บทที่ 8
จ้าวเหยียนให้สองพี่น้องช่วยนางล้างดินออกจากถังเช่าและนำไปตามผึ่งลมให้แห้งเพื่อจะได้นำไปขาย
"ขายได้จริงหรือท่านแม่" หนิงเฉิงมองของประหลาดในกระด้ง
"ราคาดีกว่าโสมมากนัก" จ้าวเหยียนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
เมื่อเสร็จเรียบร้อยจ้าวเหยียนก็พาบุตรทั้งสองอาบน้ำล้างตัวเพื่อเตรียมเข้านอน แต่จือลู่เดินเข้ามาหานางภายในห้องเสียก่อน
"ท่านแม่นอนหรือยังเจ้าคะ" จ้าวเหยียนเรียกให้นางเข้ามา
"มีอันใดหรือลู่เออร์"
"ท่านแม่ กล่องอันใดเจ้าคะ ประหลาดนัก" จ้าวเหยียนหันไปมองตามนิ้วที่จือลู่ชี้ไป
"เป็นไปไม่ได้" นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจ แล้วรีบพุ่งเข้าไปที่กล่องใบนั้นอย่างรวดเร็ว
จือลู่เดินเข้าไปนั่งข้างมารดาที่เปิดกล่องขึ้นดูด้วยมือที่สั่นเทา หนิงเฉิงเมื่อได้ยินเสียงร้องก็รีบเข้ามาภายในห้องเพราะกลัวมารดาของตนจะเป็นอะไร
"กล่องอันใดขอรับท่านแม่" สองพี่น้องนั่งมองของที่อยู่ภายใน จ้าวเหยียนหยิบของออกมาวางเรียงดูก็พบว่าหากนางนำของออกไปก็จะมีของใหม่เข้ามาทดแทน และมีของมากกว่าตอนที่นางไปเบิกยาอีกด้วย
จะบอกได้ว่าแทบจะมียาที่รักษาได้ทุกโรคเลยด้วยซ้ำ แม้แต่เครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดง่ายๆ ที่นางสามารถทำได้ก็มีเช่นกัน
จือลู่กับหนิงเฉิงที่เห็นของในกล่องเพิ่มเข้ามาด้วยก็ตกใจจนถอยห่างออกจากกล่องพร้อมกัน จ้าวเหยียนเพื่อตรวจดูของด้านในเสร็จแล้วก็ปิดกล่องลง แล้วเดินเข้าไปจับมือจือลู่และหนิงเฉิงพาไปนั่งที่เตียง
"แม่จะเล่าเรื่องให้พวกเจ้าฟัง หวังว่าพวกเจ้าจะไม่กลัวแม่"
จ้าวเหยียนมองบุตรทั้งสองก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่นางตายลงเพราะเรื่องอาการเจ็บป่วยที่เรื้อรัง นางได้ไปเกิดอีกภพหนึ่งและได้ใช้ชีวิตที่นั่นจนเมื่อนางประสบอุบัติเหตุจึงได้กลับมาในคืนวันที่นางสิ้นใจจากภพนี้
จือลู่กับหนิงเฉิงโผเข้ากอดมารดาไว้แน่น พร้อมทั้งซุกหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น จ้าวเหยียนก็ลูบหลังทั้งคู่เพื่อปลอบประโลม จนเมื่อทั้งสองหยุดร้องไห้แล้ว และยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ จ้าวเหยียนจึงหยิบกล่องของนางขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาดู
"กล่องที่พวกเจ้าเห็นเป็นกล่องที่แม่ใช้ยามที่ทำงานที่ภพนั้น" เมื่อเห็นบุตรทั้งสองให้ความสนใจ จ้าวเหยียนจึงเริ่มอธิบายวิธีการใช้ง่ายๆ ให้พวกเขาเข้าใจ
จ้าวเหยียนเมื่อได้เปิดใจคุยกับบุตรทั้งสองก็นับว่าปลดเรื่องที่อยู่ในใจของนางลง และเริ่มเข้าหาพวกเขามากขึ้น จ้าวเหยียนเดินไปส่งจือลู่และหนิงเฉิงที่ห้องของพวกเขา
รุ่งเช้าจ้าวเหยียนหลังจากที่นางทำอาหารเสร็จก็เดินไปดูถังเช่าที่นางผึ่งลมไว้ เมื่อเห็นว่ายังแห้งไม่ดี จ้าวเหยียนก็ยกออกไปตากแดดด้านนอกเรือน พรุ่งนี้คงนำไปขายได้
หนิงเฉิงกับจือลู่ที่ได้ขึ้นเขาเมื่อวานก็อยากจะขึ้นไปเก็บผลไม้และผักป่าอีก จ้าวเหยียนก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วปล่อยให้พวกเขาได้ใช้ชีวิต เพราะทางที่นางไปเมื่อวานผักและผลไม้ไม่ได้อยู่ลึกจึงไม่น่าเป็นห่วง
จ้าวเหยียนที่ทำความสะอาดเรือน และเก็บถังเช่าใส่ถุงผ้าก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกนางอย่างร้อนใจอยู่ด้านหน้าเรือน
"อาเหยียน อาเหยียน อยู่หรือไม่" จ้าวเหยียนรีบเดินไปเปิดประตูเรือนทันที
"มีอะไรหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยถามท่านป้าชุย ภรรยาท่านหัวหน้าหมู่บ้าน
"ลู่เออร์ตกเขา เจ้ารีบไปดูเร็วเข้า" เหมือนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของนาง ป้าชุยที่เห็นนางจะล้มลงก็รีบเข้ามาประคองทันที และพานางเดินไปที่ภูเขา
แต่ก็เป็นท่านลุงชุยที่อุ้มจือลู่มุ่งหน้ามาที่เรือนของนางก่อนที่นางจะเดินไปถึงแทน จ้าวเหยียนที่เห็นใบหน้าของจือลู่อาบไปด้วยเลือดก็ยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้ร้องออกมา
นางรีบตั้งสติแล้วให้ท่านลุงชุยอุ้มจือลู่เข้าไปภายในห้องนอนของจือลู่
"ข้าส่งคนไปตามท่านหมอหวงแล้ว พวกเจ้ารอสักประเดี๋ยว" ผู้นำหมู่บ้านพูดกับจ้าวเหยียน
"ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนให้หนิงเฉิงดูชาวบ้านอยู่ภายนอกไม่ให้ทั้งหมดเข้ามายุ่งด้านในเพราะนางจะรักษาให้จือลู่เอง
จ้าวเหยียนเช็ดเลือดออกจากใบหน้าของจือลู่อย่างเบามือ นางพยายามไม่ให้มือของนางสั่นแล้วแต่ก็ยังคอยคุมไม่ได้ เมื่อตรวจดูก็พบว่านางหัวแตกที่ด้านหลังเป็นแผลใหญ่และที่หน้าผากแตกแต่ไม่ใหญ่นัก
ด้านหน้าจ้าวเหยียนเพียงแค่เช็ดแล้วปิดแผลไม่ได้เย็บ จ้าวเหยียนที่กำลังจะเย็บแผลที่ด้านหลัง ประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้น หนิงเฉิงเมื่อเปิดเข้ามาดูเห็นจ้าวเหยียนเก็บของเรียบร้อยแล้วก็เชิญท่านหมอหวงเข้ามาภายในห้อง
