องค์ชายรองมาเยี่ยมเยือน 1
ณ ศาลาริมน้ำภายในจวนสกุลหมิง ท่ามกลางสายน้ำไหลรินเย็นฉ่ำบุปผชาติหลากสีรายล้อม สตรีผู้งดงามดั่งเทพธิดาในอาภรณ์ผ้าไหมเนื้อดีสีชมพูอ่อนคล้ายกลีบบัวถูกปักเย็บลวดลายอย่างประณีต นั่งพิงเสาไม้สลักลายริมน้ำเหม่อมองท้องฟ้าสีครามสลับสลับกับสายน้ำไหลเอื่อยในสระที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพูเบ่งบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในยามเช้าตรู
สายลมพัดโชยอ่อน ๆ เรือนผมดำขลับยาวสลวยปลิวไสวประดับด้วยปิ่นปักผมเงินรูปดอกไม้มีไข่มุกห้อยระย้าลงมา ขับให้ใบหน้างดงามไร้ที่ติดูโดดเด่นขึ้นไปอีก ผิวพรรณของนางขาวนวลเนียนประดุจหยกขาว ดวงตาคู่งามคล้ายเมล็ดซิ่งเฉี่ยวปลายเล็กน้อย หากแต่ในตอนนี้กับแฝงไปด้วยความเศร้าหมอง
หลังจากที่รักษาตัวจนหายดีความทรงจำเมื่อชาติก่อนกลับคืนมาอย่างแจ่มชัด ทั้งความทรงจำอันเลวร้ายในอดีตก็หวนคืนกลับมาด้วยเช่นกัน ทำให้นางรู้ว่าความเจ็บปวดเมื่อชาติก่อนในโลกปัจจุบัน เป็นเพียงแค่เศษผงเล็ก ๆ ในใจเท่านั้น เทียบไม่ได้กับอดีตชาติของภพนี้เลย
หมิงหลิ่งฟางจำได้ว่าหยางเทียนหลิวสามีของนางในอดีต ซึ่งในยามนี้เขายังคงเป็นเพียงชายคนรักเพราะยังมิได้มีการหมั้นหมายหรือแต่งงานกัน
ในอดีตนั้นนางรักเขามากจนกระทั่งว่ายอมเสียสละได้ทุกสิ่ง หากแต่ก่อนที่นางจะตายนางกลับได้รับรู้ความจริงทั้งหมดจากปากเขาว่าที่เขาจงใจเข้าหานางก็เป็นเพราะต้องการให้สกุลหมิงของนางสนับสนุนเขาก่อกบฏเพื่อที่เขาจะได้ขึ้นครองบัลลังก์
หลังจากที่หยางเทียนหลิวได้ขึ้นครองบัลลังก์สมใจแล้ว หมิงหลิ่งฟางก็รู้สึกดีใจกับเขาด้วยทั้งนางยังคิดว่าเขาจะแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮาเคียงคู่กับเขา แต่กลับกลายเป็นว่านางเป็นต้นเหตุให้สกุลหมิงต้องมาต้องโทษประหารฐานก่อกบฏถูกประหารชีวิตทั้งตระกูล
เพียงเพราะนางและตระกูลหมดประโยชน์กับเขาแล้ว ส่วนคนที่ได้ขึ้นเป็นฮองเฮากลับเป็นอดีตสหายรักที่แสร้งเข้าหานางเพื่อให้นางตายใจจากนั้นก็หลอกลวงเอาผลประโยชน์จากนาง ทั้งยังแอบล้วงข้อมูลลับของตระกูลนางไปให้หยางเทียนหลิว
หมิงหลิ่งฟางจะหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออกกับความโง่เขลาของตนเองในอดีต นางขบเม้มริมฝีปากแน่น หากเป็นเช่นที่ท่านเทพผู้ชี้ชะตาผู้นั้นพูดจริง นางสามารถแก้ไขอดีตได้เช่นนั้นแล้ว สิ่งแรกที่นางจะทำก็คือการตัดความสัมพันธ์กับหยางเทียนหลิว!
ในอดีตแม้นจะเจ็บแค้นเหลือคณา แต่ถ้าทว่านางกลับไม่สามารถทำอันใดได้เลย ทำได้เพียงมองดูครอบครัวคนที่รักนาง ต้องถูกประหารไปทีละคน ๆ จนถึงคราวของนางซึ่งเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่นางจะถูกประหารชีวิตในยามนั้นนางก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานอย่างเจ็บปวดระคนเจ็บแค้นว่าขอให้ได้กลับมาแก้แค้นพวกมันอีกครั้ง
นี่คงเป็นสิ่งที่ท่านเทพชราบอกกับนางเมื่อตอนนั้นกระมัง ก็ยังดีที่ยังเมตตาให้นางกลับมาอยู่ในช่วงต้นเรื่อง เพื่อให้นางได้แก้ไขสิ่งที่กระทำผิดพลาดไปในอดีตไม่เช่นนั้นนางคงรู้สึกผิดไปตลอดกาล
“คุณหนูเจ้าคะองค์ชายรองมาขอพบคุณหนู ตอนนี้รออยู่ที่ห้องโถงกับนายท่านเจ้าค่ะ”
องค์ชายรองหรือ…
หยางเทียนหลิว ฮึ! คิดไม่ถึงเลยว่าในขณะที่นางกำลังคิดถึงเรื่องของเขาอยู่ เขากลับมาหานางพอดีช่างเหมาะเจาะอะไรถึงเพียงนี้ เช่นนั้นนางก็คงต้องออกไปต้อนรับเขาสักหน่อยก็แล้วกัน มุมปากบางแดงระเรื่อยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องโถง
ณ ห้องโถงจวนสกุลหมิง
หลังจากที่หยางเทียนหลิวรู้ข่าวว่าหมิงหลิ่งฟางหายป่วยดีแล้ว เขาก็รีบเดินทางจากวังหลวงมายังจวนสกุลหมิงในทันที เพื่อแสดงความห่วงใยเหมือนเฉกเช่นที่ผ่านมาให้นางได้เห็นว่าเขานั้นรักและห่วงใยนางมากเพียงใด
"ขอประทานอภัยที่ให้องค์ชายรองทรงรอนานเพคะ"
สตรีร่างบางในอาภรณ์ผ้าแพรสีส้มอ่อนใบหน้างามนิ่งเรียบ เดินทอดกายเข้ามายืนตรงหน้าบุรุษทั้งสองในห้องโถง พร้อมกับย่อตัวเล็กน้อยแสดงความเคารพตามมารยาท ดวงตาเมล็ดซิ่งคู่งามเหลือบมองบุรุษในอาภรณ์ปักลายมังกรสีม่วงเพียงครู่หนึ่ง
"ในเมื่อฝ่าบาทมีเรื่องพูดคุยกับบุตรสาวของกระหม่อม คงต้องขอตัวก่อน” อัครเสนาบดีหมิงฮุ่ยจือเอ่ยบอกองค์ชายรองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ทั้งที่ในใจไม่พอใจอย่างยิ่ง ดวงตาคู่คมมองบุตรสาวตนเองอย่างกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะลงเอ่ยอย่างไรกัน
