บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

ประตูห้องเช่าแบบรายวันถูกเปิดออกพร้อมร่างเล็กแบบบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ดูมอมแมมยับยู่ยี่ บางช่วงมีรอยขาดน้อยๆ เดินเข้ามาภายในห้องคับแคบที่เล็กยิ่งกว่ารูหนู ใบหน้าเรียวรูปไข่ดูมีสีหน้าอิดโรย ผมเผ้านั้นแม้จะมีการรวบตึงเป็นหางม้าแต่ก็มีร่องรอยยุ่งเหยิงไม่น้อยขณะพาตัวเองมาทิ้งลงบนเตียงเหล็กแข็งๆ จนมันเกิดเสียงดังเอี๊อดอ๊าดตามความเก่า

ใครจะคิดว่าชีวิตเธอจะต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆ แบบนี้ เมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เองที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่จะนำพาให้เธอต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็น คิดแล้วก็ให้รู้สึกแค้นใจกับตัวการที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ เธออยู่ของเธอดีๆ แต่ทำไมคนคนนั้นจะต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เธอ

“ฉันก็แค่มารับตัวแกไปตามคำสั่งของเสี่ย” เสียงดุดันของชายร่างยักษ์ที่บุกมาจับตัวเธอถึงหน้าบ้านพร้อมปืนพกที่มันเอามาขู่ไม่ให้เธอดิ้นหรือส่งเสียงร้อง พวกมันมากันสามสี่คนเห็นจะได้จับพาเธอยัดใส่รถตู้และขับพาเธอมาตามเส้นทางนอกเมืองจนใกล้จะออกต่างจังหวัดเต็มที

“เสี่ยไหน ฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย” แม้ตกอยู่ในวินาทีอันตราย แต่เธอก็ยังมีสติมากพอจะตอบโต้ ตากลมใสนั้นก็จับจ้องที่ปากกระบอกปืนซึ่งจ่อมาทั้งที่พวกมันก็จับเธอมัดไว้เสียจนแทบดิ้นไม่ได้

“เสี่ยนำชัย เจ้าหนี้ของนังญาดาไงล่ะ” คนที่ขับรถเป็นฝ่ายตอบและนั่นก็ทำให้เธอถึงกับตาลุกวาวเผลอตวาดใส่ไป

“ญาดา! แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉัน”

“ก็มันเอาเธอไปเสนอให้เสี่ยใช้หนี้ที่มันติดเสี่ยไว้ไง มันบอกว่าเธอเป็นลูกของมันไม่ใช่หรือไง” อีกจนไขความกระจ่างให้เธอที่ถึงกับตัวสั่นงันงกซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้มาจากความกลัวอีกต่อไป หากแต่เป็นความโกรธความแค้นและชิงชังกับสิ่งที่ญาดาทำกับเธอ

ญาดา เป็นแม่เลี้ยงที่อายุมากกว่าเธอเพียงห้าปี เธอกับผู้หญิงคนนั้นไม่ใคร่จะกินเส้นกันนักด้วยเธอเห็นแล้วว่าการที่ญาดาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะเมียใหม่ของพ่อเป็นเพราะเจ้าหล่อนเห็นว่าพ่อของเธอมีหน้าที่การงานที่มั่นคงพอที่จะทำให้เจ้าหล่อนสุขสบาย...แหงะล่ะ จะมีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ที่ไหนยอมตกเป็นเมียผู้ชายอายุคราวพ่อแถมยังเป็นพ่อหม้ายลูกติด ถ้าไม่ได้หวังอย่างอื่น...นี่คือสิ่งที่เธอคอยตั้งแง่กับญาดามาตลอดที่หล่อนย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน และคงเพราะเธอตั้งแง่มากเกินไป สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นเธอเองที่ต้องระเห็จออกจากบ้านทันทีที่เรียนจบและไปหางานทำที่ต่างจังหวัดเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแม่เลี้ยงจอมแสบ

แต่เรื่องราวที่ดูเหมือนจะจบมันกับไม่เป็นเช่นนั้น หายนะมาเยือนเมื่อจู่ๆ ผู้เป็นพ่อก็มีอาการไตวายเฉียบพลันทั้งที่ไม่เคยมีวี่แววมาก่อนว่าพ่อจะเป็น เคราะห์ดีที่ญาดานำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันแต่เมื่อช่วยชีวิตไว้ได้ พ่อก็ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องฟอกไตทุกวันเพื่อประทังชีวิต เงินทองเริ่มร่อยหรอ ญาดาเองก็ไม่อาจทนดูแลคนป่วยที่ไร้สมรรถภาพนอนรอความตาย เจ้าหล่อนจึงละเลยและใช้ชีวิตอย่างที่ใจปรารถนาโดยไม่ได้สนใจใยดีพ่อจนเธอไม่อาจทนได้ต้องลาออกจากงานกลับมาอยู่กรุงเทพฯ และคอยดูแลพ่อ แต่ก็อยู่กับท่านได้ไม่กี่วัน ท่านก็จากไปอย่างสงบ และหลังจากนั้นหายนะต่างๆ ก็ค่อยคืบคลานเข้ามาหาเธอ

แรกสุด คือค่ารักษาพยาบาลที่มียอดเงินสูงลิบชนิดที่เธอแทบลมจับ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เธอพอจะรับได้เพราะอย่างน้อย การรักษาก็ช่วยเยียวยาให้พอเธอมีชีวิตต่อลมหายใจมาได้นานพอสมควร และเธอเองก็สามารถทำเรื่องขอผ่อนผันค่าใช้จ่ายโดยแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ เดือนละสองครั้งได้ ซึ่งสิ่งนี้คงต้องยกความดีให้โรงพยาบาลที่มีนโยบายนี้ขึ้นมาแม้จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ตาม แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือ ช่วงก่อนที่เธอจะออกจากงานและพ่อก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น เธอได้โอนเงินเข้ามาให้ญาดาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อ แต่แม่นั่นดันเอาเงินไปถลุงในบ่อนจนหมด

สิ่งที่ตามมาหลังจากนี้คือ ปัญหาหนี้สินบานตะไทที่ทั้งเธอและพ่อไม่ได้เป็นคนก่อ หลังงานศพพ่อที่ญาดาไม่เคยแม้โผล่หน้าเหยียบเข้าไปในพิธี บรรดาชาวบ้านก็พากันมามะรุมมะตุ้มให้เธอชดใช้หนี้สินที่ญาดามาหยิบยืมไป จำนวนเงินนะหรือ...แทบไม่ต้องพูดถึง เจ้าหนี้รายหนึ่งๆ ก็ไม่ต่ำกว่าห้าพันถึงหนึ่งหมื่น และในช่วงเศรษฐกิจลุ่มๆ ดอนๆ แบบนี้จะมีใครบ้างยอมยกหนี้ให้

ความแสบสันต่อมาที่ญาดาทำไว้ นั่นก็คือ ข้าวของสมบัติเงินทองต่างๆ ของผู้เป็นพ่อที่เก็บไว้มันสูญหายไปจนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ทองรูปพรรณเอย เงินเก็บในธนาคารเอย ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแม่นั้นผลาญจนไม่เหลือซาก ที่น่าเจ็บใจกว่าและเธอมารู้หลังงานศพพ่อก็คือ ญาดาเอาเงินของพ่อไปเลี้ยงผู้ชายซึ่งก็คือเด็กหนุ่มที่อยู่ในหมู่บ้านนั่นแหละ...นี่ยังดีที่บ้านของพ่อ แม่นั่นไม่สามารถขายหรือเอาไปทำอะไรได้ เพราะพ่อได้จัดการโอนมันเป็นชื่อของเธอตั้งแต่เธอเรียนมหาวิทยาลัย

และล่าสุด ที่สร้างความเจ็บแค้นให้เธอเป็นเท่าทวี ก็คือการที่แม่นั่นไปกู้หนี้ยืมสินกับไอ้เสี่ยบ้าที่ไหนก็ไม่รู้แล้วเสนอเอาตัวเธอไปใช้หนี้แทน ดีที่เธอหาจังหวะหนีออกได้ด้วยการหลอกล่อว่าปวดท้องและต้องการเข้าห้องน้ำให้พวกมันหาปั๊มจอด และก็ถือว่าเธอยังพอมีดวงดีๆ คอยคุ้มอยู่บ้างเพราะในกระเป๋ากางเกงพอจะมีเงินติดอยู่เล็กน้อย แต่ก็มากพอที่จะทำให้เธอจ้างมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านแถวนั้นขับพาเธอมาให้พ้นจากรัศมีอันตรายหลังจากที่เธอใช้วิชาตีนแมวปืนออกจากหน้าต่างห้องน้ำให้ปั๊มและวิ่งฝ่าพงหญ้าหนีพวกมันมาได้สำเร็จ

และสุดท้ายเธอก็มาหาห้องเช่าเล็กๆ เพื่อเป็นที่หลบภัย...อย่างน้อยก็ในคืนนี้ ขอแค่ให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนก็พอ

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาสะดุ้งโหยงก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อเสียงของผู้มาเยือนดังขึ้น

“ชมพู...ฉันเอง”

เสียงที่คุ้นเคยทำให้ ‘พวงชมพู’ ยิ้มออกมาได้ หญิงสาวเดินไปเปิดประตูแล้วโผเข้ากอดหญิงสาวร่างเพรียวชะลูกสูงกว่าร้อยเจ็ดสิบทันที...ตั้งแต่ที่เธอมาถึงที่พักแห่งนี้ เธอได้ขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าของที่พักโทรหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคนนี้และบอกกับเจ้าของที่พักว่า เดี๋ยวเพื่อนของเธอจะมาหา และรอเพียงไม่นาน ‘มิถิลา’ เพื่อนที่สนิทกับเธอมาตั้งแต่เรียนมัธยมก็มาปรากฏตรงหน้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel