บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 บิดาผู้ชั่วร้าย

การเดินทางไปเมืองหลงเฉิงของจื่อหนิงต่อจากนี้นางมิได้เร่งรีบ เนื่องจากอีกไม่กี่วันนางก็พาซื่อจื่อน้อยกลับถึงจวนหลี่อ๋องอย่างปลอดภัย แต่เรื่องที่จื่อหนิงหลบหนีจากหมู่บ้านไป๋หยุน อารองอย่างหร่วนชางกุ้ยได้ส่งข่าวไปถึงบิดาของนางแล้ว

ย้อนกลับไปในวันที่คนในเรือนของหร่วนชางกุ้ย ถูกจื่อหนิงวางยาสลบและค้นเอาของมีค่าภายในเรือนไปจนเกลี้ยง ยามที่ทั้งห้าคนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นสภาพข้าวของถูกรื้อค้นไปทั่วทุกห้อง แต่ละคนรีบตรวจดูข้าวของรวมถึงสมบัติของตน แต่กลับพบเจอแค่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

เจียงหรงผิงที่ซ่อนทั้งเงินและเครื่องประดับไว้ รีบเปิดดูหีบใบเล็กของตนเมื่อเห็นด้านในถึงกับทรุดลงกับพื้นทันที

“ไม่มี...มันจะหายไปไปอย่างไรข้าเก็บไว้อย่างดีนี่นา ไม่ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด โฮ ๆ ๆ สมบัติของข้าไม่เหลือแล้ว”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรากันแน่ เงินทองที่ข้าอุตส่าห์เก็บสะสมไว้จะหายไปได้อย่างไร อ๊าก! ใครมันบังอาจขโมยเงินของข้า อย่าให้ข้าตามไปจับตัวกลับมาได้เชียวเจ้าหัวขโมย เจ้าไม่ได้ตายดีแน่ ฮึ่ย”

กรี๊ด! “ท่านแม่เครื่องประดับของข้าไม่เหลือเลยเจ้าค่ะ มีคนขโมยเครื่องประดับของข้าไปท่านแม่ ฮือ ๆ ๆ ท่านต้องซื้ออันใหม่ให้ข้านะ”

ปัง! "บัดซบ! ต้องเป็นนังหลานตัวดีจื่อหนิงแน่ ๆ ที่ขโมยข้าวของในบ้านของเราไปจนหมด จากนั้นก็หลบหนีออกจากหมู่บ้านไป อย่าให้รู้นะว่าเจ้าหลบหนีไปอยู่ที่เมืองใด หากข้าจับได้เมื่อไหร่จะสับเจ้าเป็นชิ้น ๆ คอยดู”

ตอนนี้ในเรือนตระกูลหร่วนกลวงโบ๋ ไม่มีแม้แต่เหรียญอีแปะไว้ซื้อเนื้อ เพราะจื่อหนิงไม่ได้ใจดีเหลือเงินไว้ให้ หร่วนชางกุ้ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างอาฆาต จนเขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเรื่องนี้ต้องรีบบอกกับพี่ชายโดยเร็ว

หร่วนชางกุ้ยปล่อยให้คนอื่น ๆ ตีอกชกตัวเพราะสมบัติหายไป ส่วนตนเองรีบหากระดาษพู่กันมาเขียนจดหมาย ภายในเนื้อหานอกจากบอกเล่าเรื่องที่จื่อหนิงหลบหนีไปได้ ยังโยนความผิดทุกอย่างให้กับนางและหวังให้พี่ชายส่งเงินมาให้ตนกับครอบครัว

ปัจจุบัน ณ จวนตระกูลหร่วนในเมืองหลวง

ขณะที่หร่วนฉินหงกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง คนสนิทอย่างเสี่ยวรุ่ยก็ถือจดหมายที่พ่อบ้านนำมามอบให้ เดินเข้าไปหาเจ้านายหลังจากได้รับอนุญาต

“นายท่านจดหมายจากหมู่บ้านไป๋หยุนขอรับ”

หร่วนฉินหงเลิกคิ้วหนาขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกแปลกใจที่น้องชายส่งจดหมายมาติด ๆ กันเช่นนี้ “เมื่อหลายวันก่อนก็เพิ่งส่งมามิใช่รึ”

เสี่ยวรุ่ยไม่ได้ตอบเขาเพียงยื่นจดหมายไปตรงหน้า รอให้หร่วนฉินหงรับมันไปเปิดอ่านเพียงเท่านั้น ถึงอยากตอบเสี่ยวรุ่ยย่อมคิดได้เพียงเรื่องเดียว คือการเขียนจดหมายมาขอเงินจากบ้านรองของเจ้านาย

พรึบ! “เจ้าพวกโง่เง่า! แค่หญิงสาวร่างกายอ่อนแอคนเดียว ยังปล่อยให้หนีออกจากหมู่บ้านไปได้ เจ้าพวกตัวไร้ประโยชน์”

“นายท่านเกิดอันใดขึ้นที่หมู่บ้านไป๋หยุนหรือขอรับ”

“หึ จะเรื่องอะไรอีกเล่าก็น้องชายของข้าน่ะสิ ไปทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ปล่อยให้เด็กคนนั้นหลบหนีไปได้ หากนางคิดมาตามหาข้าที่เมืองหลวง แล้วเรื่องนี้ทราบไปถึงฝ่าบาทละก็ การเลื่อนขั้นเป็นเสนาบดีกรมพิธีการของข้าคงเป็นไปไม่ได้อีก” หร่วนฉินหงพูดอย่างเดือดดาล

เสี่ยวรุ่ยที่พอจะรู้ความลับเรื่องนี้อยู่พอสมควร เขาย่อมรู้ดีว่าหร่วนฉินหงต้องการตำแหน่งนี้มากเพียงใด หากไม่มีนิ่งฮูหยินที่ตกหลุมรักเจ้านายตั้งแต่แรกเห็น เมื่อสอบเป็นจอหงวนได้ใต้เท้านิ่งจึงเรียกตัวมาพบ เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานและยังสนับสนุนหร่วนฉินหง ในการสร้างผลงานให้กับราชสำนักจนไต่เต้ามาถึงตำแหน่งรองเสนาบดี

“นายท่านต้องการให้ข้าช่วยจัดการเรื่องนี้หรือไม่ หากนางมีร่างกายที่อ่อนแอคงหลบหนีไปได้ไม่เร็วนัก เพราะต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายอีกนานกว่าจะกลับมาแข็งแรงดังดะ...” แต่เสี่ยวรุ่ยยังพูดไม่จบก็มีเสียงสตรีผู้เป็นนายหญิงของจวนดังแทรกเข้ามา

“ท่านพี่จะให้เสี่ยวรุ่ยไปจัดการผู้ใดหรือเจ้าคะ แล้วใครกันที่ร่างกายอ่อนแอแต่ยังคิดหลบหนี” นิ่งฮูหยินเอ่ยถามสามีแม้น้ำเสียงจะดูธรรมดา แต่แววตากลับหาได้ล้อเล่นเช่นน้ำเสียงไม่

“ฮูหยินมาพบข้าถึงห้องหนังสือ หรือว่าท่านพ่อตามีเรื่องอันใดเกี่ยวกับข้าหรือไม่” หร่วนฉินหงไม่ได้ตอบคำถามฮูหยินของตน แต่เฉไฉถามนางกลับไปเสียอย่างนั้น

นิ่งฮูหยินจ้องมองสามีด้วยท่าทางสงบนิ่ง ท่าทีเช่นนี้หร่วนฉินหงย่อมรู้ดีว่านางกำลังไม่พอใจ “ท่านพี่ยังไม่ได้ตอบคำถามของข้านะเจ้าคะ ตกลงว่าท่านกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ที่ข้าอยากรู้เพราะบางทีอาจช่วยท่านจัดการได้”

หร่วนฉินหงถอนหายใจเบา ๆ เขาก้มหน้าหลุบตามองพื้น จากนั้นจึงเอ่ยถึงเรื่องของบุตรสาวอย่างจื่อหนิง “เฮ้อ ได้ ข้าจะบอกเจ้าว่าเรื่องที่จะให้เสี่ยวรุ่ยไปจัดการ คือเรื่องของบุตรสาวข้าที่หมู่บ้านไป๋หยุน ตอนนี้นางได้หลบหนีออกมาจากหมู่บ้านแล้ว ข้าจึงรู้สึกกังวลใจเกรงว่านางจะทำให้ข้าพลาดตำแหน่งเสนาบดีในครั้งนี้น่ะ”

“หึ ลูกสาวของท่านกับภรรยาหน้าโง่นั่นน่ะหรือ นางหลบหนีออกมาได้แล้วอย่างไร ท่านพี่คิดว่าหญิงสาวที่เดินทางเพียงลำพัง จะมีชีวิตรอดมาถึงเมืองหลวงได้อย่างนั้นหรือ ต่อให้นางมาถึงเมืองหลวงจริงก็เท่านั้น หากนางไม่มีหลักฐานพูดจนปากฉีกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกนะท่านพี่” นิ่งฮูหยินมั่นใจว่าสามีจะเลื่อนตำแหน่งได้โดยไร้อุปสรรค

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะฮูหยิน แต่เราไม่ควรชะล่าใจจนเกินไป เรื่องนี้ให้เสี่ยวรุ่ยพาคนไปจัดการให้เรียบร้อย กันไว้ดีกว่าต้องมานั่งแก้ปัญหาทีหลังมิใช่หรือฮูหยิน” อย่างไรเสียหร่วนฉินหงก็ไม่วางใจ หากไม่กำจัดจื่อหนิงให้พ้นเส้นทางแห่งอำนาจของตน

“เอาเช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ หวังว่าจะไม่ถูกทางการจับได้จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงลงพระนามเลื่อนตำแหน่งของท่านพี่นะเจ้าคะ” ในเมื่อสามีตัดสินใจจะลงมือเอง นางก็พูดอันใดไม่ได้เพราะนั่นเป็นเรื่องเก่า ที่ผู้เป็นสามีต้องแก้ไขมันด้วยตนเอง

หร่วนฉินหงโล่งอกที่ฮูหยินของตนไม่รั้นเข้ามาวุ่นวาย หากนางไม่ยอมลงให้เรื่องอาจจะบานปลายก็เป็นได้ “ขอบใจฮูหยินที่เข้าใจข้า เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนี้จะจัดการให้เงียบที่สุด ข้าไม่มีทางให้เกิดผลกระทบกับการเลื่อนตำแหน่งแน่นอน”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะ”

“อืม”

หร่วนฉินหงรอให้นิ่งฮูหยินออกจากห้องไป เขาถึงหายใจหายคอได้สะดวกกว่าเดิมเล็กน้อย และรีบสั่งการกับเสี่ยวรุ่ยต่อทันที “เสี่ยวรุ่ยเจ้ารีบไปจัดการนางให้เรียบร้อย หากนางต้องการเงินก็มอบให้นางไป แต่อย่าลืมให้นางลงชื่อในหนังสือสัญญา แต่ถ้านางดื้อรั้นคิดจะทำลายอนาคตของข้า ก็กำจัดนางให้ตามมารดาของนางไปเสีย เข้าใจหรือไม่”

“บ่าวทราบแล้วขอรับ”

“เจ้าออกเดินทางวันนี้เลยก็แล้วกัน อย่าลืมส่งข่าวมาถึงข้าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

“ขอรับนายท่าน บ่าวขอตัวก่อนขอรับ”

เมื่อหลงเข้าไปสู่วังวนแห่งอำนาจ จิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ย่อมถูกความทะยานอยากครอบงำไปจนสิ้น ไม่สนว่าคนที่คิดจะกำจัดจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ขอเพียงเส้นทางที่เดินไร้อุปสรรค อำนาจที่ต้องการย่อมอยู่ในกำมือได้ไม่ยาก

แต่ภารกิจนี้ของเสี่ยวรุ่ยต้องทำให้เจ้านายผิดหวัง เพราะไม่มีใครรู้ว่าจื่อหนิงหลบหนีไปอยู่ที่ใด ถึงจะมีภาพเหมือนถือไปถามไถ่ชาวบ้าน ย่อมไม่มีใครรู้จักนางอยู่แล้ว เพราะนางแทบไม่ได้พบเจอผู้คน นอกจากชาวบ้านในหมู่บ้านไป๋หยุนเท่านั้น
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel