บท
ตั้งค่า

2

กรุงเทพมหานคร

ฟาริดากระโดดกอดคนรักแน่นแต่เขายังยืนนิ่ง ใบหน้าสวยพลันงองำ เขาหนีกลับมาก่อนเธอให้อภัยแต่ตอนนี้ยังไม่สำนึกผิด ใบหน้าเคร่งขรึม เธอจะทำยังไงกับเขาดี เธอจึงพูดเรื่องที่คิดว่าเขาไม่ชอบแน่ๆ ไม่อยากพูดแต่อดใจไม่ไหวในบางครั้ง

“อีเธอร์คะ ทำไม ทำตัวไม่น่ารัก แก่แล้วนะ เดี๋ยวหนูไม่รักนะ”

อีเธอร์ ถอดแว่นกันแดดฉาบปรอทสีเทาที่ปิดบังดวงตาออก

อีเธอร์ อายุ37 ปี รูปร่างสูงใหญ่เพราะเขาเป็นหนุ่มเลือดผสม ตะวันออกและตะวันตก เป็นหนุ่มผู้หล่อเหลาที่สาวแท้ สาวเทียมต้องเหลียวหลังมองเมื่อเฉียดใกล้ ข้อนี้แฟนสาวรู้ดีจึงห่วงหวงเขามาก

“อะไรนะ”

“ล้อค่ะ แก่ที่ไหน หล่อขนาดนี้ใครมองแก่ก็ตาบอด”

“ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับหนูฟานะครับ แค่นี้พอใจยังครับ” หนุ่มผู้มีอารมณ์แปรปรวนเสมอบอกให้เธอจดจำอีกครั้ง

เรื่องนี้พูดกันหลายครั้ง เรื่องเป็นเสือยิ้มยากของคนรัก ฟาริดาถอนหายใจยอมแพ้ เธอมีแฟนแก่กว่าก็ต้องยอมเขา เพื่อที่จะรักษาผู้ชายที่เพียบพร้อมให้อยู่กับเธอตลอดไป

ฟาริดาเธอเป็นสาวสวยวัย 20 ปี รูปร่างบาง ผิวสีแทน เธอเป็นสาวน้อยที่มีความคิดล้ำหน้าเด็กสาวในวัยเดียวกัน เธอเจออีเธอร์หนุ่มลูกผสมหลายเชื้อชาติทั้ง ไทย กรีก อังกฤษเมื่อสองปีก่อน อีเธอร์เป็นอาของเพื่อน ฟาริดาตกหลุมรักทันทีที่เห็น มีเพื่อนสาวเชียร์อยู่ข้างๆ สาวสวยมากมายที่สนใจอีเธอร์แต่คุณย่าเขาชอบสาวไทย เธอจึงต้องตาคุณย่าเมื่อได้เข้าไปดูแล ต้องขอบใจคนในครอบครัวนั้นที่ทำให้เธอได้ควงเขามาถึงสองปี

“ไม่อยากเรียนแล้ว” เธออ้างเมื่อเขาต้องกลับเมืองไทย เขาถามว่าทำไม เธอจึงตอบว่าที่บ้านอยากให้มาดูแลกิจการและเรียนต่อเมืองไทยถ้าต้องการ อีเธอร์รู้ว่าพ่อเธอเสียนานแล้วและต้องการให้เธอกลับเมืองไทยตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ไม่ยอมกลับ เรื่องนี้ฟาริดาจึงไม่ต้องถกเถียงหรือหาเหตุผลบอกกับคนรัก ทั้งที่จริงบ้านเธอมีปัญหาเรื่องเงิน เธอไม่กล้าบอกเขา ตอนนี้ที่ทำได้คือกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สมบัติของพ่อจึงหายไปหมด

เพราะยายแม่เลี้ยงแน่ๆ ฟาริดาคิดเรื่องนี้ด้วยความคลางแคลงใจ

“ไปพักผ่อนเถอะ ผมไปส่งที่คอนโด”

ฟาริดาอ้อนให้เขาอยู่เป็นเพื่อนแต่คนรักบอกว่ามีธุระเรื่องงาน ฟาริดาจำใจตามใจแต่ไม่ลืมบอกว่าถ้าว่างให้โทรมาหาเธอเพราะพรุ่งนี้เธอต้องรีบกลับบ้านที่สุโขทัย

“แน่นอน ผมไม่ทิ้งสาวสวยให้รอนานอยู่แล้ว”

คนรักพูดน้อยตามนิสัย แต่บทจะหวานจะเร่าร้อนก็ทำเธอระทวยซาบซ่าน ฟาริดาหอมแก้มเขาแรงๆ เมื่อลงจากรถ โบกมืออำลาเดินขึ้นไปพักบนคอนโดของคนรัก

อีเธอร์เดินไปขึ้นรถคันหรูที่ขับด้วยตนเอง เขาไม่ได้มีงานอะไรที่ต้องสะสาง ส่งคนรักแล้วก็นัดกับเพื่อนสนิทเพื่อออกไปดื่มด้วยกัน จุดหมายคือผับดังใจกลางกรุงของเพื่อนนั่นเอง

“มึงหล่อจนสาวๆ กูตาเหล่ หมดแล้ว” วสันต์เย้าอีเธอร์เมื่อเพื่อนทรุดนั่งในห้องวีไอพี

อีเธอร์ในชุดเสื้อยืด สวมทับสูทเนื้อดี ด้านล่างกางเกงยีนต์ ยกบรั่นดีขึ้นดื่มก่อนพูด “มึงก็พูดเกินไป กูว่ามึงนั่นแหละ ทำให้ที่นี่มีสาวๆ แน่นแบบนี้ทุกคืน ถ้ามึงไม่แซ่บ สาวๆ คงไม่ติดตรึม”

“นั่นก็ไม่ปฏิเสธวะ”

สองเพื่อนหัวเราะ ยกแก้วขึ้นชน

วสันต์ถามเพื่อนจะอยู่นานแค่ไหนเพราะนานแล้วไม่มาเมืองไทยและงานที่ต่างประเทศเพื่อนก็รับผิดชอบมากโขอยู่ อีเธอร์ทำท่าครุ่นคิด

“ต้องคิดด้วยเหรอวะ ปกติแกมีแผนตลอด” วสันต์ทำหน้าตาไม่เชื่อ

“แฟนกลับมาด้วย คงต้องไปเที่ยวบ้านเขาหน่อย คบมาสองปีไม่เคยรู้จักพ่อแม่เลย”

“กูละทึ่งและอึ้งกับมึงจริงๆ ที่เอาเด็กมาเป็นแฟน…”

อีเธอร์ยกแก้วขึ้นดื่ม สายตาฉายแววบางอย่างก่อนลุกไปยืนดูผู้คนกลางคืนที่วาดลวดลายบนฟอร์อย่างสุดเหวี่ยง แต่ทุกคนใช่ภาพที่เขามองเห็น เพราะภาพที่เห็นกลับเป็นเรื่องอื่นที่ซ้อนทับผ่านม่านตา หัวใจหนุ่มโปรไฟว์ดีกระตุกแปลกๆ

“กูสะกิดเรื่องในใจหรือไง ขอโทษ” วสันต์พูดเสียงเบา

ชอบเด็ก

มีเพียงสองครั้งในชีวิตที่เขาเป็น

คนแรก รักและหวังเธอมาเคียงข้างแต่เจ็บร้าวเจียนบ้าเมื่อถูกทรยศ ครั้งนี้เขาถูกใจก็ลองเสี่ยงกับเด็กอีกครั้ง หวังว่าเธอจะทำให้เขาลืมอดีตที่ตามมาหลอกหลอนได้

ฟาริดา เขาหวังเธอเยียวยาหัวใจและที่ผ่านมา และตอนนี้แม้เขาไม่หายดีแต่ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว

“ไม่ขนาดนั้น” อีเธอร์บอกเพื่อนแต่ยังยืนที่เดิม

“ถ้าอย่างนั้น มึง เหม่ออะไรมานั่งตรงนี้”

อีเธอร์กลับนั่งที่เดิม ดื่มอย่างเต็มที่เพราะไม่ต้องกังวลอะไร ตอนนี้เขาอยู่กับเพื่อนที่รักมากที่สุด มันพร้อมดูแลเขา อีเธอร์รู้ดี

วันนั้นที่ปางตายก็มีเพื่อนคนนี้ดูแล ดูแลอย่างดีให้ก้าวผ่านเรื่องเหล่านั้นไปได้

คิดแล้วก็ให้ขำ ขำตนเอง ที่ไปหลงรักแม่สาวบ้านป่าที่ต้องการเพียงจะลองลิ้มรสสวาทจากผู้ชายอย่างเขา คิดแล้วให้น่าขำที่โดนทิ้งเพียงเพราะเธอมีคู่หมายปองมาก่อนหน้านั้น

ผู้หญิงน่าสมเพช น่ารังเกียจ ปล่อยตัวให้กับเขา พอถึงเวลาก็ต้องกลับไปหาคนที่เธอรัก จะด่าใครกันแน่เรื่องนี้ อีเธอร์ดื่มบรั่นดีแก้วแล้วแก้วเล่า

ผ่านมาเนิ่นนานเขาก็ยังเป็นบ้า …เป็นบ้า อีเธอร์เกลียดตนเองที่คิดไม่เลิก ตึง! เขาวางแก้วบรั่นดี

“เป็นไรอีกวะ”

“เมื่อก่อนเป็นไก่อ่อน ฮ่าๆๆๆ”

“มึงนี่สงสัยบ้า อย่างมึงไก่อ่อน คนอื่นไม่ลูกเจี๊ยบหรือวะ” วสันต์ตบไหล่ อย่างรู้ความในใจแต่ไม่พูดอะไรออกมา เพราะที่ผ่านมาเพื่อนเคยพูดไอ้คำที่ว่า ‘กูโดนต้มเหมือนไก่’

แต่ในใจวสันต์จะคิด…นานมากแล้ว แม่งยังจำอีกหรือวะ มีแฟนใหม่ก็แล้ว ทำไมไม่ลืมวะ?

หลายปีก่อน อีเธอร์หรือสายลม เดินทางพร้อมเพื่อนชายอีกหลายคนท่องเที่ยวเมืองสุโขทัย ในตอนนั้นเขาไม่คิดเลยจะเจอผู้หญิงที่โดนใจทุกอย่าง แม้เธอจะอายุน้อยแต่ความน่ารักทำให้ ‘เสือ’ ที่เพื่อนๆ ขนามนาม พร้อมจะถอดเขี้ยวเล็บ ไม่สนใจใครว่าตนโดน ‘ของ’ อีเธอร์พักร้อนยาวที่นั่นเพื่อได้มีเวลาเกี้ยวพาสาวน้อยที่โตเป็นสาวเกินอายุ

เธอมาทำงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดเทอม เขาถามไถ่รู้ว่ากำลังจะจบมอปลาย เพื่อนต่างล้อเขาที่จะเคี้ยวดอกไม้ป่า อีเธอร์คิดเพียงสนุกในตอนแรกเพราะเธอขี้อายน่ารักดี นานวันที่เจอ ความน่ารักทำให้อดที่จะคิดมากกว่าหยอกล้อไม่ได้ กลิ่นกายสาวช่างเย้ายวน น่าลิ้มลองเมื่อเข้าใกล้

“หนูไม่เคยมีแฟน” เธอบอก มันก็สมควรเป็นอย่างนั้น แต่ทุกอย่างเธอโกหกได้แนบเนียนนัก กว่าจะรู้ตัวโดนเด็กหลอกเขาก็กลายเป็นไอ้งั่ง ใครๆ อาจจะไม่รู้เขารู้สึกดีกับเธอมาก มีเพียงวสันต์ที่รู้ ผู้ชายชื่ออีเธอร์เสียใจมากที่โดนเด็กมาหลอกลวง

เธอบอกว่าพ่อแม่อยากให้แต่งงานกับผู้ชายอายุมากคราวพ่อ เธอร้องห่มร้องไห้

“หนูจะไปอยู่กับคุณ ขอไปด้วยนะคะ หนูเป็นของคุณแล้ว ฮือๆๆ”

ความสงสารมาพร้อมความพึงพอใจ พอใจมาก เขาตัดสินใจวางแผนพาเธอไปต่างประเทศด้วยกัน แต่ทุกอย่างแค่เรื่องสนุกสำหรับเด็กสาว

เธอแต่งงานกับผู้ชายแก่คราวพ่อเพียงเขากลับไปจัดการทุกอย่างที่กรุงเทพ

ความตั้งใจทุกอย่างมลายสิ้นลง เขาจากมาพร้อมคำว่า ‘โดนเด็กหลอก’ มันคือรอยแผลในใจไม่มีวันลืม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel