ตอนที่ 8 ช่วยตัวร้ายเช่นเขาจีบสาว
"รอข้าหรือ เหตุใดถึงต้องรอข้า"
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ พลางชี้นิ้วมาที่ตนเองอย่างทวงถามให้แน่ใจ หมิงเพ่ยพยักหน้าเป็นเชิงให้กำลังใจ ตอนนี้ใบหน้าของนางซีดเซียวกังวลไปก่อน ถึงขนาดที่ให้คนไปตามเช่นนี้เกรงว่านางคงทำอันใดขาดตกบกพร่องจนเขาต้องไล่ออกเป็นแน่ ไม่สิ! หากอ้างอิงนิสัยเขาตามนิยายเกรงว่าคงไม่เพียงไล่ออกเป็นแน่ จะทำเช่นไรดี ควรเข้าไปไหมหรือจะหนีไปตอนนี้ดี
“แม่นางหลี่ เจ้ารีบเข้าไปเสียเถอะ ท่านอ๋องไม่ชอบให้ผู้ใดรอนาน “
” เจ้าค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยรับด้วยเสียงไม่ค่อยมั่นใจมากนัก นางดันประตูกว้างเข้าไปก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอ่านตำราด้วยท่าทีนิ่งเฉยอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ
” คารวะเว่ยอ๋อง ท่านหมิงเพ่ยบอกเว่ยอ๋องเรียกพบข้า”
เสียงของนางราบเรียบไม่แสดงอาการของความหวาดกลัวหรือตื่นตะหนก แต่ถึงนางจะควบคุมน้ำเสียงได้ทว่าตอนที่ย่อกายทำความเคารพนั้น ขาที่กลัวจนสั่นเทาทำให้เซเล็กน้อย นั้นไม่สามารถรอดพ้นสายตาของชายหนุ่มไปได้แต่เขาก็มิได้ถือสาสิ่งใด เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
“หญิงสาวมักชมชอบสิ่งใด”
เสียงเข้มเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เจ้าคะ”
หลี่ซิ่วอิงทวนคำถามเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ตนนั้นได้ยิน นี่ไม่ได้เรียกนางมาไล่ออกหรอกหรือ
“จะตอบมาหรือจะใสหัวออกจากจวน”
“ยะ…อยู่ที่บุคคลนั้นเจ้าคะ”
“เช่นไหร่”
ร่างใหญ่วางตำราในมือแล้วเงยหน้ามาถามหญิงสาวซึ่งหน้า
หลี่ซิ่วอิงสบเข้ากับดวงตาคมก็รีบก้มหน้า สายตาของชายหนุ่มอันตรายเหลือเกิน เขาถามเช่นนี้มิใช่ว่าจะซื้อของให้แม่นางจางเซียวเหยียนหรอกหรือ ใช่แล้ว…หากนับเวลาตามนิยายอีกสองวัน ก็จะถึงวันเกิดนางเอกของเรา จวนสกุลจางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจวนเว่ยอ๋อง การเดินทัพออกรบชายแดนต้องอาศัยกรมคลังมิใช่น้อย ถ้าจำมิผิดครั้งนี้พระเอกก็จะไปด้วย วันนั้นทำให้พระเอกกับนางเอกเจอกันครั้งแรก โจ้วยู่ร์เฟิงพระเอกของเราหลงรักในความฉลาดของจางเซียวเหมียน จนเกิดเป็นความรักที่ร่วมกันฝ่าฝัน มันไม่ยุติธรรมกับเว่ยตงหยางเลยสักนิดที่ได้เจอนางเอก ตกหลุ่มรักเขาก่อนแต่ก็ยังผิดหวังเช่นนี้
“หญิงสาวทุกคนล้วนชอบความสวยงาม เช่นเครื่องประดับสวยหรู เครื่องประทินโฉม หญิงที่ชอบงานดนตรี เหมาะแก่การซื้อเครื่องดนตรีที่นางชอบเป็นของขวัญ หญิงที่ชอบเย็บปักถักร้อย เว่ยอ๋องก็อาจจะซื้อลายปักผ้าหายาก ไม่ทราบว่าผู้ที่เว่ยอ๋องจะซื้อของให้นางชมชอบสิ่งใดเจ้าคะ”
หญิงสาวเอ่ยอย่างอธิบายและสอบถามเขากลับไป นางรู้ว่าเขาจะซื้อของให้ผู้ใดและหากเอ่ยออกไปตรงๆ คงถูกจับโยนออกนอกจวนเสียแล้ว เรื่องที่เขาชมชอบแม่นางจางเซียวเหยียนยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ กว่าผู้อื่นจะรู้ก็หลังงานวันเกิดแม่นางจางไปเสียแล้ว แต่ตอนที่อ่านนิยายมิยักจะรู้ว่าเขามาถามความเห็นบ่าวรับใช้หญิงเช่นนี้ แล้วข้าควรแนะนำกำไลหยกไป หรือแนะนำของขวัญที่เขาจะเอาชนะใจคุณหนูนางได้ดีนะ สีหน้าของเว่ยตงหยางมีท่าทีกังวลเล็กน้อย เขาพบแม่นางเชียวเหยียนไม่กี่ครั้ง ไม่รู้ว่านางชอบทำอันใด
“หากเว่ยอ๋องมิทราบ ก็ดูจากบุคลิกท่าทางของนางก็ได้เจ้าคะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างหาทางช่วย เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่รู้อยู่ดี ในนิยายเขาซื้อกำไลหยก ของขวัญที่เขามอบให้ซ้ำกับแขกผู้อื่นมากมายถึงแม้ราคาจะมากกว่าก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้แม่นางเชียวเหยียนรู้สึกสนใจเท่าใด ต่างกับโจ้วยู่ร์เฟิงที่นำภาพวาดทิวทัศน์ภูเขาแม่น้ำที่วาดเองมาเป็นของขวัญทำให้นางชอบนัก เนื่องจางเซียวเหยียนนั้นชอบออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อย จนถึงขนาดทำให้พบกับตัวร้ายอย่างเว่ยตงหยาง แต่ตัวร้ายท่านนี้กลับโง่เคลาหนักที่มองทางนางไม่ออก
“รูปโฉมนางงดงามยิ่งกว่าบุผา นางสุขม ท่าทีสงบเสงี่ยมราวสายน้ำนิ่ง แต่จิตใจนางเด็ดเดี่ยวและไม่เกรงกลัวสิ่งใด”
คำเหยินยอขอชายหนุ่มเกือบทำให้หลี่ซิ่วอิงเบะปากด้วยความหมั่นใส้
“เช่นนั้นเกรงว่านางคงชมชอบเที่ยวเล่นมิชอบการผูกมัดสิ่งใด หากเดาจากนิสัยของนางคงมิชอบเครื่องดนตรี หรือเครื่องประดับที่งดงาม หากแต่ก็ชอบเรียนรู้”
“เช่นนั้นภาพวาดทิวทัศน์คงเหมาะกับนาง”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างใช้ความคิด หลี่ซิ่วอิงส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย หากเขานำภาพวาดทิวทัศน์ไปเกรงว่าจะซ้ำกับโจ้วยู่ร์เฟิง อีกทั้งยังวาดภาพนั้นเอง ต่างกับชายหนุ่มที่คงไม่พ้นซื้อภาพวาดที่งดงามที่สุดไป เช่นไรภาพที่ตั้งใจทำเองย่อมดีกว่าภาพที่แค่มีเงินก็ซื้อได้อยู่แล้ว
“เช่นนั้นเจ้าคิดว่าควรเป็นสิ่งใด”
“ต้องเป็นของที่นางใช้เป็นประจำ และใช้ทำสิ่งที่นางชอบ หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่นางพกติดตัวตลอดเจ้าค่ะ”
“ถูกของเจ้า ภาพวาดของข้ามิดีเช่นไรกัน”
“เรียนเว่ยอ๋องภาพวาดนางประทับใจเพียงแรกพบเท่านั้น อย่างมากก็เก็บไว้อย่างดี หรือใช้ประดับในเรือน ข้าคิดออกอยู่สิ่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าเว่ยอ๋องจะลองฟังหรือไม่”
” สิ่งใดกัน”
“เรียนเว่ยอ๋อง ข้าคิดว่าหากเป็นพู่กันดีหรือไม่เจ้าคะ เป็นสิ่งที่นางใช้เขียนตำรา หรือวาดภาพก็ต้องใช้ทุกครา เมื่อใดที่หยิบมาใช้ล้วนต้องนึกถึงผู้ให้ตลอด มิใช้สิ่งของที่ไว้ใช้ประดับหรือเก็บเข้ากล่องไว้ สั่งทำพู่กันที่มีเพียงหนึ่งเดียว มีเอกลักษณ์ ทั้งวัสดุคุณภาพดี”
“อื้ม เอาเช่นนั้นแล้วกัน”
เว่ยตงหยางเอ่ยอย่างเห็นด้วย เขาไม่มีท่าทีหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินออกไป แต่ก่อนที่จะเปิดประตูฝีเท้ากลับหยุดชะงักเอาไว้อย่างไร้เหตุผล
“แล้วหญิงสาวเช่นเจ้าชมชอบสิ่งใดกัน”
“เรียนท่านอ๋อง บ่าวเช่นข้าคงมิได้มีวาสนาหรือทำในสิ่งที่ตนปราณนาได้เช่นหญิงสาวทั่วไป”
“ไม่มีสิ่งใดที่ชอบเช่นนั้นหรือ”
“ผู้อื่นข้ามีรู้เจ้าค่ะ แต่ข้าชอบเงิน”
หลี่ซิ่วอิงเอ่ยจบก็ยกมือเกาที่ท้ายทอยด้วยความเขินอายเล็กน้อย ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคไหน ไม่ว่านางจะอยู่ที่ใดก็ตาม มีเงินล้วนดีหมด
ปัง!
เสียงประตูไม้กระทบกันเมื่อร่างใหญ่เดินออกไปเรือนไปแล้ว
“ท่านอ๋อง”
หมิงเพ่ยที่อยู่หน้าเรือนเอ่ยขึ้นเมื่อผู้เป็นนายออกมาจากเรื่อนตำรา
“ไปสืบเรื่องนางมา”
“ขอรับ”
หมิงเพ่ยรับคำอย่างเรียยง่าย ถึงแม้จะแปลกใจมิน้อยที่ผู้เป็นนายให้สืบเรื่องของบ่าวรับใช้นางหนึ่ง ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
