บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 เขาจะจูบนางหรือ!

“เอ่อ…” ปากบางของฉู่ไจ๋ไจ๋เผยอค้าง นึกโมโหตนเองยิ่งนัก โกหกคำโตเพื่อหมายจะเอาตัวรอด แต่กลับกลายเป็นเผยพิรุธออกมาแทนเสียอย่างนั้น

“เฮือก!” สุดท้ายหญิงสาวจึงแสร้งทำตาเหลือก ล้มลงไปนอนบนพื้นชักดิ้นชักงอยกใหญ่พลางเหลือบตามองคนร่างสูงไปพลาง คิ้วกระบี่ของเซี่ยตงหยางย่นเข้าหากัน เขาคงกำลังสงสัยสินะว่านางกำลังทำอะไรอยู่

ไม่นานร่างที่กำลังดิ้นไปมาก็พลันหยุดลง หญิงสาวนอนหลับตานิ่ง ไม่นานจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางงงๆ

“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ที่นี่ไม่ใช่จวนของข้านี่ ป่านนี้ท่านพ่อท่านแม่คงเป็นห่วงมากแล้ว รีบกลับก่อนดีกว่า” แกล้งทำเป็นพึมพำด้วยริมฝีปากที่สั่นระริกไปมา ก่อนจะสาวเท้าก้าวผ่านร่างสูงไปยังทางออก หากแต่จู่ๆ เซี่ยตงหยางกลับเดินเข้ามารวบคนตัวเล็กอุ้มพาดบ่าไว้เสียก่อน

“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วท่านหญิงไจ๋ไจ๋”

“กรี๊ดดด! คุณชายจะทำอะไรข้า” ฉู่ไจ๋ไจ๋ทั้งอึ้งทั้งตกใจ นอกจากเขาจะรู้ว่านางเป็นใคร ยังถือวิสาสะแตะเนื้อต้องตัวนางโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

“อยู่นิ่งๆ หาไม่อย่าบอกว่าข้าไม่เตือน” ชายหนุ่มกล่าวเสียงดุ หากแต่มีหรือที่คนดื้อรั้นอย่างนางจะยอมฟัง มือบางระดมทุบไปบนแผ่นหลังกว้าง ในขณะที่กำลังดิ้นไปมาอย่างแรงภายในวงแขนของเขา

เพี้ยะ!

มือหนาฟาดลงบนบั้นท้ายของนางอย่างแรง ฉู่ไจ๋ไจ๋เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า ทว่ายังคงปากดี เขารู้ว่านางเป็นใครคงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก

“คนชั่ว! ปล่อยข้านะ หาไม่ข้าจะฟ้องท่านพ่อ”

“เอาสิ คนสกุลฉู่จะได้รู้ว่าท่านหญิงไจ๋ไจ๋บุกมาหาข้าถึงจวนสกุลเซี่ยอย่างหน้าไม่อาย”

ฉู่ไจ๋ไจ๋นิ่งไปทันที หากเรื่องที่นางแอบเข้ามาที่สกุลเซี่ยแพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของนางคงป่นปี้ย่อยยับไม่มีชิ้นดีอย่างแน่นอน

“ข้าไม่ได้มาหาท่านเสียหน่อย” ฉู่ไจ๋ไจ๋ร้องประท้วงให้ตนเอง สาบานได้เลยว่านางไม่เคยคิดอยากจะมาหาเขาสักนิด แค่หน้ายังไม่อยากมองเลย แต่ดูเหมือนว่าเซี่ยตงหยางจะไม่ฟังวาจาของนาง เขายังคงอุ้มร่างเล็กเดินตรงไปยังหน้าประตูจวน หากแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าลง เมื่อเห็นรถม้าคันใหญ่ของจวนสกุลเซี่ยตรงดิ่งเข้ามา

“บ้าจริง!” ชายหนุ่มสบถขึ้นมาเบาๆอย่างหัวเสีย ยามนี้ฉู่ไจ๋ไจ๋ไม่กล้าแม้แต่จะขยับกาย รับรู้ได้ถึงอารมณ์หงุดหงิดของคนตัวโต

เซี่ยตงหยางรีบพาร่างบางเดินหลบไปอีกทางหนึ่ง เป็นเวลาเดียวกันกับที่เกาเหวินซิ่วเดินลงมาจากรถม้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นแผ่นหลังของเซี่ยตงหยางที่เดินขึ้นไปยังตึกชั้นใน อันเป็นที่ตั้งของหอนอนของเขา

“เซี่ยตงหยางอยู่จวนงั้นหรือ” ปากกระจับแต้มชาดสีแดงแย้มออกจากกัน ก่อนที่นางจะเยื้องกายก้าวขึ้นบันไดจวน

ปัง!

ทันทีที่เดินเข้ามาถึงหอนอน เขารีบใช้เท้าถีบปิดประตูลงด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงตรงไปยังเตียงไม้หลังใหญ่ ก่อนจะโยนคนตัวเล็กลงไปบนนั้นอย่างไม่ออมแรง

“นี่ท่าน!”

“เงียบ!” นิ้วใหญ่ชี้หน้าของฉู่ไจ๋ไจ๋ ทำให้คนที่กำลังจะเปิดปากร้องโวยวายจำต้องหุบปากลงทันที สีหน้าเอาเรื่องและแววตาจริงจังของเขาทำให้นางไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกมาอีก

ก๊อกๆๆ!

เสียงเคาะประตูจากภายนอกดังขึ้นขัดจังหวะคนทั้งสอง เซี่ยตงหยางพ่นลมหายใจออกมาแรงๆด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าผืนหนึ่งขึ้นมามัดไปที่ข้อมือเล็กให้ติดกับหัวเตียง จากนั้นจึงมัดปากของฉู่ไจ๋ไจ๋เอาไว้เพื่อไม่ให้นางส่งเสียงร้อง

ฉู่ไจ๋ไจ๋จ้องคนตรงหน้าด้วยดวงตาที่เขียวปั๊ด เห็นเขาหันมาสบตาของนางจึงขึงตาใส่เขาด้วยความโมโห หากแต่เซี่ยตงหยางไม่สนใจ หลังจากจัดการกับคนตัวเล็กเสร็จจึงเดินตรงไปแง้มบานประตูออก

“ฮูหยินรอง” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แตกต่างจากเกาเหวินซิ่วที่ยิ้มกว้าง มองบุรุษร่างสูงตาเป็นประกาย

“ข้าเห็นว่าคุณชายตงหยางอยู่จวนจึงสั่งให้สาวใช้นำขนมอิ่วจาก้วยมาให้ทาน” หญิงสาวยื่นมือไปรับถ้วยกระเบื้องใส่ขนมจากสาวใช้ และยื่นมาให้เซี่ยตงหยาง ปรายตามองร่างสูงอย่างมีจริตจะก้าน

“ขอบคุณฮูหยินรอง หากแต่ข้าไม่ชอบกินขนมพวกนี้ มันไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้าที่เฉยชา ท่าทางของคนตรงหน้าทำให้เกาเหวินซิ่วกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อยคล้ายกำลังไม่ใคร่พอใจเท่าใดนัก

“ถ้าเช่นนั้นเปลี่ยนเป็นขนมเทียนเอ๋อต้านแทนดีกว่าหรือไม่” ไม่รอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม ฮูหยินรองสกุลเซี่ยก็หันไปหาสาวใช้ ทว่าปากกระจับของนางยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ย เซี่ยตงหยางพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ขนมอะไรข้าก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ ฮูหยินรองอย่าเสียเวลากับข้าเลย” มือหนาดึงบานประตูหมายจะปิดลง หากแต่เกาเหวินซิ่วกลับยื่นมือเข้ามาขวางเอาไว้

“คุณชายตงหยาง ไยถึงได้ชอบปฏิเสธน้ำใจของข้านัก เจ้าจงเกลียดจงชังอะไรข้ากันนักกันหนา ทั้งๆที่ข้าพยายามทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราดีขึ้นแท้ๆ” เกาเหวินซิ่วสะอื้นขึ้นมาเบาๆหนึ่งหน หยาดน้ำตาไหลทะลักทลายออกมาจนเกลื่อนใบหน้า แต่ไม่ได้ทำให้ความงดงามของนางลดน้อยลงไปเลย ตรงกันข้ามยิ่งทำให้ดูน่าทะนุถนอมมากขึ้นกว่าเดิม

เกาเหวินซิ่วอายุมากกว่าเซี่ยตงหยางราวสามปี ยามนี้นางอายุยี่สิบแปด ยังคงความงดงามราวกับสตรีแรกรุ่นไม่แปรเปลี่ยน

เซี่ยตงหยางแค่นเสียงเหอะออกมาในลำคอ ความงามของนางไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวเฉกเช่นเดียวกับบุรุษอื่น ก่อนจะดึงประตูให้ปิดลงเสียงดังปัง! ทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงหลังใหญ่อย่างฉู่ไจ๋ไจ๋สะดุ้งโหยงขึ้นอย่างแรงด้วยความตกใจ

มือบางของเกาเหวินซิ่วกำแน่นเข้าหากัน รู้สึกโมโหไม่น้อยที่โดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แต่เมื่อเห็นเหล่าสาวใช้กำลังมองอยู่ นางจึงแสร้งปิดปากร้องไห้สะอึกสะอื้นตามเดิม จากนั้นจึงก้าวเดินออกไปจากหน้าประตู โดยยังคงเปล่งเสียงร้องไห้กระซิกๆไปตลอดทาง ราวกับเสียใจที่โดนบุตรชายเลี้ยงอย่างเซี่ยตงหยางปฏิเสธเสียเต็มประดา

เซี่ยตงหยางเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมดึงผ้าที่ปิดปากของฉู่ไจ๋ไจ๋ออก เมื่อเป็นอิสระ นางจึงรีบเปล่งเสียงเจื้อยแจ้วออกมาทันที

“คุณชายเซี่ยปลดผ้าที่ข้อมือของข้าให้ด้วยสิ”

“ข้าปล่อยท่านหญิงแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้”

“ไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะปล่อยข้าตอนไหนเล่า” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมแน่น หากท่านพ่อกับท่านแม่รู้ว่ายามนี้นางอยู่ในหอนอนกับบุรุษสองต่อสองต้องเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย ลำพังแค่หายออกไปจากจวนสกุลฉู่ตอนนี้ หากกลับไปต้องโดนท่านพ่อกับท่านแม่ซักถามจนตัวเปื่อยอย่างแน่นอน

“รอให้ทางสะดวกก่อนเถิด ข้าจะพาท่านหญิงกลับจวนสกุลฉู่อย่างปลอดภัย” บางทียังคิดที่จะฟ้องฉู่อ๋องและพระชายาจวีลู่ม่านอีกด้วยว่าท่านหญิงฉู่ไจ๋ไจ๋แอบลอบเข้าจวนสกุลเซี่ย

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้ฉู่ไจ๋ไจ๋ถึงกับขนลุกซู่ เซี่ยตงหยางคงกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ทว่าชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยวาจาใดออกมา ขายาวก้าวตรงไปยังโต๊ะอ่านหนังสือพร้อมหยิบตำราเล่มใหญ่ออกมาเปิดออกอ่าน ทำเหมือนกับว่าฉู่ไจ๋ไจ๋ไม่ได้มีตัวตนอยู่ในตอนนี้

“คุณชายเซี่ยมัดข้าไว้เช่นนี้ หากข้าปวดเบาจะทำอย่างไร”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพ่นลมหายใจยาวเหยียดด้วยความหงุดหงิด เดินหายเข้าไปในส่วนอาบน้ำ ก่อนจะกลับมาพร้อมกระโถนในมือใบหนึ่ง และโยนมันลงที่พื้นเบื้องหน้าของฉู่ไจ๋ไจ๋

'ช่างเป็นคนที่หยาบกระด้างและหยาบคายยิ่งนัก' หญิงสาวลอบบ่นอุบ อดเปรียบเทียบกับหวงจื่อเฉาไม่ได้ แม้เขาจะชิงชังนางมากเพียงใดแต่ไม่เคยทำกับนางเช่นนี้เยี่ยงเซี่ยตงหยางมาก่อน

หญิงสาวมองคนที่เดินกลับไปนั่งลงบนโต๊ะอ่านหนังสือด้วยแววตาขุ่นเคือง

“ข้าโดนมัดมือไว้จะให้ปลดผ้าอย่างไรกัน”

“ข้าจะปลดให้ท่านหญิงเอง พอใจหรือไม่”

คำตอบของเขาทำให้ดวงตากลมของนางโตขึ้นกว่าเดิม ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นแรงราวจะกระเด็นออกมานอกอก ดวงหน้าร้อนผ่าวกับวาจาห่ามๆของเขา

“คุณชายเซี่ยบ้าไปแล้วหรือ! ข้ากับท่านไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อยจะมาปลดผ้าให้กันได้อย่างไร”

เซี่ยตงหยางส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านตำราในมือเช่นเดิม ทว่ามีหรือที่ฉู่ไจ๋ไจ๋จะยอมง่ายๆ หากเขายังกักขังนางไว้ที่นี่ต่อไป นางจะก่อกวนเขาเรื่อยๆไม่หยุดเช่นกัน

“ท่านขังข้าไว้กับท่านสองต่อสองเช่นนี้ มันผิดธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของแคว้นหู ท่านไม่กลัวหรือ หากท่านพ่อกับท่านแม่ของข้ารู้ต้องเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบข้าอย่างแน่นอน”

เซี่ยตงหยางเงยหน้าใช้ดวงตาดุคมราวกับแส้ตวัดมองคนตัวเล็ก ก่อนจะปิดตำราในมือเสียงดังปึง! พร้อมทั้งย่างสามขุมเข้ามาหา

“ทะ ท่านจะทำอะไรข้าน่ะ” ฉู่ไจ๋ไจ๋หน้าซีดปากสั่น ยิ่งได้เห็นคนตัวโตเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ วางมือข้างกายของนาง ราวกับกำลังกักขังนางไว้ในอ้อมแขนของเขา

ฉู่ไจ๋ไจ๋เบี่ยงกายไปทางด้านหลังกระทั่งเสียหลักหงายหลังล้มตึงลงไปบนเตียง ร่างบางพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา ทว่าไม่ทันเสียแล้วเมื่อเซี่ยตงหยางโน้มกายลงมาทาบทับนางเอาไว้!

“ไม่นะ ไม่!” เขาจะจูบนางหรือ! หญิงสาวหลับตาปี๋เมื่อเห็นเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกโด่งเป็นสันสัมผัสกับจมูกเล็กที่เชิดรั้นน้อยๆของนาง กลิ่นกายบุรุษลอยมาปะทะจมูกให้ความรู้สึกมวนท้องอย่างประหลาด ปากบางเผยออกจากกันตามสัญชาตญาณ เมื่อคิดว่าเขาต้องจุมพิตนางเป็นแน่แท้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel