สุสานมังกร
“เช่นนั้นเเล้ว”
"คารวะอาจารย์!'' จิ้งเหอคุกเข่าคำนับข้ายอมรับเป็นอาจารย์ของตน
“ไม่…เจ้ามีความสามารถมากกว่านั้น”
"มาทำงานข้างๆข้าดีกว่า…ข้าคิดว่าเป้าหมายของเจ้าก็เหมือนของข้า'' ข้ากล่าวก่อนจะมองขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งเขาเองก็มองขึ้นไปเช่นกัน ข้ารู่ว่าเขาก็เเค้นเคืองพวกที่อยู่บนฟ้า ที่มาสั่งเก็บเขาเพราะมีพรสวรรค์มากกว่าฮ่องเต้สวรรค์ เขาเองก็น่าจะรู้ว่าข้าเองก็เเค้นเช่นกัน มิฉะนั้นข้าคงไม่เปิดเผยตัวตนเเละช่วยเขามาจากเจ้าพวกนั้นหรอก เพราะข้าก็เคยผ่านเหตุการณ์ตรงนี้มาเเล้ว
"ข้าสาบานข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง!…เเม้กระทั่งท่านจะสั่งให้ข้าไปตายก็ตาม!''
"เพราะถ้าหากท่านไม่ช่วยข้าข้าก็คงตายไปเเล้ว!'' เขาตะโกนออกมาดังลั่นทั้งยังที่คำนับให้กับข้าอยู่
“ข้าไม่สั่งเจ้าไปทำอะไรโง่ๆแบบนั้นหรอก…ก่อนอื่นเลย”
"เจ้าจงจำปานนี้ไว้ให้ดี…บุคคลที่มีปานนี้คือคนที่เป็นพันธมิตรกับพวกเรา'' ข้ากล่าวอธิบายออกไป
ทั่งยังอธิบายเขาในหลายๆเรื่อง เเละชี้เเเนะเรื่องการบ่มเพาะกายของเขา ตามคัมภีรก์สู่กายาเหนือโลกที่ข้าได้เรียนมันมา ข้าจำได้ทั้งหมด เพราะเนื้อหามันคล้ายๆกัน เเละข้าก็ยังไม่ลืมเป้าหมายหลักที่ข้ามายังสุสานมังกร
"ว่าเเต่เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่?'' ข้ากล่าวถามเขาไปด้วยความสงสัย
"ข้างในไต้ฝุ่นนั่น…มันมีพลังของร่างทรงต้นตระกูลของข้าอยู่'' เขากล่าวออกมาในทันที ซึ่งภายในไต้ฝุ่นนั้นข้าก็พอเห็นมันลางๆเเล้ว เมื่อใช้ปราณมองเข้าไป มันมีร่างโครงกระดูกขนาดใหญ่กว่าข้างนอกถึงสามเท่า สูงใหญ่จนเกือบชิดฟ้า เเต่มันอยู่ลึกที่สุด
"อืม…ข้าพอจะเห็นมัน'' ข้ากล่าวเมื่อนึกถึงเจ้าร่างโครงกระดูกนั่น
"เจ้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าไปตอนนี้หรอก…เเละก็น่าจะไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ด้วย'' ข้ากล่าวออกไปอย่างมั่นใจ เพราะขนาดระดับข้ายังเพิ่งจะมองเห็น เเถมไต้ฝุ่นพวกนี้มันอันตรายมากๆ ถึงจะเป็นเพียงทรายเป็นเพียงฝุ่น เเต่ความคมของมันอาจจะใกล้เคียงกับอุปกรณ์ระดับบรรพกาล ข้าก็ไม่มั่นใจหรอกว่าใครสร้างมันขึ้นมา เเต่ถ้าหากมันใช้เป็นอาวุธได้…
"เช่นนั้นเเล้วท่านมาที่นี้เพราะเหตุอันใด?'' เขากล่าวถามข้ากลับ
"ข้ามาเอากระดูกเทพอสูร'' ข้าเองก็ตอบไปตรงๆ เหตุผลของข้ามีเเค่นี้จริงๆ
"ไม่ต้องห่วง…ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถฝ่าไต้ฝุ่นนั้นเข้าไปได้'' ข้ากล่าวออกไปตามที่เขาเข้าใจ เพราะกายของข้าไม่ใช่กายปกติของมนุษย์ มันถูกบ่มเพาะจนมาถึงระดับร่างศักดิ์สิทธิ์ เเละเพียงอีกเเค่ระดับเดียวเท่านั้นข้าจะสามารถขึ้นไปเยือนสวรรค์ได้ด้วยกายของข้า
"ถ้าหากเจ้าฝึกกายของเข้าจนถึงระดับร่างศักดิ์สิทธิ์…เจ้าเองก็จะสามารถเข้าไปได้เช่นกัน'' ข้ากล่าวอีกครั้งให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจน
“เจ้ารอข้าที่นี่…ข้าจะไปนำกระดูกเทพอสูรข้างในออกมา” ข้ากล่าวอย่างเร่งรีบ เพราะไม่เเน่ใจว่าจะมีพวกมือปราบมารมาอีกหรือไม่ เพราะข้าได้ยินมาว่าผู้อำนวยการของมือปราบมารมีขั้นบ่มเพาะอยู่ในระดับเทพยุทธ ตระกูลของเขาส่วนใหญ่จะไม่ขึ้นไปเป็นเซียน มีหน้าที่เฉพาะคือรับช่วงต่อในการปราบมาร ทำให้ขั้นบ่มเพาะของเขาสูงกว่านักพรต เขาเองก็เคยมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ฝึกตนในโลกข้างนอกเช่นกัน บรรพบุรุษของเขาคือหนึ่งในวีรบุรุษที่ช่วยในการหยุดยั้งเทพอสูร เเละก็เสียชีวิตไปในสงครามครั้งนั้น
"ขอให้นายท่านปลอดภัย'' เขากล่าวก่อนจะเริ่มนั่งควบคุมลมปราณเเละทำตามคำชี้เเนะของข้าในการบ่มเพาะกาย
‘เขาไม่เหมาะกับการเป็นลูกศิษย์ของข้าด้วยซ้ำ..’ ข้าคิดในใจเมื่อได้เห็นการบ่มเพาะของเขา มันมิใช่การบ่มเพาะตามตำราทุกอย่าง มีหลายส่วนที่เขาสับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับตัวเขา เขาจึงมีขั้นบ่มเพาะที่มากกว่าวัยเดียวกันหลายเท่า เขาคืออัจฉริยะ ข้าจึฃไม่ควรสั่งเขาให้ทำตาม เเต่ควรสั่งเขาให้เขาพยายามเปลี่ยนให้เหมะกับเขาเอง
‘เเละใช่…ข้าก็ได้ทิ้งของไว้ให้เขาใช้บ่มเพาะ’
‘เพราะข้าต้องการให้เขาช่วยดูเเละตระกูลของข้าในช่วงที่ข้าออกไปทำธุระโลกข้างนอก’ ข้าคิดพลางเดินผ่านไต้ฝุ่นหนาๆนี่ไปอย่างง่ายดาย เม็ดทรายมากมายโถมเข้าใส่ข้า เเต่มันไม่สามารถทอะไรข้าได้ ทำได้เพียงเป็นรอยถลอกๆในบางจุดเท่านั้นเมื่อมันซ้ำกันเข้ามาในจุดนั้น
"ขนาดข้ามีกายในระดับศักดิ์สิทธิ์…'' ข้ากล่าวออกมาก่อนจะกลืนน้ำลายดังอึก
“อะ…!!'' ข้าตกใจมาก เมื่อข้าเข้ามา มันไม่ได้เป็นไปตามที่ตาของข้าเห็นจากภายนอก กระดูกมังกรมากมายที่ยังคงเป็นโครงร่างของมังกรเกลื่อนเต็มไปหมด เเรงกดดันของมันอยู่ในระดับตำนานเป็นอย่างต่ำ ยิ่งเข้าไปลึกจะได้รับเเรงกดดันมากกว่านั้นอย่างเเน่นอน นี่เเหละคือของจริง…
'นานเเล้วที่ข้าไม่ได้รู้สึกกดดันถึงขนาดนี้' ข้าคิดในใจเกี่ยวกับในช่วงที่ได้เผชิญหน้ากับมังกรคลั่งครั้งเเรก
"นะ…นั่น……'' ข้าถึงกลับพูดไม่ออกมือสั่นตัวสั่นไปหมด ขนาดของมันใหญ่ว่าที่ข้าเห็นจากข้างนอกเสียอีก มันสูงลิบฟ้า เจ้าตัวที่อยู่ไกลที่สุด โครงหัวของมันมีถึงเก้าหัวจริงๆ ถ้าหากมันยังอยู่ ข้าคิดว่ามันคงไม่น่าใช่ระดับเทพอสูรเเน่ๆ
"เเค่นี้ไม่สามารถหยุดข้าได้หรอก'' ข้ากล่าวออกไปพร้อมกับก้าวเดินไปยังโครงกระดูกที่ใหญ่กว่าตัวอื่นๆ ขนาดมันตายเเล้วเเรงกดดันของมันยังเยอะพอสมควร ก่อนจะเก็บโครงกระดูกของมันมาครึ่งตัว เข้าไปในเเหวนมิติ เพราะมันใส่ได้เพียงเเค่นี้ เเต่มันก็มากพอเเล้ว ก่อนจะเดินกลับไปยังทางที่ข้ามา
"รอก่อน…ข้าจะไปที่นั่นอย่างเเน่นอน'' ข้ากล่าวออกมาพร้อมกับมองเจ้าโครงกระดูกร่างยักษ์นั่น เเม้มันจะไม่มีชีวิตเเล้วเเรงกดดันของมันมากกว่าทุกตัวที่นี่
คลื่นนน
โฮกกกกก
ข้าปล่อยเเรงกดดันไร้ระดับออกไป ซึ่งราวกับมันได้โต้ตอบกลับมา ข้าได้เห็นมันที่ยังมีชิตเเละร้องคำรามดังลั่น รอบตัวมันมีเเต่สิ่งก่อสร้างเเละธรรมชาติที่ถูกทำลาย มันยังคงจ้องมองข้าอยู่ในระดับที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ข้าเองก็ได้มองมันเช่นกัน ถ้าหากเทียบกับมังกรคลั่งเเล้ว ไอตัวนี่มันสูงใหญ่เเละน่ากลัวกว่ามาก เก้าหัวของมันที่กำลังมองข้า บางทีมันจะสามารถทำให้ข้าถึงกับเสียความมั่นใจไปเลยก็เป็นได้ ข้าได้ถอนหายใจเเละรีบกลับออกไปจากไต้ฝุ่นทันที
"เจ้ามันปีศาจหรืออะไรกัน?'' เมื่อข้าเข้ามาในถ้ำที่จิ้งเหอกำลังฝึกก็ได้พบกับขั้นบ่มเพาะของเขาที่เพิ่มขึ้น ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามที่ข้าเข้าไป ปรากฏว่าเขาได้บ่มเพาะไปถึงระดับเหนือมนุษย์ขั้นห้า เขาทะลวงสี่ขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม… เเต่มันก็สมควรเเล้วเพราะข้าได้มอบสิ่งที่ช่วยในการบ่มเพาะให้เขา ไม่ว่าจะเป็นพวกโสมหรือยายกระดับ
"เดี๋ยวนะ!?'' เมื่อข้าได้เห็นสีหน้าของเขาเเละยากยกระดับที่หายไปจนหมดข้าก็พุ่งเข้าไปเเละใช้มือสัมผัสกลางหลังของเขาในทันที
"เจ้าจะบ้าหรือยังไงหรือกินยายกระดับครั้งเดียวหมด!!'' ข้าตะโกนด้วยความลุกลี้ลุกลน ก่อนจะค่อยๆส่งปราณของข้าเข้าไปในร่างของเขาเผื่อช่วยจัดระเบียบจุดปราณเเละเเบ่งเบาไปยังจุดอื่นๆ มิเช่นนั้นร่างเขาเเตกเเน่ ดีที่เขามีกายระดับร่างเหล็ก
"ข้าก็ว่าทำไมเจ้าบ่มเพาะไวแปลกๆ'' ข้าบ่นเขาในขณะที่กำลังส่งปราณช่วยเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปสักพักใหญ่
ข้าได้ช่วยเขาจัดระเบียบจุดรวมปราณของเขาไปนานเกือบสองชั่วยาม ขั้นบ่มเพาะของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากหนึ่งชั่วยามจนในตอนนี้เขายกระดับขึ้นไปเป็นผู้ครอบครองขั้นหนึ่งสำเร็จ เจ้านี่มันบ้าได้ใจจริงๆ เเละข้าก็กำลังรอเขาฟื้นจากการรวมปราณโดยการนั่งจัดเรียงกระดูกไปด้วย ทำให้มันกลายเป็นผง เเต่ใช่เเล้วนี่มันคือกระดูกมังกร ระดับเทพอสูร มันเเข็งเเกร่งมากๆ ถ้าหากไม่ได้ดาบทมิฬในการทุบมันข้าก็คงต้องรอให้กายข้าไปถึงระดับร่างทรงเทพเจ้าเท่านั้น
"นาย…ท่าน'' เขากล่าวเรียกข้าด้วยน้ำเสียงที่แหบเเห้ง
"ดื่มนี่ซะ'' ข้ากล่าวพลางยื่นโพชั่นฟื้นฟูพละกำลังให้กับเขา ข้ามีเพียงสองขวดเท่านั้น ข้านี่เสียทรัพยากรสำคัญให้กับเจ้าไปหลายอย่างเเล้วนะ เพราะโพชั่นนี่ก็คือหนึ่งในโพชั่นที่หายากของเล่อปิง มันทำยากเสียกว่าโพชั่นรักษาอีก ขอให้มันคุ้มซะเถอะเพราะถือว่าข้าได้ลงเดิมพันไปกับความสามารถของเจ้าในอนาคตเเล้ว
"เหตุใดเข้าจึงกินยายกระดับไปหมดในครั้งเดียว?'' ข้ากล่าวถาม เพราะเขาเองก็ฉลาดไม่น่าจะคิดฆ่าตัวตายเเบบนี้่
“มีเสียงบอกข้า…บอกให้ข้ากินให้หมดในครั้งเดียว” เขากล่าวออกมา ซึ่งข้าก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรเขาอีก ใครกันนะที่สั่งให้เขาทำแบบนั้น เเล้วเพราะอะไรเขาถึงทำตาม-
"เป็นมังกรใช่หรือไม่?'' ข้ากล่าวถามเขาไปตามที่ข้าสงสัย
"เป็นเช่นนั้น…ท่านรู้ได้ยังไงกัน?'' เขากล่าวถามข้ากลับเเต่ข้าก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ที่จริงที่เขาทำมันก็ดีกว่าการกินยาเป็นช่วงเวลาอยู่เเล้ว เเต่มันอันตราย ต้องเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมปราณอยู่ด้วย ซึ่งที่นี่ก็คือสุสานมังกร เขาเองก็เป็นร่างทรงของมังกรเก้าหัว อาจจะเป็นมังกรสักตนนึงที่เกี่ยวข้องกับเขาคอยสื่อสารกับเขาอยู่ทำให้เขาทำตาม
ณ บ้านตระกูลหลี่
“ข้าจะไม่อยู่หลายเดือน…เจ้าคงต้องเก็บตัวฝึกฝนอยู่ที่นี่เเละคอยดูเเลคนในครอบครัวของข้า” ข้ากล่าวออกไปก่อนจะเข้าไปในบ้าน ซึ่งพวกยามก็เคารพข้าเป็นอย่างดี เพราะข้าคือคุณหนูหลี่เล่อปิงที่เพิ่งจะกลับมาจากโลกภายนอก
"รับคำสั่ง'' เขากล่าวออกมาซึ่งข้าก็ได้เล่าเรื่องที่เกี่ยวกับข้าเเละครอบครัวไปในสิ่งที่เขาควรรู้ ระหว่างทางที่กลับมายังเมืองซิ่นหลิว
"เมื่อข้ากลับมา…เจ้าต้องเตรียมตัวรับการฝึกกระบี่จากข้าโดยตรง'' ข้ากล่าวก่อนจะถึงห้องทำงานของท่านพ่อ
"เจ้าพาใครมาล่ะ?'' ท่านพ่อกล่าวถามข้าทันทีเมื่อเขาเงยหน้ามามองว่าใครเข้ามาในห้องทำงานของเขา เเละพบว่าเป็นเล่อป๋อในร่างเล่อปิง ส่วนอีกคนนึงเป็นเด็กชายวัยเดียวกันกับลูกของเขาเเถมยังมีออร่าที่น่ากลัวอีกด้วย
"ข้านามว่าจิ้งเหอ…เป็นผู้ติดตามของนายน้อยเล่อป๋อ'' เขากล่าวเเนะนำตนเอง ซึ่งทำให้ท่านพ่อเริ่มสนใจเขาทันที เด็กคนนี้่ต้องเป็นคนแบบไหนถึงเล่อป๋อรับเป็นผู้ติดตาม? เพราะไม่ว่าจะใครที่มีพรสวรรค์สูงเเค่ไหน น่าสนใจเเค่ไหน เล่อป๋อไม่เคยคิดจะมองด้วยซ้ำ กลับกันเล่อป๋อกลับไม่มองว่าเขาคนนั้นอยู่ในสายตา
"ข้าจะไม่อยู่อีกหลายเดือน…เขาจะเป็นคนที่คอยปกป้องครอบครัวของเราเเทนข้า'' ข้ากล่าวออกไปอย่างเต็มปาก เพราะท่านพ่อน่าจะเห็นเเล้วว่าข้านั้นเเข็งเเกร่งถึงเพียงไหน
"โปรดเรียกผู้ใหญ่ในครอบครัวเรามาด้วย…ข้าจะทำตามที่ข้าสัญญากับท่านปู่ไว้'' ข้ากล่าวออกไป ถึงเเม่ท่านข้าเเละท่านปู่จะไม่ได้พูดเรื่องคัมภีร์สู่กายาเหนือโลกมาในตอนนั้น เเต่เขาน่าจะกลับมาบอกในที่ส่วนตัวกับครอบครัวมากกว่า
"เช่นนั้นเจ้าไปเตรียมตัวรอสักครู่'' ท่านพ่อกล่าวก่อนจะปิดงานลงเเละเดินออกจากห้องไปทันที ท่านพ่อคงคิดว่าข้าน่าจะเร่งรีบไปทำอะไรบางอย่าง เพราะในตอนเเรกท่านพ่อคิดว่าข้าคงจะต้องการพักผ่อนก่อน
ณ สถานที่ฝึกตระกูลหลี่ใต้ดิน
"เจ้าจะต้องเก็บตัวอยู่ที่นี่…เจ้าจะอึดอัดหรือไม่?'' ข้ากล่าวถามจิ้งเหอ ซึ่งเขาก็ส่ายหน้าออกมา ในเมื่อครู่ข้าได้ให้จิ้งเหอเเสดงความสามารถของตนเองออกมา ด้วยเเรงกดดันของการบ่มเพาะระดับผู้ครอบครองขั้นที่หนึ่ง ท่านปู่เเทบกระอักเลือด ข้าที่ว่าน่าเหลือเชื่อเเล้วเจ้าเด็กนี่เองก็เช่นกัน
"เอาล่ะ…ข้าจะเปิดจุดให้พวกท่านเข้าสู่การบ่มเพาะกาย'' ข้ากล่าว หลังจากนั้นข้าก็ได้อธิบายวิธีการฝึก เเต่ไม่ได้ให้หนังสือกับพวกเขาไป เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งพวกเขาก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก จิ้งเหอก็ยืนฟังข้าซ้ำเพื่อจำให้ขึ้นใจ
