เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง 1
บทที่ 5 เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง
วันต่อมา...
หลังจากกินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ต้วนหยางเฟยและหยวนอันอันจึงเก็บของส่วนตัว เพื่อย้ายบ้านโดยที่ชายหนุ่มฝากให้พี่ชายไปลางานให้ ขณะที่กำลังเก็บของอยู่นั้น คนเป็นสามีก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนคุณจะเปลี่ยนไป”
หยวนอันอันได้ยินก็สะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่า เพิ่งแต่งงานเข้ามาสองวันสามีจะสังเกตเห็นว่าเธอเปลี่ยนไปจากเดิม
“ฉันแค่อยากเป็นคนดีในสายตาพี่และทุกคน อีกอย่างก่อนหน้านี้ฉันเองที่ทำผิดจนพี่ต้องมารับผิดชอบคนอย่างฉัน เอ่อ...ฉันขอเวลาพี่สักหน่อย หากฉันยังไม่ดีพอสำหรับพี่ เมื่อนั้นพี่ค่อยหย่ากับฉัน”
ต่อให้คิดว่าจะอยู่กับเขาไปจนวันตาย แต่หากผ่านไปสักปีสองปีเธอยังไม่ได้หัวใจเขามาครอง เธอจะเขียนใบหย่าให้ เพื่อให้เขามีชีวิตตามที่ต้องการ ในเมื่อทำดีแล้วยังไม่ได้หัวใจเขามาเธอก็พร้อมจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระแล้วต่างก็เริ่มชีวิตใหม่
“แต่งงานได้สองวันทำไมถึงพูดเรื่องหย่าล่ะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และผมเองเมื่อตัดสินใจแต่งงานแล้วก็ไม่คิดเรื่องหย่าร้างหรอกนะ เราสองคนค่อยศึกษากันไปก็แล้วกัน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยมานั่งปรึกษากันว่าเราอยู่กันไม่ได้เพราะอะไร หากไม่มีทางออกสำหรับปัญหาเราสองคนค่อยมาคุยกันเรื่องหย่าร้าง” เขาพูดน้ำเสียงราบเรียบสบตาเธอเพื่อยินยันในสิ่งที่พูดออกมา
ต้วนหยางเฟยไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และไม่ว่าเขากับเธอแต่งงานกันเพราะอะไร ในเมื่อแต่งกันแล้วก็ควรประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่งก็พอ นั่นเพราะว่าในชีวิตนี้เขาเองก็ต้องการแต่งงานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หยวนอันอันไม่คิดว่าชายตรงหน้าที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับเธอจะพูดแบบนี้ออกมา เวลานี้ใจของเธอรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลย
ไม่เสียแรงที่ตั้งใจจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต
“ขอบคุณมากนะพี่หยางเฟย ฉันจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังที่แต่งงานกับฉันในครั้งนี้” หญิงสาวตอบกลับ สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขาอยู่ตลอด แต่เมื่อเห็นเขาประสานสายตามาเธอก็รู้สึกเขินอายจึงก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ
เห็นท่าทีน่ารักของภรรยา ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นหยิบของบางอย่างหลังตู้ออกมาแล้วยื่นให้เธอ
“นี่คือเงินเก็บของผม คุณเก็บไว้เถอะ เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายเมื่อย้ายไปอยู่บ้านหยวน”
หยวนอันอันมีสีหน้าตื่นตกใจไม่คิดว่าเขาจะเอาเงินเก็บออกมาให้ ในเมื่อชาติที่แล้วเขาเก็บเงินไว้เองตลอด แล้วทำไม...
“พี่เก็บไว้เถอะ นี่มันเงินของพี่ ฉันเพิ่งแต่งเข้ามาเอง
อีกอย่างฉันพอจะมีเงินใช้อยู่ค่ะ” หญิงสาวคิดว่าหากเธอเอาเนื้อและผลไม้ไปขาย เธอคงจะมีเงินเข้าบ้านไม่น้อยเหมือนกัน เลยคิดว่าเงินของสามีก็ควรให้เขาเก็บเองถึงจะถูก
ต้วนหยางเฟยหรี่ตามองเธอ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธ
แต่ตอนนี้เขาและเธอแต่งงานกันแล้ว เรื่องเงินและเรื่องในบ้านต้องให้คนเป็นภรรยาดูแลอยู่แล้ว
“คุณเก็บไว้เถอะ ผมทำงานนอกบ้านเรื่องภายในบ้านคุณควรจะดูแล อีกอย่างย่าของคุณก็อายุเยอะแล้ว ควรพาท่านไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสักหน่อย หากป่วยเป็นอะไรจะได้รักษาทันเวลา” เขาไม่ได้แช่งหรือคิดไม่ดีกับย่าหยวน แต่อยากจะให้ภรรยาดูแลหญิงชรามากกว่านี้ ท่านจะได้อยู่กับเธอไปอีกนาน ๆ
ที่ผ่านมาต้วนหยางเฟยมักจะได้ยินข่าวลือไม่ค่อยดีของภรรยาไม่เว้นวัน เนื่องจากหยวนอันอันเมื่อก่อนนั้นมักจะหาเรื่องและตบตีกับคนในหมู่บ้านไปทั่ว และยิ่งเธอสร้างเรื่องราวเพื่อให้เขาแต่งงานด้วย เขายิ่งไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนดี แต่เมื่ออยู่ด้วยกันไม่กี่วันเขากลับไม่คิดอย่างนั้น
‘หรือว่าข่าวลือที่กระจายทั่วหมู่บ้านนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เพราะมีคนใส่ร้ายเธอกันนะ’
เมื่อสามีพูดแบบนี้หยวนอันอันจึพยักหน้า แล้วยื่นมือมารับกล่องเงินไว้ “ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจภรรยาคนนี้”
หญิงสาวยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมเรื่องราวในชาตินี้ต่างจากชาติที่แล้ว แต่ไม่ว่าเพราะอะไรเธอก็ยังยืนยันคำเดิมว่า จะรักษาชีวิตคู่ของเธอและสามีไปจนผมขาวและตายจากกันในวัยชรา
ต้วนหยางเฟยสบตากับเธอโดยบังเอิญ เขามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วคิดในใจว่า ‘หากคุณทำตัวน่ารักแบบนี้สักวันหนึ่งผมคงรักคุณโดยไม่มีข้อแม้’
จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันเก็บของกันต่อจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่ต้วนหยางเฟยจะไปยืมรถเข็นที่กองพลน้อยเพื่อขนของย้ายบ้าน
