บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 โอกาสแสนบัดซบ (1/2)

สุดท้ายแล้วการรับอนุคนใหม่ของลู่เยี่ยนฮ่าวจึงเป็นคุณหนูรองของตระกูลสือ นามว่าสือลี่ผิง ทว่าสือลี่ผิงที่หมายถึงก็คือคุณหนูใหญ่ที่สลับตัวตนกับคุณหนูรอง ใต้เท้าลู่ต้องการนำตัวของนางกลับเดี๋ยวนั้นโดยไร้พิธีรีตอง

สืออี้หนานต้องการเปิดโปงสถานะของตนและสือลี่ผิง ทว่ากลับถูกบิดาปรามไว้ นางจึงยอมก้มหน้ารับชะตาด้วยความขมขื่น ท้ายที่สุดสืออี้หนานจึงลอบบอกความจริงให้ลู่เยี่ยนฮ่าวทราบ แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยกลับเพิ่มความเดือดดาลให้อีกฝ่ายเป็นทบทวีคูณ ประดุจสาดน้ำร้อนลวกตนเอง

"ท่านแม่...ฮรึก ฮือออ... ท่านแม่เจ้าคะ เหตุใดจำต้องเป็นข้า ไยท่านเคยบอกว่าจะส่งมันไป!" สืออี้หนานร้องไห้โยเย เอ่ยวาจาร้อนรนราวคนเสียสติ

สือเสี่ยวเย่กอดปลอบประโลมบุตรสาวของตนแนบอก นางเองก็จนใจช่วยเหลือ พลางกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น "อี้หนาน ไม่ต้องร้อง ถึงอย่างไรใต้เท้าลู่ก็ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งแห่งหนานโจว ต่อให้เขามีอนุมากมายแล้วอย่างไร เจ้าก็เพียงปิดหูปิดตาอยู่ให้สุขสบายไปวัน ๆ ไม่ดีกว่าหรือ"

สือเสี่ยวเย่ไม่อยากให้เรื่องเป็นเช่นนี้ ผู้ใดจะคาดคิดว่าสือลี่ผิงกล้าเล่นลูกไม้ ทั้งยังเจ้าเล่ห์แสนกลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มิหนำซ้ำต่อให้เอาเรื่องสัญญายกมากล่าวอ้างว่าต้องเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเท่านั้น ทว่าลูกหนี้ก็คือลูกหนี้ จะหลีกพ้นความจริงได้อย่างไร หากตระกูลสือไม่ส่งลูกสาวไปขัดดอกสักคน ทั้งตระกูลคงต้องระเห็จไปนอนข้างถนนราวสุนัขจนตรอก คนถือดีเช่นสือจินรุ่ยหรือจะยอมเสียหน้าปล่อยชีวิตของตนให้ตกอับไร้ที่พึ่ง

"ท่านต้องไปจัดการมันให้ข้า หากชีวิตข้าไม่มีความสุข ก็อย่าหมายว่าชีวิตของมันจะได้อยู่อย่างสงบ"

"ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้องแล้ว เอาอย่างนี้หรือไม่ แม่จะลอบขายมันไปเป็นทาส พ่อของเจ้าไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน"

"ท่านแม่ ดูเหมือนหนนี้ลี่ผิงมันไม่เชื่อฟังเช่นเมื่อก่อน แล้วจะจับตัวอย่างไรเล่าเจ้าคะ"

"จับไม่ได้ เช่นนั้นก็ยังมีแม่ของมัน" ขณะที่ฝ่ามือยังคงลูบไล้เส้นผมดำขลับของคนในอ้อมแขนด้วยความทะนุถนอม ทว่านัยน์ตากลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชัง

.

.

"ท่านแม่ อีกไม่เกินหนึ่งชั่วยาม ข้าจะกลับมาท่านรอข้าก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ" สือลี่ผิงไม่อาจประวิงเวลาไว้ได้แล้ว นางต้องเร่งพาแม่หนีออกจากจวนเส็งเคร็งแห่งนี้โดยเร็วที่สุด

"ลี่ผิง เจ้าจะไปที่ใด" มู่หรานเอ่ยเสียงสั่นเครือ สีหน้าบ่งบอกถึงความเป็นกังวลถึงขีดสุด

"ท่านแม่ ไว้ข้าจะกลับมาอธิบายกับท่านในภายหลัง เอาเช่นนี้แล้วกันเจ้าค่ะ ท่านลุกไหวหรือไม่"

มู่หรานพยักหน้า นางยันกายลุกขึ้นเนิบช้า สือลี่ผิงจึงรีบเข้ามาช่วยพยุงกายมารดาของตนอย่างร้อนรน "ข้าจะพาท่านไปรอที่โรงเตี๊ยมก่อน"

"ปะ...ไปโรงเตี๊ยม เหตุใดเราต้องไปหรือ"

"ไม่มีเวลาแล้วเจ้าค่ะ ท่านอยู่กับจ้าวหวินไปพลาง ๆ นะเจ้าคะ เขาจะดูแลท่านอย่างดี" ไม่รู้เหตุใดมโนสำนึกเจ้าของร่างจึงบอกนางให้ไปหาคนผู้นี้ ทั้งใบหน้าและรูปร่างช่างกระจ่างชัดเสียจนคิดว่าเป็นความทรงจำของตนจริง ๆ ต่อไปสือลี่ผิงคงต้องปรับตัวให้มากขึ้น ไม่ว่าความทรงจำใดก็ตาม เจ้าของร่างคงต้องการให้นางได้รับรู้เช่นเดียวกัน

"จ้าวหวิน" มู่หรานครุ่นคิด แล้วจึงกล่าวเพื่อคลายข้อสงสัย "คุณชายจ้าวเช่นนั้นหรือ"

สือลี่ผิงพยักหน้าเพื่อตอบกลับ

จ้าวหวินในความทรงจำที่นางพบ เขาเป็นบุรุษรูปงามอ่อนโยน ทั้งยังเป็นสหายที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กของสือลี่ผิงคนเดิม ทุกครั้งที่นางถูกกลั่นแกล้งจากพี่สาวต่างมารดา ล้วนมีเขาคอยอยู่เคียงข้างและปลอบประโลมนางเสมอ เดิมทีเรื่องนี้จ้าวหวินประสงค์ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสองแม่ลูก ทว่าสือลี่ผิงผู้นี้มิอาจติดหนี้บุญคุณใครได้มากไปกว่านี้แล้ว หนนี้นางจะพามารดาของตนหนีไปยังแคว้นต้าโจว ไปตั้งหลักปักฐานใหม่ที่นั่น แม้ไม่มีทรัพย์สินใดติดเนื้อติดตัว ทว่าเครื่องประดับที่อยู่ในกรุสะสมอันน้อยนิด คงสามารถพาตนและมารดาออกเดินทางไปจนถึงเมืองต้าโจวได้อย่างแน่นอน

"ไปเจ้าค่ะ ท่านแม่ ข้าจะไม่ยอมให้เราเป็นที่รองมือรองเท้าของคนที่นี่อีกแล้ว"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel