EP3
“ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดก็อย่าน้ำลาย เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นเธอนั่นแหละที่โดนฉันกัดลิ้นซะเอง”
พิมพิกาที่ได้ยินคำพูดของพายัพก็ตัวแข็งทื่ออย่างคนทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองหน้าพายัพด้วยสายตาเลิ่กลั่ก ในขณะที่ตัวของพายัพขยับมายืนตัวตรงล้วงมือเข้ากับกระเป๋ากางเกงพลางยักคิ้วหลิ่วตาใส่พิมพิกาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ฉันให้เวลาเธอสิบนาทีเก็บของให้เสร็จแล้วตามฉันไปที่ห้องทำงาน” ก่อนที่เขาจะเอ่ยสั่งพิมพิกาเสียงเรียบ “อย่าให้ฉันต้องเดินมาตามล่ะ เพราะคนอย่างฉันตามธรรมดาไม่เป็น”
“ไอ้บ้า” พิมพิกาก่นด่าตามหลังชายหนุ่มที่เดินออกไปไกลด้วยความอัดอั้นใช้มือขย้ำกระโปรงตัวเองจนยับยู่ยี่เพื่อระบายความโกรธของตัวเอง
เธออยากจะยกมือข่วนหน้าพายัพให้เป็นรอย อยากจะข่วนหน้าเขาให้เลือดไหลเป็นทาง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เขาที่ชื่อว่า “พายัพ” มันบ้าที่สุดเลย
“ทำไมแกไม่บอกฉันฮะอรว่าเขายืนอยู่” เมื่อนึกอะไรบางอย่างออกพิมพิกาก็หันมาแหวใส่เพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้าเจือนอยู่
“ฉันส่งสายตาให้แกแล้วนะพิม”
“แม่ง ฉันอยากจะบ้า” พิมพิกายกมือขยี้ผมตัวเองแรง ๆ ตามอารมณ์ของตัวเองที่มีอยู่ ก่อนที่จะเริ่มลงมือเก็บของบนโต๊ะทำงานด้วยความเร่งรีบเพราะขืนเธอมัวแต่ชักช้าลีลามีหวังไอ้พายัพได้เดินมาเทศนาเธออีกรอบแน่
ใช้เวลาไม่นานสัมภาระต่าง ๆ ของพิมพิกาก็มาวางกองกันอยู่บนโต๊ะทำงานใหม่หน้าห้องทำงานของพายัพ
“เหนื่อยชะมัด” พิมพิพาบ่นพึมพำพลางยกหลังมือเช็ดหยาดเหงื่อที่ไหลลงมาปรกหน้าก่อนจะเริ่มจัดข้าวจัดของที่เธอหิ้วมาให้เข้าที่เข้าทาง กว่าจะทำอะไรเสร็จสรรพเวลาก็เดินมาหยุดที่เที่ยงของวัน พิมพิกาคิดว่าจะนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อน ก่อนจะไปทานข้าวกลางวันแต่ทว่าโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานของเธอก็แผดเสียงร้องดังขึ้นมา “อะไรอีกเนี่ย” พิมพิกาบ่นออกมาแต่ก็ยอมยื่นมือออกไปกดรับสาย
พิมพิกา: คะ
กรอกเสียงหวานลงไปเพื่อที่จะให้ปลายสายได้ยิน
พายัพ: เข้ามาช่วยดูเอกสารให้ฉันหน่อย
พิมพิกากลอกสายตามองบนเมื่อได้ยินเสียงของพายัพ ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เธอจะต้องเข้าไปเจอหน้าเขา พิมพิกาไม่อยากเจอ พิมพิกาไม่อยากเห็น บอกความจริงเลยว่าเธอเจอหน้าพายัพแค่วันแรกเธอก็รู้สึกเกลียดเขามาเป็นชาติ
พิมพิกา: ได้ค่ะบอส ดิฉันกำลังจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ
น้ำเสียงของพิมพิกาติดกระแนะกระแหนที่แม้แต่พายัพเองก็ยังสัมผัสได้ ริมฝีปากหยักลึกบิดยิ้มชอบใจ
พายัพ: งั้นก็ช่วยเสด็จเข้ามาสักทีเถอะครับคุณพิมพิกา หรือว่าต้องให้ฉันไปอันเชิญคุณเข้ามา
พิมพิกา: ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเกรงใจ
พิมพิการีบกดวางสายพายัพก่อนจะก่นด่าเขาตามหลังอีกตามเคย หลังจากวางสายพายัพพิมพิกาก็นั่งทำใจอยู่ครู่หนึ่งกับการที่เธอต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับเขา
ก็อก ก็อก
“ขออนุญาตค่ะบอส” พายัพที่ได้ยินเสียงหวานของเลขาสาวก็เงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามอง
“ชักช้า”
“ดิฉันก็เร็วได้แค่นี้แหละค่ะ เพราะดิฉันไม่มีปีกไม่ได้เป็นจรวดและบินไม่ได้”
“หึ” พายัพเค้นหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้กับพูดประชดประชันของหญิงสาว เขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่อย่างนึกสนุก “ปากดีนะครับคุณเลขา ก่อนหน้ายังก้มหน้าหลบสายตาไม่กล้าสู้หน้าฉันอยู่เลย” พายัพถามแบบยิ้ม ๆ แต่ทว่าใบหน้าของเขากลับไม่ได้ยิ้มตามเลยสักนิด
พิมพิกาที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเธอเผลอทำนิสัยไม่ได้ดีใส่เจ้านายคนใหม่ ก็กล่าวขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษค่ะ”
“วันแรกที่เราเจอกัน ฉันก็สัมผัสได้แล้วว่าเธอเป็นคนที่ใช้คำว่าขอโทษได้เปลืองมาก”
แหมตัวเองดีตายแหละ
พิมพิกาว่าพายัพในใจ
“ไม่ต้องมาว่าฉันในใจ” พิมพิกาสะดุ้ง รีบปฏิเสธพายัพด้วยความร้อนรน
“ดิฉันเปล่านะคะ”
“สีหน้าเธอมันฟ้อง”
แสนรู้จังนะ
พิมพิกาคิดในใจ
“บอสคิดไปเองมากกว่าค่ะ” แต่ถึงกระนั้นพิมพิกาก็ยังยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง
“เธอดูร้อนตัวนะ” พายัพที่เห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวก็นึกสนุก หน้าตาตื่น ๆ ของพิมพิกามองไปมองมาเขาว่ามันก็ดูน่ารักดี
“พิมว่าเราอย่ามาพูดเรื่องอื่นกันเลยดีกว่าค่ะ เอาเอกสารที่บอสบอกจะให้พิมช่วยดูมาสิคะ” พิมพิการีบเปลี่ยนเรื่อง
“อ๋อ ไม่ต้องแล้วล่ะฉันเข้าใจแล้ว”
พิมพิกายิ้มกัดฟันในขณะที่ฝ่ามือกำเข้าหากันแน่น
“ต้องขอโทษด้วยที่ฉันทำให้เธอต้องเสียเวลา แต่หวังว่าเธอคงเข้าใจมือใหม่ที่เพิ่งมาทำงานวันแรก”
“ค่ะ ฉันเข้าใจ”
เข้าใจกับผีนะสิ
ไอ้นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!
