หนีสุดชีวิต!!
เมืองมี่ซิ่น
"เร็วเข้าพารัชทายาทหนีไป!!'' เกาหลิ่งเหวินกล่าว ในตอนนี้สถานการณ์ไม่ดีเอามากๆ พวกสัตว์อสูรเป้าหมายของมันชัดเจน พวกมันต้องการกำจัดรัชทายาทหลินเฟย!!
"พี่เกา!!…ถ้าหากไม่มีท่านข้าก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น!'' หลินเฟยกล่าว พร้อมกับขัดขืนการอุ้มของศิษย์ภายในของนิกายกระบี่เทพ ในตอนนี้มีเพียงศิษย์หลักเเละศิษย์ภายในที่ปกป้องหลินเฟยสุดชีวิต โดยมีเกาหลิ่งเหวินคอยจัดการอสูรตรงหน้า เเม้เกาหลิ่งเหวินจะอายุน้อยกว่าพวกศิษย์หลักเเต่เขาเก่งกว่ามาก ด้วยการฝึกจากศิษย์พี่ใหญ่เเละเจ้านิกายกระบี่เทพโดยตรง
"เจ้าอย่าดื้อได้หรือไม่!!…ข้าไม่ตาย!!..ข้ายังตายไม่ได้!!'' เกาหลิ่งเหวินตะโกนใส่หลินเฟย เพราะภารกิจที่เขารับจากอาจารย์ไป่ไว้ยังไม่ได้ทำให้สำเร็จ เขาไม่สามารถตายได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ศิษย์ทั้งห้าคนของอาจารย์ไป่เทียนหลงจะต้องอยู่พร้อมหน้ากันถึงตอนนั้น!
‘เมื่อไหร่พี่ใหญ่จะมากันนะ!?’ เกาหลิ่งเหวินร้อนรนมาก พวกเขาไม่สามารถรับมือกับพวกอสูรนี่เพียงเเค่พวกเขาได้ เพราะสำนักอื่นๆได้กระจายกันออกจากเมืองไปหมดเเล้ว พวกเขาไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับเทพอสูรถึงสองตนในคราเดียว
"ฮึก…โฮกกก!!'' สัตว์อสูรเสือร่างคล้ายมนุษย์ขนาดใหญ่จ้องมองไปทางเกาหลิ่งเหวินเเละคำรามออกมา พร้อมกับพวกอสูรทั้งหมดพากันกรูไปที่เกาหลิ่งเหวิน
"โถ่เว้ย!!'' เกาหลิ่งเหวินสบถออกมาพร้อมกับเรียกดาบดาวตกออกมาจากมิติเเล้วใช้มันในการต่อสู้กับอสูรเบื้องหน้าทันที
วึบ โครมมม
มีชายคนนึงปรากฏตัว ดาบของเขาได้กวาดล้างอสูรเบื้องหน้าไปจนเกือบหมด เขามายืนอยู่ตรงหน้าเกาหลิ่งเหวินเเละกำลังจ้องมองเเม่ทัพปีศาจที่สั่งการเมื่อครู่ มันกลัวชายคนนี้มาก
"ท่านพ่อ!?'' เกาหลิ่งเหวินมองดูพ่อของตนที่บาดเจ็บพอสมควร
วึบๆๆ ฟิ้วว โครมมม
เเละการมาของเทพอสูร มันมีปีกค้างคาวขนาดยักษ์ มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เเต่ตัวใหญ่กว่าสองเท่า พลังของมันน่ากลัวเป็นอย่างมาก เเละปรากฏอีกตัวเป็นแมงมุมขนาดตัวเท่าบ้านสองหลัง มันคือเทพอสูรตัวที่สอง เเละเป็นมันที่สามารถพังทลายกำเเพงเมืองด้วยทักษะของมัน พร้อมกับเจ้าค้างคาวนั้นที่บุกเข้ามาโดยที่พวกเราไม่ทันตั้งตัว
โฮกกกก
เทพอสูรปีกค้างคาวคำรามออกมา เสียงของมันดังเเสบเเก้วหูอย่างมาก ทุกคนพากันปิดหูกันด้วยความเจ็บปวด มีเพียงเกาเทียนเฉินที่ใช้ปราณออกมาเพื่อปกป้องบุคคลที่อยู่ข้างหลัง นั่นก็คือลูกชายของตน ศิษย์หลักเเละรัชทายาทหลินเฟย เเต่เเน่นอนว่าปราณของเขาไม่สามารถปกป้องได้หมด พวกเขายังพอรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง
"จงหนีไป'' เกาเทียนเฉินกล่าวเบาๆพร้อมกับกระชับดาบในมือจนแน่น
"เเต่ท่านพ่อ!!'' เกาหลิ่งเหวินรู้ว่าพ่อของตนจะทำอะไรจึงตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง
"เจ้ายังมีอนาคตอีกไกล…ศิษย์เซียนสวรรค์ลำดับที่หนึ่งจะคอยชี้นำเจ้าเอง''
"จงเชื่อมั่นเขา'' เกาเทียนเฉินกล่าวออกมาพร้อมกับพวกอสูรที่ล้อมรอบพวกเราเยอะมากๆ
"ท่านพ่อก็ต้องเชื่อมั่นเขา!…เขามาเเน่นอน!'' เกาหลิ่นเหวินกล่าวพร้อมทั้งน้ำตา
โฮกกกกก
เสียงคำรามอีกเสียงนึงปรากฏ ทั่วทั้งสมรภูมิไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรืออสูรต่างหันไปมองต้นเสียง พบว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่ม เเต่มือของเขา เเละร่างกายส่วนนึงของเขามีเกล็ดคล้ายกับมังกร เทพอสูรถึงกับสะดุ้งไปชั่วครู่ด้วยเสียงคำรามของเจ้าเด็กนั่น เเละมันมีท่าทางกลัวเจ้าเด็กนั้นด้วย เเต่เมื่อได้เห็นชัดๆมันก็เริ่มผ่อนคลายเเละทำตัวหยิ่งผยองเช่นเดิม
ฟึบๆๆๆ
"เจ้าคือใคร?'' เจ้านิกายกระบี่เทพกล่าวถาม เมื่อเด็กคนนั้นพุ่งลงมายืนฝ่ายเดียวกับพวกตน
"ข้ามีนามว่าจิ้งเหอ'' เขากล่าวออกมา ทำให้เกาเทียนเฉินนึกอะไรบางอย่าง
"ท่านพ่อ!…เขาคือคนที่พี่ใหญ่เเนะนำให้เป็นเเม่ทัพ!'' เกาหลิ่งเหวินกล่าวเมื่อเขาได้เห็นความหวังใหม่มา
"เจ้าไปเสียเถอะ…เจ้าไม่สามารถสู้กับพวกมันได้'' เกาเทียนเฉินกล่าวเมื่อสัมผัสได้ว่ากำลังภายในของจิ้งเหออยู่เพียงระดับผู้ครอบครองขั้น 4 เเต่ก็ต้องยอมรับว่าจิ้งเหอมีร่างกายที่ดีเเถมอาจจะมีอสูรมาสถิตอีกด้วยถึงสามารถใช้กรงเล็บมังกรได้ โดยที่เขายังไม่รู้ ว่าจิ้งเหอนี่เเหละคือร่างทรงเทพอสูรไฮดร้า
"ข้ามีหน้าที่เพียงเเค่ยื้อเวลา…ส่วนนายท่านกำลังมา'' จิ้งเหอกล่าว เขานั้นมีหยกเเละกำไลหยก หยกที่นายท่านของเขามอบให้คือหยกที่จะเชื่อมกับกำไลหยกของเกาหลิ่งเหวิน เผื่อว่านายท่านของเขานั้นมาไม่ทันจะให้เขาเป็นคนมาเเทน
คลื่นน!!
"ไป!!!'' เกาเทียนเฉินผลักจิ้งเหอเเละเกาหลิ่งเหวินออกไปจากบริเวณนี้พร้อมกับรับการโจมตีของแมงมุมด้วยดาบของเขา แมงมุมมันใช้ขาของมันเป็นอาวุธ ขาของมันทั้งหมดเเข็งเเกร่งเเละคมกริบ
"ช่างน่าขันยิ่งนัก!'' เทพอสูรแมงมุมกล่าวออกมา โดยที่มนุษย์พอจะฟังออก พร้อมกับใช้ขาอีกสองข้างของมันโจมตีเข้าข้างหลังเกาเทียนเฉิน เขาสามารถรับขานึงได้แต่อีกขานึงไม่สามารถรับไว้ได้ทันทำให้เขาต้องถูกโจมตีบริเวณหลังลากขึ้นไปถึงไหล่เเละปลิวไป
"ท่านรีบไป!!'' จิ้งเหอกล่าวเมื่อแมงมุมมันจะเข้ามาใกล้พวกตน เป้าหมายของมันคือรัชทายาทหลินเฟยเช่นกัน
ฟึบ
"อย่าขวางทาง!'' มันกล่าวพร้อมกับปัดร่างของจิ้งเหอไปอย่างรวดเร็วด้วยขาของมัน
"เเก!!'' เมื่อจิ้งเหอพุ่งกลับมาใหม่ มันไม่ลังเลที่จะใช้ขาของมันเเทงทะลุบริเวณเอวของจิ้งเหอ
กึด ฟึบๆ
จิ้งเหอได้ใช้เกล็ดมังกรอันเเข็งเเกร่งในการป้องกันตนเอง เขาเชี่ยวชาญในการใช้เกล็ดมังกรพอสมควร ทั้งยังมีกายระดับเพชรอีกด้วย ทำให้ขาของมันไม่สามารถทำอันตรายกับจิ้งเหอได้ ส่วนเกาเทียนเฉินเขากำลังรับมือกับเทพอสูรปีกค้างคาวด้วยตัวคนเดียว ในอดีตเทพอสูรหนึ่งตนสามารถรับมือกับผู้ฝึกตนระดับ เทพยุทธได้ถึงสองคนเเละระดับล่างๆอีกมากมาย เเต่ในตอนนี้เกาเทียนเฉินเทพยุทธคนเดียวกำลังสู้อยู่กับเทพอสูร ขณะที่ตนเองบาดเจ็บมาเเล้วพอสมควร
‘เขาสามารถรับมือกับเทพอสูรได้เลยงั้นหรือ?’ เกาหลิ่งเหวินสับสนมากที่จิ้งเหอสามารถสู้กับเทพอสูรเเมงมุมได้ ถึงเเม้จะไม่ได้ตอบโต้เอาเเต่หลบเเละรับการโจมตีก็เถอะ เเต่นั่นมันก็เกินพอเเล้วสำหรับคนที่มีระดับบ่มเพาะเพียงเเค่ผู้ครอบครอง
"ผู้บัญชาการปีศาจ!!!!'' เเละเมื่อเกาหลิ่งเหวินสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร เขาก็หันไปในทางนั้นทันที ปรากฏไอตัวสั่งการกองทัพเมื่อครู่มันดักข้างหน้าเหล่าศิษย์หลักที่กำลังคุ้มกันหลินเฟยอยู่ เกาหลิ่งเหวินจึงพุ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต
"เจ้าอาจจะทนการโจมตีของข้าได้มนุษย์…เเต่เจ้าจะทนพิษของข้าได้งั้นหรือ!'' แมงมุมมันกล่าวออกมาพร้อมกับปลายขาของมันที่มีพิษสีเขียวเข้มเเละเเทงไปบริเวณเอวของจิ้งเหออีกครั้ง ในครั้งนี้จิ้งเห้อทรุดลงกับพื้นทันที
ฉึก
“แย่เเล้ว!…ไม่นะท่านพ่อ!!" เกาหลิ่งเหวินเมื่อกลับไปดูข้างหลังตามเสียง ปรากฏจิ้งเหอที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น พร้อมกับพ่อของตนที่ถูกเทพอสูรปีกค้างขาวใช้กรงเล็บอันยาวเฟื้อยของมันเเทงทะลุอกพ่อของตน
"หายนะ…หายนะเเน่ๆ!!'' เหล่าศิษย์พากันขวัญกระเจิงไปหมด เมื่อท่านเจ้านิกายอยู่ในสภาพนั้น ก่อนหน้านี้พวกมันก็ฆ่ารองนิกายไปเเล้วคนนึง อีกคนนึงบาดเจ็บสาหัสด้วยพิษของแมงมุม ในตอนนี้เจ้านิกายกระบี่เทพก็โดนแทงทะลุหัวใจไปอีก
"ท่านเกาเทียนเฉิน!!!!!!!'' เสียงตะโกนดังลั่นลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาที่อยู่บนพื้นดินต่างมองขั้นไปปรากฏฟินิกซ์เพลิงในตำนานกำลังบินอยู่ เเละมีมนุษย์สองคนอยู่บนหลังของฟินิกซ์
"ท่านพ่อ!!!!!!!'' เกาหลิ่งเหวินเสียสติไปหมด เขาทรุดลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นสายน้ำ กำหมัดไว้เเน่นจนมีเลือดไหลออกมา เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ เช่นนั้นเเล้วเขาก็ต้องยื้อเวลาให้รัชทายาทหนีไปให้ได้
"ใช้เลือดจากหัวใจฟินิกซ์จะทำให้เขาฟื้น!!'' หลินจินเหม่ยกล่าวถึงเกาเทียนเฉินที่กำลังจะสิ้นใจ
ฉึก แจ๊บๆๆ
"ไม่!!!!!'' เกาหลิ่งเหวินร้องออกมาดังลั่นอีกครั้งเมื่อเทพอสูรค้างคาวดึงมือของมันออกจากอกของเกาเทียนเฉิน ซึ่งในมือของมันมีหัวใจของเกาเทียนเฉินด้วย ร่างของเกาเทียนเฉินกระตุกเเละนิ่งลงไม่ขยับอีกต่อไป ซึ่งมันก็ได้กินหัวใจของเกาเทียนเฉินเเละกลืนลงไปด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ข้าที่ได้ฟังความหวังจากฟินิกซ์เมื่อครู่ในตอนนี้กลับไม่มีความหวังนั่นเเล้ว
"เกาหลิ่งเหวิน!'' เมื่อข้าได้เห็นเกาหลิ่งเหวินที่ไม่มีสติกำลังจะโดนเทพอสูรแมงมุมทำร้ายจึงกระโดดลงไปจากบนหลังของฟินิกซ์ทันที
"มันกล้าจะทำอะไรสายเลือดข้า?'' หลินจินเหม่ยกล่าวก่อนจะสะบัดปีกของมันปรากฏเปลวเพลิงที่พุ่งไปยังเเม่ทัพปีศาจ เปลวเพลิงนั้นเผาร่างของเเม่ทัพปีศาจไปอย่างง่ายดาย ต่อให้มันจะอยู่ในระดับภัยพิบัติก็ตาม มันก็ยังคงห่างชั้นกับฟินิกซ์ในตำนานอยู่ดี
"กินซะ!!'' ข้าได้ปาขวดยาต้านพิษไปให้จิ้งเหอจากบนฟ้าเเละยังคงพุ่งไปยังเทพอสูรแมงมุม
ฟึบ เเกร๊กก
ขาอันเเหลมคมของแมงมุมกำลังจะถึงตัวเกาหลิ่งเหวินที่ไม่มีสติ ซึ่งข้าก็ได้ไปขวางไว้ทันเเละหักขาของมันจนบิดเบี้ยว ขาอันเเข็งเเกร่งเเละทรงพลังโดนข้าทำหัก มันถึงกับต้องถอยไปตั้งหลักด้วยความกลัว เมื่อครู่มันประมาทข้าคิดว่าข้าไม่สามารถรับการโจมตีได้ มันจึงปล่อยให้ขาของมันเเทงทะลุข้า
"ศิษย์เซียนสวรรค์ลำดับที่หนึ่ง!?''
"พี่ใหญ่!!'' เหล่าศิษย์หลักยินดีมากที่ข้าปรากฏตัว รวมถึงหลินเฟย หลินเฟยร้องไห้ไปด้วยที่เกาเทียนเฉินตาย เพราะเกาเทียนเฉินเองก็เปรียบเสมือนกับลุงของเขา
“จงตื่น!!!…ตื่นเดี๋ยวนี้!!” ข้าเขย่าตัวเกาหลิ่งเหวินด้วยความเเรงเพื่อเรียกสติเขา เเละมันเกือบจะสำเร็จจนแมงมุมจะบุกเข้ามาใหม่เมื่อข้าเผลอ
ฟึบๆ ฟูมม
เเต่ก็ต้องโดนไฟของฟินิกซ์เผาไปซะก่อน ซึ่งมันก็ใช้พิษของมันในการดับไฟ เเละถอยกลับไปหาเทพอสูรค้างคาวในทันที หลินเฟยเฟิ่งได้บินร่อนลงมาจากบนฟ้า มาหาน้องชายของตนเเละช่วยกำจัดอสูรรอบๆ
"หลินเฟยเฟิ่ง!'' ข้าเรียกศิษย์น้องของข้าให้มาดอูอาการเกาหลิ่งเหวินเเละช่วยปลุกเขา ส่วนข้าจะไปเผชิญหน้ากับเทพอสูร มันทั้งคู่กำลังลังเล เมื่อฟินิกซ์ปรากฏ เเน่นอนว่าไอ้ค้างคาวตัวใหญ่นั่นเมื่อเทียบกับฟินิกซ์เเล้วมันเล็กไปมากๆ อีกทั้งมันยังคงกลัวเกรงฟินิกซ์พอสมควร
ฟึบๆๆๆ
เเละเมื่อพวกมันหันมามองหน้ากันพวกมันก็ตกลงถอยกลับ เพราะถ้าหากอยู่ต่อพวกมนุษย์อาจจะมีทัพมาเสริม เเต่จะมีเหรอที่หลี่เล่อป๋อจะปล่อยไปง่ายๆ พวกมันเพิ่งจะฆ่าพ่อของศิษย์น้องเขาไป ครอบครัวของศิษย์น้องข้าก็เหมือนครอบครัวของข้า! พวกมันต้องชดใช้!!
"เจ้าจะไปไหน!!??'' ข้าได้จับกระบี่ทมิฬของข้าไว้เเน่นเเละวาดออกไปหวังจะโจมตีเทพอสูรค้างคาวให้มันบาดเจ็บ ซึ่งมันก็คิดจะใช้กรงเล็บของมันรับมือข้า เเต่ในเสี้ยววินาทีนั้นข้าได้เปลี่ยนทิศทางกระบี่เล็กน้อย ฉีกไปขวาเเละตวัดมาซ้าย ทำให้กระบี่ทมิฬของข้าโจมตีมันสำเร็จ ถ้าหากมันมีคม ข้าคงจะตัดเเขนมันได้ เเต่ในเมื่อมันไม่มีคม เเขนมันจึงหักจนผิดรูป
“โฮกกกกก!!”' มันคำรามออกมาด้วยความเจ็บ เสียงของมันเเสบเเก้วหูเป็นอย่างมาก ฟินิกซ์ได้หย่อนไฟของนางลงไปในปากของมัน ราวกับนางกำลังรอเวลานี้อยู่ ไฟของนางได้ไปทำลายระบบหลายๆอย่างในร่างกายของมัน เเต่มันก็ยังไม่ตาย มันได้ดื่มเลือดที่มันเก็บเอาไว้ในถุงน้ำของมันจนหมด เลือดพวกนั้นสามารถรักษาบาดแผลในร่างของมันและนอกร่างได้พอสมควร เเต่ไม่สามารถรักษากระดูกที่หักจนผิดรูปได้ ซึ่งไฟของฟินิกซ์ก็ยังไม่หมดเเค่นั้น มันยังคงเผาอยู่อย่างต่อเนื่องจนเทพอสูรแมงมุมต้องเข้ามาช่วย
ฟึบ เเกร๊กกก
ในครานี้เมื่อเทพอสูรแมงมุมมันไม่เข็ดข้าได้ใช้กระบี่ของข้าเเละออกเเรงไปเต็มที่เพื่อหักขาของมันถึงสามข้า ข้าสามารถหักไปได้ถึงสองขา ส่วนอีกขานึงของมันพยายามจะโตมตีข้างหลังข้าเเต่ข้าหลบทัน พวกมันถึงกับต้องรีบถอยกันสุดชีวิตส่วนฟินิกซ์ก็พยายามต้อนพวกมันให้อยู่หมัด จากที่ข้าคิด พวกมันยังคงไม่สามารถหาวิธีเเก้ทางข้าได้ เพราะกายของข้าเเข็งเเกร่งเกินไป ประสาทสัมผัสของข้าก็ไวมากๆ อีกทั้งวิชาดาบของข้าก็อยากที่จะทำลาย รวมถึงที่มันสามารถจัดการผู้ฝึกตนระดับเทพยุทธได้สบายๆเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ฝึกกายเช่นข้า กายจึงเป็นจุดอ่อนของพวกเขา
‘เหตุใดพวกมันไวกันถึงเพียงนี้!’ ข้าคิดในใจเมื่อข้าไม่สามารถตามพวกมันได้ทัน ถึงเเม้เเมงมุมมันจะถูกข้าหักไปถึงสามข้าเเล้วก็ตาม ค้างคาวเวรนั่นก็บาดเจ็บ อยู่ๆก็มีมิติปรากฏถึงสองมิติ เเละมีวิญญาณสีม่วงออกมาต้อนรับทั้งสองเทพอสูร
"ผ่ามิติ!!!'' ข้าได้ใช้ทักษะของเฮียเทพเเละวาดดาบลงจากฟ้าด้วยความไวที่เหนือขีดจำกัด ปรากฏรอยเเยกมิติในทางที่ข้าวาดดาบ พยายามจะเเยกมิติของมัน เมื่อร่างวิญญาณม่วงเห็นท่าไม่ดีจึงสร้างอีกมิตินึงเพื่อหยุดการโจมตีของข้า ซึ่งมันก็ทำสำเร็จ การโจมตีของข้าไปไม่ถึงพวกมัน บริเวณที่ข้าโจมตีไปเมื่อครู่เละเทะมาก รอยลึกขนาดมหึมา ที่ใครเห็นก็ต่างขนลุก ในใจข้าโกรธเเค้นอยากจะบุกเข้าไปในรังของพวกมันให้รู้เเล้วรู้รอดไป เเต่ข้าเองก็ยังต้องกลัวเกรงจอมมารอยู่เช่นกัน เพราะถ้าหากเปรียบเเล้ว จอมมารนั้นเเข็งเเกร่งกว่าเทพอสูรถึงสามเท่า!
ครึด โครมมม
ข้าได้ปักกระบี่ทมิฬลงบนพื้นด้วยความโมโห ทำให้รอบกระบี่ที่ข้าปักลงไป พื้นดินพื้นหินเเตกคล้ายเป็นรูปใยแมงมุม เเละกลายเป็นหลุมลึกพอสมควร ก่อนจะถอนหายใจยาวด้วยความโกรธเเละเก็บกระบี่ทมิฬเข้าฟักเมื่อข้าควบคุมอารมณ์โกรธได้
