บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ขอค่าแรงย้อนหลังก่อนหลบหนี

ภายหลังที่จื่อหนิงวางแผนกับผู้ช่วยคนใหม่ นางจึงทำน้ำแกงบำรุงร่างกายของตนเสียก่อน จากนั้นจึงไปยังห้องเก็บวัตถุดิบ นางหยิบเอาสมุนไพรหลายตัวที่มีฤทธิ์กดประสาท เพื่อนำไปต้มรวมกันในหม้อปรุงอาหาร ทำเป็นน้ำแกงให้กับคนตระกูลหร่วนได้ดื่ม

“เสี่ยวถังเป่าเจ้านำน้ำแกงสมุนไพรนี้ ไปใส่ถ้วยในห้องครัวให้ข้าที ยังมีผัดผักอีกสองอย่างกับข้าวสวยพวกเขาจะได้ไม่สงสัย”

‘ได้เลย ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอนจื่อหนิง’

“อื้ม ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า”

จื่อหนิงมองเสี่ยวถังเป่าเก็บน้ำแกงสมุนไพร รวมถึงอาหารที่นางทำสองอย่างเข้ามิติส่วนตัว และหายออกไปต่อหน้าต่อหน้า จากนี้แค่รอฟังข่าวว่าคนตระกูลหร่วนดื่มน้ำแกงจนหลับไหล นางถึงจะออกไปเก็บค่าแรงย้อนหลังได้

เสี่ยวถังเป่าออกจากมิติของจื่อหนิง ก็บังเอิญเห็นหร่วนชางลี่เดินตรงไปยังห้องครัว ตนจำต้องรีบวิ่งไปยังห้องครัวให้เร็วที่สุด เพื่อจัดการตามแผนของจื่อหนิงได้อย่างเฉียดฉิว

หร่วนชางลี่ที่ถูกพี่ชายคนรองใช้ให้นางมาทำอาหารเช้าอย่างไม่เต็มใจนัก แต่พอเข้ามาถึงก็มีอาหารวางอยู่ก่อนแล้ว นางจึงคิดว่าพี่สะใภ้รองทำไว้ให้ก่อนไปตามหาจื่อหนิง “อาหารก็ทำไว้แล้วยังจะใช้ข้าอีก”

เมื่ออาหารถูกยกเข้ามาวางบนโต๊ะ เพราะออกไปเดินตามหาคนจนเหน็ดเหนื่อย ไม่มีใครระแวงสงสัยว่าอาหารคือฝีมือของใคร ต่างคนต่างคิดว่าพี่สะใภ้รองเป็นคนทำ ส่วนคนเป็นพี่ชายคนรองก็คิดว่าน้องสาวเป็นคนทำ ด้วยความหิวจึงไม่มีใครพูดถึงเรื่องของจื่อหนิง

จนกระทั่งอิ่มหนำสำราญและแยกย้ายกัน เพื่อเตรียมตัวไปทำงานของแต่ละคน จู่ ๆ พวกเขาก็เกิดอาการง่วงงุนจนไม่อาจฝืนมันได้ ทั้งบุรุษและสตรีในบ้านหลังนี้ต่างล้มลงนอนบนพื้น เหมือนคนอดหลับอดนอนมานานทันที

‘สมน้ำหน้าเจ้าพวกสารเลว เงินทองที่เก็บสะสมไว้ทั้งหมด ข้าจะให้จื่อหนิงเก็บเข้ามิติไปให้หมด หลังจากนี้พวกเจ้าก็ทำงานเก็บเงินใหม่เถิด เหอะ’

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน เสี่ยวถังเป่าจึงหายตัวเข้าไปหาจื่อหนิง และบอกเล่าเหตุการณ์ด้านนอกให้ฟัง ‘จื่อหนิงเจ้าพร้อมหรือยัง ด้านนอกนอนหลับสนิทกันทั้งบ้านแล้วนะ ถ้าเจ้าพร้อมข้าจะพาไปรับค่าแรงที่เจ้าอยากได้’

พรึบ! “เจ้าพูดจริงรึเสี่ยวถังเป่า หึ คราวนี้คนพวกนั้นจะได้ทำงานเองเสียที จิกหัวใช้เจ้าของร่างมานาน ดูท่าคนที่จะดวงซวยคงไม่พ้นอาหญิงเล็กกับบุตรสาวเป็นแน่” เพราะหร่วนชางลี่เลิกรากับสามีช่างตีเหล็ก และพาบุตรสาวกลับมาอาศัยบ้านเดิม พวกนางสองแม่ลูกย่อมถูกกดหัวให้ทำงานแทนนางอยู่แล้ว

จื่อหนิงออกจากมิติพร้อมเสี่ยวถังเป่า นางค่อย ๆ เดินเข้าไปชะโงกหน้ามองด้านในผ่านช่องประตู เมื่อเห็นว่าภายในเงียบสนิทไม่มีเสียงความเคลื่อนไหว จึงเปิดประตูเข้าไปใช้มือสะกิดตัวอารอง เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีใครตื่นมาระหว่างที่นางเก็บค่าแรง

ปึก! “หึ สมน้ำหน้านอนหลับยาว ๆ ไปเถอะ ส่วนเงินทองของพวกเจ้าข้าจะช่วยใช้ให้เกิดประโยชน์เอง ไปเสี่ยวถังเป่าพวกเรารีบเก็บค่าแรง และออกไปจากหมู่บ้านไป๋หยุนกันดีกว่า”

‘อื้ม เจ้าตามข้ามาก็แล้วกัน เก็บให้หมดทุกห้องสิ่งไหนมีค่า เจ้าก็เก็บไปด้วยเถิดพอไปถึงอำเภออื่น ค่อยเอาออกไปขายทีหลัง’

“แน่นอนสิเสี่ยวถังเป่า พวกเราจะเป็นคู่หูจอมโจรลึกลับ ที่กวาดของมีค่าทุกอย่างให้เกลี้ยง ฮ่า ๆ ๆ”

หนึ่งคนกับกระรอกน้อยหนึ่งตัว กำลังรื้อค้นในห้องนอนของคนในบ้าน ไม่ว่าจะเจอก้อนเงินตำลึงหรือตั๋วเงิน แม้กระทั่งเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ จื่อหนิงไม่ทิ้งไว้ให้สตรีคนไหนได้ใช้อีก นางจะนำไปขายเปลี่ยนเป็นเงินให้หมด

เมื่อจื่อหนิงเก็บค่าแรงจากการทำงานเสร็จ จึงรีบชักชวนเสี่ยวถังเป่าออกจากหมู่บ้านไป๋หลุน เพราะนางกลัวว่าหากยังอยู่ในบ้าน เกรงว่าจะมีสหายของอารองมาตามไปทำงาน ถ้าคนพวกนี้ตื่นขึ้นมาเสียก่อนนางคงหลบหนีได้ยากแล้ว

“เสี่ยวถังเป่าพวกเรารีบไปกันเถอะ ข้ายังต้องเข้าไปที่ตำบลหาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ขืนใส่ชุดเก่า ๆ ปะแล้วปะอีกเดินทาง คงถูกพวกค้าทาสจับตัวไปขายแน่”

‘ได้เลย ก่อนอื่นต้องเข้าไปในมิติของเจ้าเสียก่อน จากนั้นค่อยออกคำสั่งว่าจะให้มิติพาเจ้าไปโผล่ที่ใด’

“อืม” วับ! “มิติวิเศษช่วยพาข้าไปยังชายป่านอกเขตตำบลหลานฮวาที อ้อ ขอเป็นบริเวณที่ไม่ไกลทางเข้าตำบล และไม่มีคนเห็นยามที่ข้าออกจากมิติ”

หลังจากจื่อหนิงพูดจบ นางรู้สึกได้ว่าในมิติคล้ายไม่มีการเคลื่อนไหว แต่เป็นเสี่ยวถังเป่าที่สะกิดบอกกับนาง ว่ายามนี้ได้มาถึงนอกเขตตำบลหลานฮวาแล้ว

‘ออกไปดูด้านนอกเถิดจื่อหนิง ว่าใช่สถานที่ที่เจ้าออกคำสั่งไปเมื่อครู่หรือไม่’

“พวกเราออกไปพร้อมกันดีกว่านะเสี่ยวถังเป่า หากเป็นเช่นที่เจ้าพูดข้าจะได้หยิบเครื่องประดับออกไปขาย จะได้ใช้เงินนี้ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เสียก่อน ขืนเข้าร้านไปและจ่ายเงินในสภาพน่าสังเวช คงถูกทางการจับตัวเพราะคิดว่าข้าเป็นหัวขโมยละนะ”

เสี่ยวถังเป่าใช้ดวงตาเล็ก ๆ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าของจื่อหนิง ก็เห็นจะจริงอย่างที่นางพูดเพราะชุดบนร่างของนางเก่าคร่ำครึสุด ๆ

พรึบ! จื่อหนิงหลับตาก่อนจะออกมาด้านนอก นางไม่กล้ามองด้วยกลัวว่าจะยังอยู่ที่เดิม เมื่อสัมผัสถึงสายลมที่พัดผ่านร่างกาย จึงค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ ซึ่งภาพตรงหน้าทำเอานางถึงกับกระโดดอย่างดีใจ

“โฮะ! เสี่ยวถังเป่าข้าหลบหนีจากตระกูลเฮงซวยนั่นได้แล้ว จากนี้ข้าจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง และตามหาขาทองคำในการพึ่งพาอำนาจ พอข้าได้รับความไว้วางใจค่อยจัดการบิดาชั่วนั่น ฮ่า ๆ ๆ”

‘ข้าเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถมากพอ ที่จะมีขาทองคำมาให้เกาะจนไม่อยากปล่อยมือเชียวล่ะ ส่วนบิดาชั่ว ๆ ของเจ้าไว้จัดการทีหลังก็ยังทันถมเถ’

“ใช่ดั่งคำที่ว่าแก้แค้นสิบปียังไม่สาย หร่วนฉินหงเจ้ารอข้าก่อนเถิด วันหน้าบุตรสาวคนใหม่ผู้นี้จะไปแสดงความกตัญญูต่อเจ้าเอง แต่ตอนนี้รีบไปจัดการธุระส่วนตัวของข้าให้เสร็จก่อนก็แล้วกัน ค่อยออกเดินทางต่อให้ไกลจากตำบลหลานฮวา”

จื่อหนิงเดินลัดเลาะออกจากชายป่า โดยมีเสี่ยวถังเป่าเกาะอยู่บนไหล่ของนาง เมื่อเดินมาได้ระยะหนึ่งก็เริ่มพบผู้คนสัญจรไปมา แต่สายตาของคนเหล่านั้นที่เห็นนางเดินเพียงลำพัง เต็มไปด้วยความรู้สึกนึกคิดที่หลากหลาย

คนที่พอมีจิตใจเมตตาก็รู้สึกสงสาร คนที่ดูถูกชาวบ้านยากจนย่อมมองอย่างเหยียดหยาม หรือบางคนมองด้วยความเฉยชาก็มีเช่นกัน

จื่อหนิงทำอย่างที่พูดด้วยการขายเครื่องประดับ ซึ่งเป็นของอาสะใภ้รองที่เก็บเอาไว้อย่างดี นางขายไปหลายชิ้นได้เงินมาเกือบสิบตำลึงเงิน จึงพาตัวเองไปยังร้านผ้าซื้อชุดที่ตัดสำเร็จสามสี่ชุด และขอใช้ห้องที่ร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ทันที

ด้วยเค้าโครงใบหน้าที่งดงามเหมือนมารดา ผู้ซึ่งมาจากตระกูลเศรษฐีกินดีอยู่ดี พี่น้องของมารดาในตระกูลหวง ล้วนงดงามหล่อเหลาทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อจื่อหนิงได้เปลี่ยนชุดใหม่ แม้รูปร่างจะยังซูบผอมอยู่บ้าง แต่ยังคงความโดดเด่นของดวงตากลมโต ที่แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาดและซุกซน ตามประสาของคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ ด้านโภชนาการจากโลกคู่ขนาน
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel