ข้า...หลี่เล่อป๋อ
"ข้าขอโทษ'' คำเเรกที่ข้ากล่าวหลังจากที่เกาหลิ่งเหวินได้สติ เเต่เขาก็ยังไม่ขยับไปไหน ยังคงนั่งคุกเข่านิ่งๆอยู่ตรงหน้าศพของพ่อตนเอง
‘ถ้าหากเหวินเจี้ยนอยู่ที่นี่!!!!’ ในใจข้าได้เเต่คิดเรื่องที่ข้าทำพลาด ที่จริงเเล้วเจ้านิกายเกาเทียนเฉินก็ตายจริงๆ เเต่สงครามนั้นนานนับวันเพราะมีพวกทหารของเหวินเจี้ยนอยู่ด้วย เเละทำให้สำนักเเละนิกายต่างๆเข้าร่วมเพราะเห็นว่ามีหนึ่งในเเม่ทัพอยู่ มันสามารถยื้อเวลาให้ข้ามาทัน เเต่ข้ากลับส่งเขาไปยังเมืองเฟยเทียน เพราะข้าคิดว่าฮ่องเต้จะสั่งให้หมัดเพลิงมาที่นี่ เพราะหมัดเพิ่งนั้นจะสามารถต้านอสูรทั้งสองได้พอสมควร เนื่องจากธาตุเพลิงของเขาจะอยู่ในระดับไร้เทียมทาน
เเต่ข้ากลับไม่คิดว่าฮ่องเต้จะส่งหมัดเพลิงไปที่เมืองเฟยเทียน หรือว่าในตอนนั้นสถานการณ์ที่เฟยเทียนจะหนักหนาสาหัสพอสมควร? ก็อาจจะเป็นไปได้ ข้าพยายามที่จะลดโทษตนเองลง เเต่เมื่อได้เห็นสภาพศิษย์น้องที่กำลังนิ่งไม่พูดอะไรออกมาต่อหน้าศพพ่อของตนเอง ข้าก็ต้องกลับมาโทษตัวเองอีกครั้ง มันไม่ใช่ครั้งเเรกที่ข้าประมาณเวลาผิด เเต่เป็นครั้งเเรกที่ข้าประมาณเวลาผิดเเล้วมีคนตายจริงๆ เสียชีวิตจริงๆ ความรู้สึกในครั้งนี้มันจะตอกย้ำข้าไปตลอดชีวิต
ฟุบๆ
"มือปราบมาร…เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้?'' ข้ากล่าวออกไปทำให้ทุกคนพากันมองหาคนที่ข้าพูดด้วย ส่วนฟินิกซ์ในตอนนี้นางกำลังบินไปบินมาบริเวณนี้อยู่ก่อนจะร่อนลงมาเเต่ไม่กลายร่างเป็นมนุษย์
"ก็ได้…หากพวกเจ้าอยากจะรู้นักว่าข้าคือใคร'' ข้ากล่าวก่อนจะค่อยถอดหน้ากากโพธิ์ดำออก ทุกคนล้วนลุ้นไปกับการกระทำของข้า อยากจะเห็นหน้าตาข้ายกเว้นเหล่าศิษย์น้อง
"ข้า…หลี่เล่อป๋อ''
"จงกลับไปบอกขุนนางสวรรค์และผู้อำนวยการมือปราบมารที่สั่งเจ้ามาซะ''
"ไม่ต้องมาสอดเเนมข้าอีก…พวกเจ้ารอรับความโกรธจากข้าได้เลย'' ข้ากล่าวออกมา ซึ่งหลินเฟยเฟิ่งก็ได้พบกับคนที่ข้ากล่าวด้วย เเต่นางก็ปล่อยให้เขาหนีไปตามความต้องการของข้า มันตกใจมากที่เห็นข้า ข้าที่ไม่ใช่เล่อปิงเเต่เป็นเล่อป๋อที่ถูกกล่าวกันว่าตายไปเเล้ว เล่อป๋อที่มีพรสวรรค์เยอะกว่าสายเลือดฮ่องเต้สวรรค์ เเละสามารถสั่นคลอนตำเเหน่งพวกมันได้
"กลับไปปกป้องตระกูลข้า'' ข้ากล่าวกับจิ้งเหอ ซึ่งเขาก็พุ่งตามชายชุดดำนั่นไปทันที ในตอนนี้จิ้งเหอยังไม่สามารถรับตำแหน่งเเม่ทัพได้ เขายังไม่พร้อม ข้าเองก็เช่นกัน รอข้าจัดการโลกเบื้องล่างให้เข้าที่เข้าทางก่อน
"พี่ใหญ่…'' หลินเฟยเฟิ่งเดินมาหาข้าเมื่อข้าเริ่มเย็นชาเเละมีจิตสังหารออกมามากมายจนศิษย์หลักนิกายกระบี่เทพเเละคนอื่นๆพากันสั่นกลัวไปหมด
"วันพรุ่งนี้ข้าจะกลับเผ่าเซียน''
"เเล้วข้าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งเมื่อจัดการธุระที่นั่นเสร็จ'' ข้ากล่าวก่อนจะเดินเข้าไปปลอบเกาหลิ่งเหวิน เกาหลิ่งเหวินนั้นเป็นบุตรคนเดียวของเกาเทียนเฉิน เเม่ของเขาตายเพราอสูร เกาเทียนเฉินที่ไม่สามารถปกป้องคนรักของตนได้ จึงฝึกหนักกว่าเดิมเสียอีก เเต่ก็ยังต้องมาพ่ายเเพ้ให้กับเทพอสูรอยู่ดี
ฟุบๆๆๆๆ
"พี่ใหญ่….'' เกาหลิ่งเหวินทุบพื้นด้วยความโกรธเเค้น ก่อนจะหันมามองข้า เขาไม่ได้โทษข้า เขาเองก็น่าจะรู้ว่าข้าพยายามมาให้เร็วที่สุดเเล้ว มันผิดที่เขาเองที่ไม่เเข็งเเกร่งพอที่จะช่วยท่านพ่อได้ หรือยื้อเวลาเอาไว้ได้ สีหน้าของเขาบอกว่าต้องการเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างชัดเจน
"ฝึกข้า!!!…โปรดฝึกข้า!!!!'' เขาตะโกนออกมาด้วยความเเค้น จิตสังหารของเกาหลิ่งเหวินไม่ใช่เล่นๆ ในตอนนี้ถ้าใครยั่วโมโหเขา ได้ตายจริงๆเเน่ เกาหลิ่งเหวินที่ร่าเริง กวนประสาทเขาไปทั่ว ตอนนี้มันไม่ใช่ เเละน่าจะไม่ใช่อีกต่อไป ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูดุร้ายมาก หลินเฟยเริ่มกลัวเกาหลิ่งเหวินเเละวิ่งไปหลบหลังพี่สาวของตน หลินเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาเช่นกัน เพราะเกาเทียนเฉินก็เปรียบเสมือนลุงของเธอ สองตระกูลนี้เจอกันบ่อยเพราะมีพ่อที่สนิทกัน เป็นเพื่อนกัน
“ฮึกฮือออ!!!'' น้ำตาเกาหลิ่งเหวินได้ไหลออกมาอีกครั้งเเละกอดข้า ข้าก็พยายามปลอบเขาให้ดีที่สุด เพราะครอบครัวของเขาในตอนนี้มันไม่เหลือเเล้ว ป้าๆลุงๆในนิกายก็ได้เสียชีวิตไปจนหมด
วันถัดไป
"ข้าจะรีบกลับมา…'' ข้ากล่าวด้วยสีหน้าเศร้า เกาหลิ่งเหวินเเละหลินเฟยเฟิ่งมาส่งข้า สีหน้าของพวกเขาก็คล้ายข้าเช่นกัน นี่คือความเสียหายที่รองมาจากมหาสงครามครั้งนั้น ผู้อาวุโส รองเจ้านิกายเเละเจ้านิกายกระบี่เทพอันเเข็งเเกร่งตายไปเกือบหมด ศิษย์นิกายกระบี่เทพเริ่มออกจากสำนักไปทีละคนสองคน เหลือเพียงศิษย์ภายในเเละศิษย์หลักที่ยังคงอยู่ต่อ พวกเขานั้นสาบานกันว่าจะช่วยกันฟื้นฟูนิกายให้กลับมาเเข็งเเกร่งเช่นเดิมต่อหน้าหลุมศพของเจ้านิกายกระบี่เทพ
"ท่านพี่ไม่ต้องห่วงที่นี่…ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนศิษย์น้องจนกว่าท่านจะกลับมา'' หลินเฟยเฟิ่งกล่าว ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะทิ้งพวกเขาไปในช่วงเวลาแบบนี้ เเต่ครอบครัวของข้าอาจจะเป็นอันตราย ข้าจะต้องไปจัดการเรื่องในโลกเซียนให้จบซะก่อน จากตอนเเรกที่ข้าไม่มีความเเค้นกับพวกอสูร ในตอนนี้ข้ากลับเเค้นมันมากมาย จากตอนเเรกที่ข้าคิดจะปิดบังตนเองไปอีกสักพัก ในตอนนี้ข้าต้องการจะเปิดเผยตัวตนเเละจัดการทุกอย่างให้มันจบๆไป ข้าไม่อยากจะเป็นตัวตนที่เด็ดขาดเช่นเดิม เเต่พวกเจ้าบังคับข้าเอง ก็ได้ ข้าจัดให้
โลกแห่งเซียน
"ตาย'' ข้ากล่าวจบกระบี่ของข้าก็ตัดหัวพวกมันไปจนหมด พวกมันมาดักรอข้าหน้าทางเข้าโลกเเห่งเซียน หวังจะจัดการข้าให้ได้ กระบี่ที่ข้าใช้มันไม่ใช่กระบี่ทมิฬที่ไม่ได้หวังจะฆ่าคนอีกต่อไป มันคือกระบี่ธรรมดาๆที่มีความคมเหมือนกระบี่เล่มอื่น เลือดได้ชะโลมไปทั่วกระบี่ที่ข้าถือ สายตาของข้าไม่ได้จ้องมองพวกมัน สายตาของข้ามองตรงไปอย่างเดียว ไม่สนใจร่างไร้วิญญาณที่นอนกันเกลื่อนกลาด
"ถ้าอยากตายก็เข้ามาให้หมด'' ข้ากล่าวเมื่อมีทั้งจอมยุทธ นักพรต เเละนักฆ่ามากมายขวางทางข้า หวังจะปิดชีวิตข้าเพื่อเอาค่าหัวของข้าไป พวกมันไม่ลังเลที่จะฆ่าข้า ข้าก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าพวกมันเช่นกัน
บ้านตระกูลหลี่
"ใครก็ได้มาช่วยกันฆ่าไอ้เกล็ดมังกรนี่ที!'' พวกมันตะโกนออกมาเมื่อไม่มีใครสามารถฆ่าจิ้งเหอได้ วิ่งเข้าไปตายกันทีละคนสองคน ปัจจุบันโลกเเห่งเซียนปั่นป่วนกันไปหมด ผู้คนพากันหันคมดาบเข้าสู่ตระกูลหลี่ ด้วยค่าหัวเเละคำสัญญาของเหล่าเซียนว่าจะประทานพรให้
"อดทนไว้!!'' หลี่หงซวนกล่าวกับจิ้งเหอและจะเข้าไปช่วย เเม้พวกมันจะพยายามฆ่าล่างตระกูลหลี่ เเต่คนตระกูลหลี่เองก็ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ ทั้งยังมีผู้คนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลหลี่ช่วยมาขัดขวาง เเละมีคนของเหล่าเซียนสวรรค์ที่สนับสนุนหลี่เล่อป๋อมาช่วยอีกด้วย เเต่ส่วนใหญ่เเล้วมีเพียงจิ้งเหอที่กำลังรับศึกทุกด้าน เพราะเมื่อพวกมันได้ยินว่าร่างทรงเทพอสูรอย่างจิ้งเหอยังมีชีวิตอยู่ พวกมันจึงให้ค่าหัวจิ้งเหอเกินครึ่งค่าหัวของข้า
คลื่นนนนน
"พวกเจ้าทำอันใดกันอยู่!!'' ข้าตะโกนออกไปดังลั่นเมื่อได้เห็นภาพที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ผู้คนมากมายกำลังรุมล้อมบ้านตระกูลหลี่ ข้าจึงปล่อยเเรงกดดันระดับมหาตำนานออกไปโดยไม่ต้องควบคุมเเรงกดดันอีก คราวนี้จะใครก็สัมผัสได้ถึงมัน เซียนสวรรค์ที่มีจิตสัมผัสที่รุนแรงอยู่เเล้วก็สัมผัสเเรงกดดันมหาศาลนี้ได้เช่นกัน เหล่าคนที่กำลังรุมล้อมต่างฟุบลงไปบนพื้น เหลือเพียงสมาชิกตระกูลหลี่เเละจิ้งเหอที่ข้าไม่ได้ส่งจิตไปถึงทั้งคู่ ส่วนคนอื่นไม่ว่าคนที่ช่วยเหลือหรือมารุ่มฆ่าต่างสลบกันไปหมด เพราะข้าไม่รู้ว่าใครมาช่วยบ้าง
"เล่อป๋อ''
"เล่อป๋อ!?'' พ่อเเม่ ท่านน้าท่านอาเเละท่านปู่เมื่อเห็นข้าก็สบายใจทันที
"เล่อปิง…ถ้าข้ามาช้ากว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น?'' ข้ากล่าวเมื่อสัมผัสได้ว่านางกำลังดูอยู่ เเละดูข้าอยู่ตลอดทางที่ข้ามาเช่นกัน
"เจ้าจะใจเย็นเกินไปเเล้ว'' ข้ากล่าวเมื่อนางยังคงดูอยู่ ข้าไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรนางถึงไม่พูดอะไรเลยตั้งเเต่ที่นางมาดูข้าเมื่อข้าเข้าโลกเซียนมาจนถึงตอนนี้
"ข้าจัดการทุกอย่างเอง'' ข้ากล่าวเมื่อนางยังคงเงียบ ก่อนที่ครอบครัวจะเดินมาหาข้าด้วยความเหนื่อย
"ไม่ได้ออกเเรงเช่นนี้นานเเล้ว'' ท่านปู่กล่าวเเล้วพยายามยิ้มออกมาให้ข้าสบายใจ ทั้งๆที่การหายใจของท่านยังคงบ่งบอกว่าเหนื่อยมากๆ
"ท่านพี่…ฮือ'' เด็กทั้งสองที่เพิ่งเริ่มโตได้ไม่นานต่างร้องออกมา พวกเขายังไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ ซินเหมยเเละซินหยางวิ่งมากอดข้าในทันทีเมื่อออกมาจากห้องลับ ในตอนนี้บ้านของตระกูลข้าเเละตระกูลของท่านน้าท่านอาต่างพังเละเทะไปหมดด้วยการต่อสู้เมื่อครู่
"จิ้งเหอ…เจ้าทำดีมาก'' ข้ากล่าวจบเขาก็คารวะให้ข้า
"ตามข้ามา'' ข้ากล่าวกับเขาอีกครั้ง ซึ่งเเน่นอนว่าเขาเองก็พอจะรู้ว่าข้าจะไปไหน ก่อนข้าจะไปข้าได้มอบยาฟื้นกำลังเเละยารักษาให้กับท่านปู่ เเละขอลาไปทำธุระบางอย่าง ซึ่งทุกคนเองก็รู้ว่าข้าจะไปทำอะไร
"หลี่เล่อป๋อ…''
"คุณชายหลี่เล่อป๋อ'' ทุกคนในเมืองต่างเรียกชื่อข้า ข้าคือคนที่เป็นที่รู้จักเมื่อนานมาเเล้ว ด้วยพรสวรรค์เก้าสิบแปดดวงของข้า ที่สามารถคุกคามตำเเหน่งฮ่องเต้เซียนสวรรค์ได้ทุกเมื่อ
"เขาคือคุณหนูหลี่เล่อปิงมาตลอด?''
"เเล้วคุณหนูหลี่เล่อปิงไปไหน?'' เเละก็มีความคิดพวกนี้เกิดขึ้น เเสดงว่าทุกคนพอจะรู้เรื่องของข้ากันอยู่เเล้ว ด้วยพวกขุนนางสววรค์ที่มากล่าวเรื่องข้าก่อนจะเข้าทำลายตระกูลหลี่ เเต่พวกมันก็ทำไม่สำเร็จนี่สิ
ณ เมืองหลิ่งซาน
"จิ่นสือ'' ข้ากล่าวเมื่อเขามารอต้อนรับข้าที่ทางเข้าเมืองหลิ่งซาน
"เมื่อข้าได้ยินว่าท่านปรากฏตัว…ข้าก็มาในทันที''
"ข้าพร้อมเเล้วนายท่าน'' เขากล่าวออกมาหลังจากทั่วโลกเซียนได้รับรู้ว่าเเท้จริงเเล้วเล่อปิงคือเล่อป๋อตลอดมา ส่วนเล่อปิงนั้นยังไม่มีใครรู้เรื่องของนาง เลยเริ่มพูดกันว่าอาจจะเป็นนางที่ได้เสียชีวิตไปในป่า ไม่ใช่เล่อป๋อ
"ข้าได้ยินว่าเจ้าไปหาหลิงถิงเเล้ว''
"เป็นเช่นไรบ้าง?'' ข้ากล่าวถามเขาพลางเดินไปสำนักเขาเขียว เมื่อข้าสัมผัสได้ว่ามีคนเเตะต้องหน้ากากโพธิ์ดำ เเละเหมือนจะเป็นคนที่มีความสามารถพอสมควรถึงทำลายหน้ากากโพธิ์ดำนั้นไปได้
"ขะ…ข้ากับนาง…''
"ช่างเถอะ…เอาเรื่องตรงหน้าก่อน'' ข้ากล่าวเมื่อได้เห็นท่าทางเขินอายของเขา น่าจะเป็นเรื่องดีที่เขามีท่าทางเช่นนี้ข้าจึง
“แม่นางหลิวหลิงถิง…มันถึงเวลาเเล้ว”
"ข้ามารับเเม่นางไปยังเมืองเฟยฉี'' ชายรูปร่างกำยำกล่าว ทั้งเขายังมีรถม้าสวรรค์ที่สามารถเหาะขึ้นไปยังเมืองลอยฟ้าอย่างเมืองเฟยฉีได้ โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบส่งตัวไปยังเมืองลอยฟ้า
"อึก…'' เเม้เเต่เจ้าสำนักเขาเขียวก็ยังสู้เขาคนนี้ไม่ได้ เเละเขาคนนี้เพิ่งจะทำให้เจ้าสำนักเขาเขียวบาดเจ็บมาเมื่อครู่
"เอาข้าไปเเทนไหม…'' เมื่อข้ากล่าวจบมันก็หันมามองข้า
ป๊าป ตุบ ตู้มม
ข้าได้ตบหัวมันร่วงลงพื้นหินจนร่างมันลงไปทั้งร่างตามเเรงของข้า มันได้ตายไปด้วยมือข้างเดียวของข้า มันร่างกำยำเเล้วเช่นไร ถ้าหากข้าใช้กำลังกายของข้าที่หวังจะฆ่ามันจริงๆมันก็ต้องตาย
"ท่านพี่เล่อป๋อ!?'' หลิวหลิงถิงดีใจมากที่ข้าปรากฏตัวเเละวิ่งมากอดข้า เเละจัดการสถานการณ์ตรงหน้าให้อย่างง่ายดาย เหล่าศิษย์ ผู้อาวุโส เเละเจ้าสำนักเขาเขียวเมื่อได้เห็นการปรากฏตัวของข้าพวกเขาถึงกับคุกเข่าคำนับให้ข้า
"ศิษย์เซียนสวรรค์!'' พวกเขากล่าวออกมา ข้าได้พิสูจน์ตนเองเเล้วว่าข้าเเข็งเเกร่งสมที่จะถูกเรียกว่าศิษย์เซียนสวรรค์จริงๆ
"รอก่อน…ข้าต้องไปจัดการธุระ'' ข้ากล่าวก่อนจะผละออกมาจากหลิงถิงเเละสั่งให้จิ้งเหอจัดการรถม้าสวรรค์ การไปครั้งนี้มีเพียงสามหนุ่ม ข้าหลี่เล่อป๋อ จิ้งเหอข้ารับใช้ของข้า เเละจิ่นสือผู้ร่วมฟื้นคืนนิกายเหนือโลก
