บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เปลี่ยนไป

อันที่จริงในชาติก่อนไม่ใช่ว่าหลี่เฉิงอันไม่เคยคิดจะเข้าหอกับนาง แต่ตอนที่เขาตั้งใจมาหานาง นางก็มีใจคิดจะเก็บรักษาความบริสุทธิ์ของตนเองให้ผู้อื่นแล้ว คนรักศักดิ์ศรีเช่นหลี่เฉิงอันมีหรือที่จะบังคับขืนใจผู้อื่น ในเมื่อนางไม่อยากเป็นชายาของเขา เขาก็ไม่คิดจะรั้งนางไว้ แม้ว่าจะเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจแต่ก็ไม่เคยสักครั้งที่จะพูดจาเหยียบย่ำน้ำใจนาง

ตอนที่เขียนหนังสือตัดขาดกันเขาก็ไม่เคยต่อว่านาง และไม่เคยป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ผู้อื่นรับรู้ ถึงอย่างไรนางกับเขาก็ได้รับพระราชทานสมรสหากมีผู้อื่นรู้ว่านางเขียนหนังสือขอหย่าขาดเขานางจะต้องได้รับโทษ โทษฐานที่ขัดราชโองการเป็นแน่ เขาไม่เพียงช่วยเหลือนางแถมยังเอ่ยวาจาตักเตือนนางด้วยว่าหลานชายของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่นางคิด

“โหรวเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือเหตุใดเมื่อเอ่ยถึงองค์ไท่จื่อเจ้าจึงได้มีปฏิกิริยาที่ไม่เหมือนเดิมเช่นนี้” ซูถังเยี่ยนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมสามารถจับต้องปฏิกิริยาของน้องสาวได้แล้ว

“พี่ใหญ่ องค์ไท่จื่อหลี่เฟยหลงไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราเห็น เขาไม่ใช่คนซื่อสัตย์และจริงใจ จุดมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ของเขาคือราชบัลลังก์เพียงเท่านั้น” ‘… น่าเสียดายที่ชาตินี้ข้าตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำให้เขาสมหวัง’ ซูถังโหรวไม่ได้เอ่ยถึงความคิดในใจของตนเองออกมาเพียงแต่จ้องมองซูถังเยี่ยนด้วยความจริงใจ

“พี่ใหญ่ ท่านคือคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของข้าแล้ว นับจากนี้ท่านต้องเว้นระยะห่างจากองค์ไท่จื่อ ส่วนเรื่องผู้สืบทอดตำแหน่งของท่านพ่อท่านต้องระมัดระวังน้องสามเอาไว้ให้ดี เขาคนนั้นคือคนที่ท่านจะต้องระมัดระวัง” คำพูดของซูถังโหรวทำให้ซูถังเยี่ยนพลันขมวดคิ้ว

“ที่ต้องระวังไม่ใช่น้องรองหรือ”

“พี่รองเฉลียวฉลาดก็จริงแต่ตอนที่เขาถือกำเนิดมารดาของเขาเป็นแค่เพียงอนุภายในจวนเพียงเท่านั้นท่านพ่อย่อมจะต้องคำนึงถึงจุดนี้แน่ ส่วนน้องสามนั้นไม่ใช่ เขาถือกำเนิดตอนที่มารดาของเขาได้เป็นภรรยาเอกของท่านพ่อแล้ว” คำพูดของซูถังโหรวทำให้ซูถังเยี่ยนตื่นตัว

“น้องสามเป็นแค่เพียงเด็กอายุไม่ถึงสิบปี โหรวเอ๋อนี่เจ้าไปได้ยินเรื่องอะไรมาใช่หรือไม่” คำถามของพี่ชายทำให้ซูถังโหรวส่ายศีรษะในทันที ด้วยรู้ดีว่าต่อให้นางเล่าเรื่องในชาติก่อนให้เขาฟังเขาก็คงจะไม่เชื่อ

“ข้าก็แค่คิดคำนวณจากความโปรดปรานของท่านพ่อที่มีต่อน้องสามเพียงเท่านั้น พี่ใหญ่หากท่านอยากช่วยเหลือข้าจริงไม่ใช่การที่ท่านช่วยสนับสนุนองค์ไท่จื่อ แต่ท่านจะต้องควบคุมอำนาจในมือทั้งหมดของท่านพ่อมาอยู่ในมือขอท่านให้ได้ เมื่อถึงเวลานั้นท่านจึงจะสามารถช่วยเหลือและคุ้มครองข้าได้อย่างแท้จริง” คำพูดของน้องสาวทำให้ซูถังเยี่ยนพยักหน้าในทันที

“เจ้าวางใจเถิด พี่ใหญ่ของเจ้าคนนี้จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง” เขาพูดพลางจ้องมองน้องสาวแล้วก็สบถออกมา

“ให้ตายสิ! น้องสาวของพี่ดีถึงขั้นนี้ แต่เจ้าอ๋องป่าเถื่อนนั่นกลับทอดทิ้งเจ้าให้กลายเป็นที่ขบขันของผู้อื่น ข้าล่ะพอยากจะสับเนื้อเขาเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้สุนัขกินจริงๆ” เมื่อพี่ชายพูดเช่นนี้ซูถังโหรวก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“หากท่านอยากทำเช่นนั้นจริงก็ควรจะไปฝึกยุทธ์เสียก่อนซึ่งก็คงจะไม่ทันแล้ว”

“...” คำพูดของน้องสาวทำให้ซูถังเยี่ยนไร้ถ้อยคำจะเอื้อนเอ่ย เขาแค่เพียงขยับตัวลุกขึ้นแล้วพูดกับน้องสาวเสียงเบา

“พี่ต้องไปแล้ว พี่จะส่งคนที่ไว้ใจได้มาคอยรับใช้เจ้าสักสองสามคนก็แล้วกัน” คำพูดของพี่ชายทำให้ซูถังโหรวพยักหน้า สาวใช้คนสนิทของนางถูกรั้งตัวเอาไว้ในจวนเสนาบดี ส่วนสาวใช้ที่นี่ล้วนเป็นคนที่นางไม่กล้าไว้วางใจ

“ขอเป็นคนที่มือเท้าคล่องแคล่วเสียหน่อย รู้วรยุทธ์ได้ยิ่งดีเอาคนที่ได้รับการฝึกฝนในหอสุ่ยเซียนก็ได้ ท่านก็รู้สภาวะของข้าในตอนนี้หากได้คนของท่านมาช่วยเหลือสักคนก็คงจะดี” คำพูดของน้องสาวทำให้ซูถังเยี่ยนเบิกตากว้างขึ้นมาในทันที หอสุ่ยเซียนคือกิจการลับๆ ของเขามีเพียงน้องสาวเท่านั้นที่รู้ ที่นั่นเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงนักฆ่าและนางคณิกาชั้นยอด เดิมทีเขาจงใจชุบเลี้ยงคนเหล่านี้เอาไว้เพื่อยั่วโมโหบิดา แต่ตอนนี้คนเหล่านี้กลับเป็นประโยชน์ในการหาเงินเข้ากระเป๋าของเขาเป็นอย่างยิ่ง

“นี่เจ้าคงจะไม่…” เขาพูดออกมาแต่เมื่อคิดถึงท่าทีที่สุดแสนจะเย็นชาของสามีของน้องสาวแล้วเขาก็พยักหน้า

“หากเจ้าต้องการข้าจะส่งคนมาให้เจ้าก็แล้วกัน” เมื่อพูดจาเสร็จสิ้นดีแล้วซูถังเยี่ยนก็หันไปส่งสัญญาณให้คนของตน คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์เขาจงใจพาคนเหล่านี้มาด้วยก็เพื่อป้องกันการแอบฟังที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างที่พวกเขาสนทนากัน

“พี่คงต้องกลับแล้ว เจ้าก็ดูแลตนเองให้ดีด้วย” เมื่อพี่ชายเอ่ยเช่นนี้ซูถังโหรวก็พยักหน้าในทันที

“พี่ใหญ่โปรดวางใจข้าจะดูแลตนเองให้ดี” ซูถังโหรวเอ่ยพลางลุกขึ้นแล้วเดินออกมาส่งพี่ชายด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม

“กระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะพระชายา แล้ววันหน้ากระหม่อมจะมาเยี่ยมเยียนใหม่” เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นซูถังเยี่ยนก็เสแสร้งทำตัวเป็นคุณชายเจ้าสำราญอีกครั้ง

สำหรับซูถังเยี่ยนแล้วท่าทีเช่นนี้ของเขาจึงจะสามารถอยู่ในจวนสกุลซูได้โดยที่ไม่ถูกผู้อื่นกำจัดไปเสียก่อน หลายปีมานี้ทั้งเขาและน้องสาวต่างก็ทำตัวเช่นนี้ ไม่ทำตัวโดดเด่นไม่แก่งแย่งชิงดีกับผู้ใด แต่ดูเหมือนว่าต่อให้สามารถเอาตัวรอดมาได้จนโตแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะปกป้องตนเองน้องสาวได้อยู่ดี

คำพูดหลายประโยคที่น้องสาวเอ่ยออกมาทำให้ตัวเขาเริ่มมีความกังวลขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งท่าทีของน้องสาวก็เปลี่ยนแปลงไปจนเขาตั้งรับไม่ทัน เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เห็นน้องสาวของตนกำลังเศร้าโศกเสียใจที่ตนเองไม่ได้รับความโปรดปรานจากสามีอีกทั้งคนรักก็กำลังจะกลายเป็นของผู้อื่นเสียอีก แต่ตอนนี้น้องสาวของเขากลับมีท่าทีระแวดระวังอีกทั้งยังกำชับให้เขาระมัดระวังอดีตคนรักที่นางผูกพันมาตั้งแต่เล็กอย่างองค์ไท่จื่ออีกด้วย มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกกังวลและสงสัยเสียแล้วว่าเพราะเหตุใดน้องสาวของเขาจึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel