ตอนที่ 14 ใจอ่อน
ตอนที่ 14 ใจอ่อน
พวกเขาเดินกลับเข้าเมืองก่อนที่ประตูเมืองจะปิด เมื่อกลับถึงจวน ฮุ่ยฮูหยินที่นั่งรออยู่ก็ถามถึงการเที่ยวชมเมืองของพวกนาง
“เป็นอย่างไรบ้าง? ได้เห็นอะไรน่าสนใจหรือไม่?” ฮุ่ยฮูหยินถาม
“เมืองหยางโจวสวยงามมากเจ้าค่ะ แต่ข้าประทับใจหมู่บ้านนอกเมืองมากกว่า ข้าได้พบหมอหญิงที่น่าสนใจคนหนึ่ง”
“หมอหญิง?” ฮุ่ยฮูหยินทวนคำ
“ใช่เจ้าค่ะ ข้าอยากไปศึกษาวิธีรักษาคนป่วยกับนาง”
ฮุ่ยฮูหยินมองหน้าเยี่ยเฟยหลิงด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสนใจเรื่องการแพทย์ด้วยหรือ?”
“เจ้าค่ะ ข้าสนใจมานานแล้ว” เยี่ยเฟยหลิงตอบ พยายามทำให้น้ำเสียงฟังดูจริงใจที่สุด “ข้าคิดว่าการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่มีคุณค่า”
ฮุ่ยฮูหยินยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าเป็นเด็กดี แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องยาสมุนไพรหรอก ในอนาคตเจ้าจะได้แต่งงานกับคนที่มีฐานะดี มีคนรับใช้คอยดูแล”
เยี่ยเฟยหลิงก้มหน้า “ข้าเพียงอยากมีความรู้ติดตัวไว้เจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าท่านป้าจะอนุญาตให้ข้าไปเรียนรู้กับหมอหญิงผู้นั้นได้หรือไม่?”
ฮุ่ยฮูหยินถอนหายใจเบาๆ “ถ้าเจ้าตั้งใจจริง ข้าจะไม่ขัดขวาง แต่ต้องมีชิงชิงและห่านตงไปด้วยทุกครั้ง และต้องกลับมาก่อนพระอาทิตย์ตก เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านป้ามาก” เยี่ยเฟยหลิงยิ้มกว้าง
คืนนั้น เยี่ยเฟยหลิงนอนไม่หลับ นางคิดถึงคำพูดของฟางจินที่บอกว่านางมีความแค้นในใจ ทำไมนางถึงได้มองคนทะลุปรุโปร่ง นางต้องไม่ใช่แค่หมอหญิงชาวบ้านธรรมดาแน่ๆ
“ข้าต้องเรียนรู้วิชาของนางให้ได้” เยี่ยเฟยหลิงกระซิบกับตัวเอง “ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม”
รุ่งเช้าวันต่อมา เยี่ยเฟยหลิงตื่นแต่เช้าตรู่ นางแต่งตัวด้วยชุดที่เรียบง่ายที่สุดที่มี แล้วเรียกชิงชิงให้มาช่วยทำผม หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เยี่ยเฟยหลิงก็ออกจากจวนพร้อมกับชิงชิงและห่านตง พวกเขาเดินออกจากเมืองไปยังหมู่บ้านจูโจว
“คุณหนู ท่านแน่ใจหรือว่านี่เป็นความคิดที่ดี?” ห่านตงถามด้วยความกังวล “หมอหญิงผู้นั้นดูเหมือนจะไม่ชอบคนรบกวน”
“ข้าไม่ได้จะไปรบกวนนาง ข้าจะไปช่วยนาง” เยี่ยเฟยหลิงตอบอย่างมั่นใจ
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงเชิงเขาทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ก็พบกระท่อมไม้หลังเล็กตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ มีควันลอยออกมาจากปล่องไฟเล็กๆ บนหลังคา
เยี่ยเฟยหลิงสูดหายใจลึกๆ แล้วเดินเข้าไปที่ประตูกระท่อม นางยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ
ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก ฟางจินยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อเห็นเยี่ยเฟยหลิง
“เจ้าอีกแล้ว” ฟางจินพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าบอกแล้วว่าไม่รับเจ้าเป็นศิษย์”
“ข้าไม่ได้มาขอเป็นศิษย์ท่านในวันนี้” เยี่ยเฟยหลิงตอบอย่างนอบน้อม “ข้าเห็นว่าท่านอยู่คนเดียว คงต้องทำงานหนัก ข้าเลยมาช่วยท่าน”
ฟางจินเลิกคิ้ว “ช่วยข้า? คุณหนูอย่างเจ้าจะช่วยอะไรข้าได้?”
“ข้าเห็นว่าโอ่งน้ำของท่านเกือบว่างเปล่า” เยี่ยเฟยหลิงชี้ไปที่โอ่งใบใหญ่ข้างกระท่อม “ข้าจะช่วยหาบน้ำมาให้ท่าน”
ฟางจินหัวเราะเบาๆ “เจ้าเคยหาบน้ำมาก่อนหรือ? เดี๋ยวมือเล็กๆนุ่มนิ่มของเจ้าจะด้านเอานะ”
เยี่ยเฟยหลิงยิ้มกว้าง “ข้าไม่กลัวงานหนักเจ้าค่ะ”
ฟางจินมองนางอย่างพิจารณา แล้วยักไหล่ “ตามใจเจ้า ถ้าเจ้าอยากช่วย ข้าก็ไม่ห้าม”
เยี่ยเฟยหลิงรีบคว้าไม้คานและถังน้ำสองใบที่วางอยู่ข้างโอ่ง นางไม่เคยทำงานเช่นนี้มาก่อน ตอนที่เป็นนางกำนัลอยู่ในวังงานที่ทำส่วนใหญ่เป็นงานทำความสะอาด จัดดอกไม้ และเย็บปัก
“คุณหนู ให้ข้าช่วยเถอะเจ้าค่ะ” ชิงชิงเอ่ยอาสา
“ไม่เป็นไร ข้าทำเองได้”
นางเดินไปยังลำธารที่อยู่ไม่ไกลนัก ตักน้ำใส่ถังจนเต็ม แล้วพยายามยกคานขึ้นวางบนบ่า น้ำหนักของถังน้ำทำให้นางเซไปมา แต่นางก็พยายามทรงตัว
“ระวังด้วย คุณหนู!” ชิงชิงเดินตามไม่ห่าง
เยี่ยเฟยหลิงค่อยๆ เดินกลับมาที่กระท่อม น้ำกระฉอกออกมาจากถังบ้าง แต่นางก็พยายามประคองไม่ให้หกมากเกินไป เมื่อมาถึงโอ่ง นางวางถังลงอย่างระมัดระวังแล้วเทน้ำลงในโอ่ง แล้วหันไปหาบน้ำอีกรอบ
ฟางจินยืนมองอยู่ที่ประตูกระท่อม สีหน้าของนางเรียบเฉย แต่ในดวงตามีประกายแปลกๆ
เยี่ยเฟยหลิงหาบน้ำไปมาหลายเที่ยวจนโอ่งเต็ม บ่าของนางเจ็บปวด ส่วนมือก็เริ่มแดง แต่นางไม่แสดงอาการเจ็บปวดให้ใครเห็น
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ” นางบอกฟางจิน “มีงานอื่นที่ข้าช่วยได้อีกไหม?”
ฟางจินมองนางครู่หนึ่ง “เจ้าช่วยข้าบดสมุนไพรพวกนี้ได้ไหม?” นางชี้ไปที่กองสมุนไพรบนโต๊ะไม้หน้ากระท่อม
“ได้เจ้าค่ะ” เยี่ยเฟยหลิงรับคำทันที
นางนั่งลงที่โต๊ะและเริ่มบดสมุนไพรตามที่ฟางจินสอน
วันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนกลับเยี่ยเฟยหลิงถามฟางจิน “พรุ่งนี้ข้าขอมาช่วยอีกได้ไหมเจ้าคะ?”
ฟางจินมองนางอย่างประเมิน “ถ้าเจ้าอยากมา ก็มาสิข้าไม่ได้ห้ามสักหน่อย”
เวลาผ่านไปหลายวัน เยี่ยเฟยหลิงยังคงไปช่วยฟางจินทำงานทุกวัน นางออกจากเมืองตั้งแต่เช้าตรู่และกลับเข้าเมืองก่อนพระอาทิตย์ตกทุกวัน นางช่วยหาบน้ำ ถางหญ้า บดสมุนไพร และงานอื่นๆ ที่ฟางจินมอบหมายให้
วันหนึ่ง ขณะที่เยี่ยเฟยหลิงกำลังบดสมุนไพร ฟางจินก็เอ่ยขึ้น “เจ้าทำงานหนักมาหลายวันแล้ว ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ?”
“ข้าต้องการเรียนรู้วิชาแพทย์จากท่านจริง ๆ เจ้าค่ะ” เยี่ยเฟยหลิงตอบตรงๆ
ฟางจินถอนหายใจ “ความพยายามของเจ้าทำให้ข้าประทับใจ แต่ข้ายังกังวลเรื่องความแค้นในใจเจ้า”
เยี่ยเฟยหลิงวางครกบดสมุนไพรลง นางมองตรงไปที่ฟางจินด้วยสายตาจริงจัง
“ท่านหมอฟาง ข้าไม่ปฏิเสธว่าในใจข้ามีความแค้น แต่ข้าไม่ได้ต้องการเรียนรู้วิชาแพทย์เพื่อทำร้ายผู้อื่น” นางพูดเสียงเบา “ข้าต้องการช่วยเหลือผู้คน เหมือนที่ท่านทำ”
ฟางจินมองลึกเข้าไปในดวงตาของเยี่ยเฟยหลิง ราวกับกำลังค้นหาความจริงใจ
“ข้าเห็นความพยายามของเจ้า” ฟางจินพูดในที่สุด “ข้าจะสอนเจ้า แต่มีข้อแม้”
ดวงตาของเยี่ยเฟยหลิงเป็นประกายด้วยความดีใจ “ข้อแม้อะไรหรือเจ้าคะ?”
“ข้าจะสอนเจ้าเฉพาะวิธีรักษาโรคทั่วไปเท่านั้น” ฟางจินกล่าวเสียงเข้ม
เยี่ยเฟยหลิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณเจ้าค่ะ”
ฟางจินยิ้มบาง “ดี ถ้าเช่นนั้น เริ่มจากวันพรุ่งนี้ ข้าจะสอนเจ้าอย่างจริงจัง แต่เจ้าต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ การเดินทางไปกลับทุกวันจะทำให้เจ้าเหนื่อยเกินไป”
“ข้าจะย้ายมาอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ” เยี่ยเฟยหลิงตอบทันที
“แต่กระท่อมของข้าคับแคบ ไม่มีที่สำหรับคนรับใช้ของเจ้า” ฟางจินมองไปที่ชิงชิงและห่านตงซึ่งนั่งรออยู่ใต้ต้นไม้
เยี่ยเฟยหลิงหันไปมองสาวใช้ทั้งสองคน ก่อนจะหันกลับมาหาฟางจิน “ข้าสามารถอยู่ที่นี่คนเดียวได้”
“เจ้าแน่ใจหรือ?” ฟางจินถาม
“ข้าแน่ใจเจ้าค่ะ” เยี่ยเฟยหลิงตอบอย่างมั่นใจ
ฟางจินพยักหน้า “ดี กลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา”
เยี่ยเฟยหลิงยิ้มกว้าง นางค้อมตัวคำนับฟางจินอย่างนอบน้อม “ขอบคุณท่านหมอฟางมาก ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”
เมื่อกลับถึงจวนตระกูลฮุ่ย เยี่ยเฟยหลิงรีบไปพบฮุ่ยฮูหยินเพื่อขออนุญาตย้ายไปอยู่กับหมอฟาง
“อะไรนะ? เจ้าจะไปอยู่กับหมอหญิงในกระท่อมกลางป่า?” ฮุ่ยฮูหยินอุทานด้วยความตกใจ “ไม่ได้เด็ดขาด!”
“ท่านน้า โปรดเข้าใจด้วยเถิดเจ้าค่ะ” เยี่ยเฟยหลิงคุกเข่าลง “นี่เป็นโอกาสเดียวที่ข้าจะได้เรียนรู้วิชาแพทย์อย่างจริงจัง ข้าไม่ได้ลำบากอะไร”
“แต่เจ้าจะไปอยู่คนเดียวได้อย่างไร? อย่างน้อยต้องมีชิงชิงไปด้วย” ฮุ่ยฮูหยินยังกังวล
“หมอฟางบอกว่ากระท่อมคับแคบ ข้าต้องไปอยู่คนเดียวเท่านั้น ข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี และจะกลับมาเยี่ยมท่านน้าเป็นประจำ”
ฮุ่ยฮูหยินถอนหายใจยาว “เจ้าตั้งใจจริงๆ สินะ”
“เจ้าค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ข้าปรารถนาจริงๆ” เยี่ยเฟยหลิงตอบ
“เอาเถอะ ข้าจะอนุญาต แต่ทุกห้าวันเจ้าต้องกลับมาที่จวนสักครั้ง เพื่อให้ข้ารู้ว่าเจ้าปลอดภัยดี”
“ขอบคุณท่านป้ามากเจ้าค่ะ”
คืนนั้น เยี่ยเฟยหลิงเตรียมข้าวของที่จำเป็น นางเลือกเสื้อผ้าที่เรียบง่ายที่สุด และหยิบเงินติดตัวไปเพียงเล็กน้อย
“คุณหนู ท่านแน่ใจหรือว่าจะไปอยู่ที่นั่นคนเดียว?” ชิงชิงถามด้วยความเป็นห่วง “ที่นั่นไม่มีความสะดวกสบายเหมือนที่นี่เลย”
“ข้าแน่ใจ เจ้าอยู่ที่นี่ก็ช่วยงานเล็กๆน้อยๆบ้างนะ”
ชิงชิงพยักหน้า “เจ้าค่ะ”
