บท
ตั้งค่า

หวนคืน

นับตั้งแต่สกุลซ่งแต่งอนุเข้าจวนเวลาได้ล่วงเลยไปสองเดือน นางเห็นมารดาสามีพูดคุยกับอี้เหรินด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเสมอเพราะนางพูดเก่งทั้งยังอัธยาศัยดี หนำซ้ำทั้งคู่ยังเป็นญาติห่าง ๆ กันอีก หากเป็นนางในชาติก่อนคงไม่คิดว่าสตรีผู้นี้น่าสงสัย ทว่าตอนนี้กลับมิได้คิดเช่นนั้น

ในจวนสกุลซ่งนี้นางเพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อได้ย้อนกลับมาใช้ชีวิตครั้งที่สองว่าตัวนางนั้นยืนโดดเดี่ยวตามลำพัง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยืนเคียงข้างที่ควรเป็นสามี แต่หาได้เป็นเช่นนั้น เบื้องหลังที่ควรมีบ้านเดิมสนับสนุน แต่ผู้ใดเล่าจะรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรนางล้วนทุกคนในสกุลหย่งมองข้าม หญิงสาวไม่เคยมีความสำคัญกับพวกเขาเลยสักนิด หากนางไม่ได้แต่งเข้าสกุลซ่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดข้างกายนางไร้ซึ่งผู้คนยืนเคียงข้าง ทุกอย่างก้าวของนางล้วนยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางเฉียบ หากทำอะไรผิดพลาดไปรังแต่จะทำให้ทั้งสองตระกูลตราหน้าว่าอกตัญญู ในเมื่อไม่มีใครอยู่ข้างนางก็อย่าหวังว่านางจะอยู่ข้างพวกเขาเช่นกัน

“ชวี่อิง เจ้ามัวแต่เหม่ออะไรอยู่ ข้าเรียกเจ้าตั้งหลายครั้ง” มารดาสามีพูดเสียงดัง จนทำให้นางตื่นจากภวังค์

“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเผลอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปหน่อย”

“ข้าเห็นว่าเจ้าตั้งท้องอยู่ ข้าจะยอมให้อภัยเจ้าสักครั้ง ท้องนี้ข้าก็หวังว่าเจ้าจะคลอดเป็นหลานชาย หากไม่เช่นนั้นคงต้องให้อี้เหรินรับหน้าที่ตั้งท้องแทนเจ้า” ต้นประโยคเอ่ยกับลูกสะใภ้เสียงเขียว ท้ายประโยคหันไปพูดกับหลานสาวตัวเองด้วยรอยยิ้มเป็นนัย ๆ ว่าคาดหวังให้หญิงสาวตั้งท้องทายาทสกุลซ่งรุ่นต่อไป หากดูผิวเผินคำพูดเมื่อครู่เป็นเพียงคำพูดธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับตัวนางแล้วคำพูดนั้นไม่ได้ต่างจากการตบหน้านางต่อหน้าสามีที่บัดนี้นั่งเงียบไม่มีปากมีเสียงอยู่กลางห้องโถง

“ท่านย่า ท่านแม่บอกข้าว่าอีกไม่นานข้าจะได้พบหน้าน้องแล้วขอรับ” ตงเฉิงเอ่ยกับท่านย่าของตัวเอง โดยที่ไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ตึงเครียดเพียงใด

“งั้นหรือ แล้วเจ้าดีใจหรือไม่” ฮูหยินผู้เฒ่าถามหลายชายด้วยความเอ็นดู โดยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาชิงชังของอี้เหรินที่มองมายังเด็กชายตัวน้อย

“ตงเฉิงดีใจมาก ๆ เลยขอรับ อีกไม่นานก็จะได้วิ่งเล่นกับน้องแล้ว”

แม้มารดาสามีจะไม่ชอบพอนาง แต่กลับรักหลานชายคนนี้มากเพราะหน้าคล้ายกับแม่ทัพซ่งตอนที่ยังเด็กราวกับแกะ ด้วยนิสัยพูดจาฉะฉานทั้งยังชอบออดอ้อนทำให้ตงเฉิงเป็นที่รักของคนในจวน

“อย่างที่ท่านแม่บอก ข้าหวังว่าเจ้าจะคลอดลูกชายให้ข้าอีกคน สกุลซ่งของเราจะได้มีทายาทหลายคนหน่อย บรรพบุรุษสกุลซ่งจะได้ไม่เป็นกังวล” แม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกคน

“จวนของเรายังต้องมีเด็ก ๆ ให้วิ่งเล่นอีกหลายคน อนุอี้แต่งเข้าจวนของเราสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่ตั้งท้องเสียที หากเจ้ามีเวลาว่างก็ไปหานางที่เรือนให้บ่อยขึ้นหน่อย ข้าจะได้มีหลานเพิ่มไว ๆ” หญิงย่างวัยชราบอกบุตรชาย

“เห็นทีช่วงนี้ข้าคงทำตามที่ท่านแม่บอกไม่ได้ ข้ายังมีงานในกองทัพที่ต้องจัดการมากมาย หากพอมีเวลาว่างลูกย่อมทำตามคำสั่งของท่านแม่”

“คำสั่งที่ไหนกัน เป็นคำแนะนำของสตรีแก่ ๆ อย่างข้าต่างหาก”

“ท่านแม่ ท่านอย่าได้เร่งรัดท่านแม่ทัพไปเลยเจ้าค่ะ อี้เหรินเองก็มีงานในจวนที่ต้องดูแลมากมาย ไว้ผ่านช่วง เดือนนี้ไปแล้วถึงจะได้มีเวลาว่างเว้นพักผ่อนกายใจ” อนุอี้แทรกขึ้นทั้งยังถือวิสาสะเอ่ยเรียกฮูหยินผู้เฒ่าว่ามารดาได้เต็มปากเต็มคำ ทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์เรียกเช่นนั้น

“ประเดี๋ยวฮูหยินคลอดเมื่อใด นางย่อมช่วยแบ่งเบาภาระเจ้า”

“ท่านย่าพูดเช่นนี้ไม่ถูกนะขอรับ ท่านอาจารย์สองตงเฉิงว่าหน้าที่ของภรรยาคือดูแลงานการภายในจวน หน้าที่นี้เป็นของท่านแม่ไม่ใช่หรือขอรับ” เด็กน้อยแย้งขึ้น จนทำให้หย่งชวี่อิงลอบยิ้ม บุตรชายของนางช่างฉลาดเกินวัยยิ่งนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel