สวย สวยมาก สวยฉิบหาย!!
“อรุณสวัสดิ์ครับน้องนอธ”
“อรุณสวัสดิ์คร๊าบมามี๊” ฟอด!! กิจกรรมประจำวันของเราสองคนแม่ลูกหลังจากที่ตื่นเช้าขึ้นมาคือต้องตื่นมาอรุณสวัสดิ์และหอมแก้มฟอดใหญ่ ลูกคือพลังชีวิตของฉันในแต่ละวันถามว่าเลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยมั้ยตอบได้เลยว่าเหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขที่ได้เห็นการเติบโตของลูกในทุก ๆ วัน
“ไปอาบน้ำกันได้แล้ว วันนี้เราสองคนต้องไปเรียนแล้ว” ข้าวเจ้าอุ้มลูกชายเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักเรียนหมีน้อยของโรงเรียนเอกชนชื่อดังดูยังไงลูกเธอก็น่ารักในสายตาเธอที่สุด หลังจากที่แต่งตัวให้น้องนอธเสร็จเรียบร้อย ข้าวเจ้าก็พาลูกชายมาฝากให้แม่บ้านป้อนข้าวก่อนที่เธอจะเดินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนเช่นกัน
“สวยเหมือนกันนะเรา” ชุดนักศึกษาที่ไม่ได้ใส่นานกลับมาอยู่บนตัวเธออีกครั้ง กระโปรงพลีทกับเสื้อนักศึกษา เธอมัดผมรวบขึ้นเป็นหางม้าติดกิ๊บผมหน้าเอาไว้แต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงแต่งหน้าอ่อน ๆ เหมือนไม่ได้แต่งให้ดูธรรมชาติให้เข้ากับเด็กในมหาลัย ก่อนจะลงไปหาลูกชายที่กินข้าวรออยู่แล้ว
“มามี๊สวยจังเลย”
“ขอบคุณครับ”
“คุณข้าวแต่งตัวแบบนี้ดูเด็กลงจริง ๆ เลยนะคะเนี้ย ถ้าไม่บอกว่าอายุยี่สิบสอง ป้าก็นึกว่าสิบแปด” เขินเลย ป้าแม่บ้านที่บ้านบอกกับข้าวเจ้าแบบนั้น ในสายตาเธอคุณข้าวสวยและสวยมากแถมยังดูหน้าเด็กอีกเดาอายุเธอแทบไม่ออกเลยจริง ๆ
“เสร็จแล้วไปกันครับสุดหล่อของมี๊”
“คร๊าบ ป้าแก้วน้องนอธไปเรียนก่อนน้า” เสียงใสหันไปตอบแม่บ้านที่ตอนนี้เป็นขวัญใจไปแล้วเรียบร้อยช่างพูดจนทุกคนหลงไปแล้วเรียบร้อย หลังจากที่ขึ้นรถสองคนแม่ลูกก็มุ่งหน้าไปโรงเรียนอนุบาลนานาชาติก่อน เพราะเธอต้องไปส่งลูกชายก่อนไปเรียนวันนี้วันแรก
“สวัสดีคร๊าบคุณครู” คนเป็นแม่ปลื้มที่ลูกเป็นแบบนี้ น้องนอธเป็นเด็กเลี้ยงง่ายถึงแม้จะดื้อบ้างแต่ก็ไม่มากจนทำให้เธอปวดหัว กิริยามารยาทและความช่างพูดคนเป็นแม่เห็นแล้วชื่นใจที่สุด น้องนอธไม่ต้องรอให้เธอบอกเมื่อเห็นผู้ใหญ่ลูกจะสวัสดีก่อนเสมอ
“เลิกเรียนแล้วมี๊มารับนะครับสุดหล่อ”
“คร๊าบ” ฟอด!! หลังจากนั้นคุณครูก็พาลูกชายเดินเข้าไปในโรงเรียน เมื่อเห็นแบบนั้นข้าวเจ้าจึงมุ่งหน้าไปยังรถของตัวเองและขับไปยังมหาลัยอย่างรวดเร็วเพราะใกล้จะถึงเวลาแล้วเหมือนกัน
มหาลัยที่เปิดเทอมวันแรกครึกครื้นเป็นพิเศษหลังจากที่ข้าวเจ้ามาถึงหน้าตึกคณะที่นัดหมาย เธอก็ได้พบกับเพื่อนรุ่นน้องสองคนที่เดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง เพราะตั้งแต่เธอเดินเข้ามาไม่เห็นมีใครเดินเข้ามาทักเธอเลยสักคนและสองคนที่มาทักเธอก็ดูจะเป็นเด็กนิสัยดีด้วย
“เธอชื่ออะไร เราชื่อมิกกิส่วนยัยนี่ชื่อมาย”
“เราชื่อข้าว”
“เรียนคณะอะไร”
“เราเรียนบริหารภาคอินเตอร์ พวกเธอเรียนอะไรเหรอ”
“เรียนเหมือนกันเลย สาขาวิชาเดียวกันเป็นเพื่อนกันได้ ปะไปเรียนกันเถอะ” เป็นไงรวดเร็วทันใจ เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเรียนมหาลัยแต่เรียนไม่ถึงเทอมก็ท้องไงก็เลยเลือกที่จะลาออกและไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก กลับมาครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ข้าวคิดไงมาเรียนสาขานี้” มายถามขึ้นเมื่อพวกเธอนั่งฟังอาจารย์แนะนำวิชาเรียน ที่เธอมาเรียนสาขาวิชานี้เพราะว่าอยากนำกลับไปพัฒนาแบรนด์ของตัวเองและร้านกาแฟที่กำลังจะสร้างขึ้น เพราะเธอมีแบรนด์ของตัวเองและเป็นที่โด่งดังและขายดีเป็นอย่างมากแต่แค่ไม่เปิดตัวเจ้าของก็แค่นั้น
“อยากทำธุรกิจก็เลยมาเรียน”
“เหมือนกันเลย” เพื่อนใหม่สองคนของเธอคุยด้วยและสนุกเป็นคนที่น่ารักและเข้ากับเธอได้ง่าย หลังจากที่เรียนเสร็จ พวกเราทั้งสามก็เดินมากินข้าวที่โรงอาหารของมหาลัยที่ดูหรูหราและมีอาหารเยอะพอสมควร กินเสร็จก็ต้องเข้ากิจกรรมที่เดินปีหนึ่งก็ทำคือรับน้องเป็นความรู้สึกเหมือนได้หวนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้งยังไงก็ไม่รู้!!
“ไอ้เหนือ” เสียงดังโวยวายของเพื่อนรักอย่างหมอเจที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาเพื่อนรักหลังจากที่เพื่อนรักของเขาบินไปดูงานที่ต่างประเทศหลายวัน
“มีอะไรวะ”
“มึงรู้มั้ยว่าวันนั้นกูเจอใคร”
“กูจะรู้กับมึงมั้ย” หมอเหนือนั่งเซ็นเอกสารโดยไม่สนใจเพื่อนรักอย่างหมอเจที่ดูจะตื่นเต้นกับเรื่องที่ไปเจอมาแต่ไม่ใช่กับเขา ในโลกนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นทั้งนั้นในของเขาตายด้านไปนานแล้วแต่ต้องมาชะงักกับคำพูดของเพื่อน
“กูไปเจอน้องข้าวมา”
กึก!!
นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่มักจะมีอิทธิพลต่อใจเขาเสมอหัวใจที่เคยด้านชาแค่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนั้น หัวใจที่ด้านชาของเขากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เขาทำเป็นไม่สนใจเรื่องของเธอแต่ในใจร้อนรนจะอยากจะง้างปากเพื่อนให้พูดออกมาให้เร็วที่สุดแต่เหมือนเพื่อนรักจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรก็เลยเงียบไปจนหมอเหนือต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเพื่อนรักอีกครั้ง
“จบแล้วเหรอ”
“อ้าว!! กูคิดว่ามึงไม่สนใจ ไม่อยากรับรู้ก็เลยไม่เล่าให้ลำคาญใจ กูกลับไปทำงานดีกว่า”
“เดี๋ยว!!” หมอเจเตรียมหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของหมอเหนือทันทีแต่ต้องชะงักเมื่อเพื่อนรักรั้งเอาไว้ก่อน รอยยิ้มร้ายปรากฏที่ใบหน้าของหมอเจทันที
“อะไรอีกครับ”
“เล่ามา” คิดว่าจะแน่แค่ไหน แววตาของหมอเหนือดูอยากรู้เรื่องของน้องข้าวอย่างมากแต่ด้วยฟอร์มที่มีเยอะทำให้ไม่กล้าบอกตรง ๆ แต่สุดท้ายก็ยอมจนได้
“กูไปเจอน้องข้าวที่มหาลัยพ่อกู”
“หึ!!”
“กูก็ไม่รู้ว่าน้องข้าวไปทำอะไรหรืออาจจะไปรายงานตัววะ” ทุกวันนี้เขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่าน้องข้าวไปทำอะไรที่นั่นแต่วันที่เขาไปคือวันรายงานตัวของนักศึกษาปีหนึ่งที่กำลังจะเข้าเรียน
“ไปทำอะไรวะ ก็น่าจะเรียนจบแล้วนะ”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้คือ”
“น้องข้าวแม่งสวย สวยฉิบหายเมื่อก่อนว่าสวยแล้วตอนนี้โครตสวย” สีหน้าเหนื่อยใจกับเพื่อนเมื่อได้ยินคำตอบ สรุปว่าหมอเหนือไม่ได้อะไรจากหมอเจเลยนอกจากความว่า สวย สวยฉิบหาย โคตรสวย
“จะไปไหนก็ไป”
“หมดประโยชน์แล้วไล่เลยเหรอวะ” หลังจากที่หมอเจออกจากห้องทำงานไป ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้อง สมองอันชาญฉลาดประมวลผลอย่างคิดไม่ตก เขาไม่สามารถหาเหตุผลหรือหาคำตอบจากผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างข้าวเจ้าได้เลย แม้กระทั่งหาเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ลืมผู้หญิงคนนี้ได้สักทีให้กับตัวเองได้เลยด้วยซ้ำ
##ถามหน่อยว่าได้อะไรจากเพื่อนรักอย่างหมอเจบ้าง นอกจากชมเมียของตัวเองว่าสวย สวยมาก สวยฉิบหาย##
##กดหัวใจ กดคอมเม้นมาให้กำลังใจไร์ทได้นะคะ กดติดตาม กดทุกอย่างที่มีให้หน่อย##
