไรขึ้นกับข้า ทำไมข้าถึงรู้สึกร้อนแบบนี้"
ซุนเซิงลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปรินน้ำบนโต๊ะยกดื่ม แต่อาการร้อนรุ่มภายในไม่คลายลง เขาจึงเดินไปเปิดหน้าต่าง ให้ลมเย็นพัดเข้ามา ด้านนอกฝนตกหนักไอเย็นจากสายฝน ทำให้รู้สึกสดชื่น
เขายืนอยู่แบบนั้นครู่หนึ่งจึงค่อยรู้สึกดีขึ้น เมื่อปิดหน้าต่างหมุนกายขึ้นเตียงนอน ก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่หน้าประตูห้อง เขาดับเทียนในห้องแล้ว เห็นเงาของสตรีนางหนึ่งถือตะเกียงยืนอยู่ ท่าทางของนางเหมือนกล้าๆ กลัวๆ เขาจึงแสร้งนอนเงียบ แอบลอบดูว่านางจะทำอย่างไร ในที่สุดนางก็เปิดประตูเข้ามา ในอ้อมแขนหอบผ้าห่มมาผืนหนึ่งมาด้วย นางวางตะเกียงบนโต๊ะแล้วค่อยๆ ย่องมาที่เตียง
“พี่ซุน พี่ซุนท่านหลับแล้วหรือยัง”
เสียงกระซิบดังเบาๆ ซุนเซิงยังแกล้งนอนนิ่ง แต่แอบหรี่ตาดูนาง
“คงจะหลับแล้ว ในห้องอากาศเย็นมาก พี่ซุนคงจะหนาว”
หลิวชิงหลินรู้สึกถึงอากาศเย็นในห้องนอนของซุนเซิง ตัวนางเองภายในก็รู้สึกร้อนแปลกๆ คิดเอาเองว่าตนคงมีไข้ เมื่อเห็นเขานอนหลับอยู่ ก็คลี่ผ้าห่มที่เอามาด้วย คลุมร่างให้เขาอย่างเบามือ เสร็จแล้วก็ถอนหายใจ แล้วหมุนกายจะเดินออกไป
ทว่า... คนบนเตียงกลับลุกขึ้นมา คว้าข้อมือของนางไว้
“ว้าย ! พี่ซุน นี่ท่านตื่นแล้วเหรอ”
หลิวชิงหลินอุทานด้วยความตกใจ พยายามดึงข้อมือออก แต่เขาจับนางไว้แน่น ดวงตาของเขาวาววับทีเดียว
“ชิงหลิน นี่เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน”
น้ำเสียงของซุนเซิงแหบพร่า เมื่อเขาได้กลิ่นกายของหลิวชิงหลิน ความปรารถนาบางอย่างก็ผุดขึ้นในหัว บางสิ่งกลางกายพลันตื่นตัวขึ้นมา จนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ จึงรั้งตัวนางดึงเข้ามาในอ้อมแขน
“พี่ซุน นี่ท่านเป็นอะไรไป ปล่อยข้านะ”
หลิวชิงหลินตกใจกับการจู่โจมของเขา ร่างกายของเขาร้อนผ่าวทีเดียว แขนแข็งแรงรัดรอบเอวนางกอดรัดแนบแผงอกจนขยับไม่ได้ ตัวนางพลันร้อนวูบวาบขึ้นมา ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีกระแสธารอุ่นไหลวนเวียนภายใน กายสาวสั่นสะท้านราวกับลูกนกตกน้ำ
“ข้าถามว่า เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน เป็นยาปลุกกำหนัดใช่หรือไม่”
ซุนเซิงหอบหายใจแรง มือของเขาลูบคลำเรือนร่างนุ่มนิ่มของสตรีในอ้อมแขน อย่างอดใจไม่อยู่ แม้พยายามตั้งสติ แต่ก็รั้งตัวเองไว้แทบไม่ไหว เขาร้อนผ่าวไปทั้งตัว อาการแบบนี้มันคืออาการของคนถูกวางยากำหนัด
ในตอนที่เขายังอยู่กับคนในสำนักคุ้มภัย เคยเล่นสนุกวางยาเพื่อน แล้วเผลอกินไปด้วย เขายังจำอาการนั้นได้ดี มันมีอาการเหมือนยามนี้ไม่มีผิด ตอนนั้นเขากับเพื่อนต้องพากันไปปลดปล่อยที่หอนางโลมทั้งคืน กลับมาโดนพี่เยี่ยลงโทษให้ล้างถังส้วมอยู่ถึงครึ่งเดือน
“ยาอะไร ข้าไม่รู้เรื่อง ท่านกินอะไรข้ากับท่านแม่ก็กินด้วย จะวางยาท่านได้อย่างไร”
หลิวชิงหลินพยายามโต้แย้ง นางกับมารดากินอาหารร่วมโต๊ะกับซุนเซิง จะวางยาเขาได้อย่างไร
“หึ มีสิ่งหนึ่งที่แม่เจ้าไม่ได้กิน นั่นคือสุรา”
ซุนเซิงนึกถึงสุราที่นางหวังจูรินให้เขาดื่ม อีกฝ่ายคงผสมยาลงในสุรา เขามองสตรีในอ้อมแขนเห็นใบหน้าของนางแดงระเรื่อ ก็นึกได้ว่านางหวังจูก็รินสุราให้ลูกสาวดื่มไปจอกหนึ่ง
“แม่ของเจ้าวางยาปลุกกำหนัดในสุรา นางวางอุบายข้า”
