บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 เขาใช้งานข้าหนักไปหรือไม่

ภายในเรือนนอนของสาวรับใช้จวนสกุลเว่ย นับว่ามิได้มิมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย เขาว่ากันว่าหากจะดูว่าจวนใดร่ำรวยจริงหรือไม่ มิได้ดูจากข้าวของเครื่องใช้เพียงอย่างดียว แต่สามารถดูได้จากข้ารับใช้ที่ฐานะต่ำสุดในจวนว่ามีความเป็นอยู่เช่นไรอีกด้วย หลี่ซิ่วอิงถูกจัดในนอนกับบ่าวรับใช้ที่พึ่งมาใหม่ด้วยกันอีกคน ข้าวของเครื่องใช้มีครบทุกอย่างภายในห้อง ร่างบางเดินหาวเข้ามา ในขณะที่สหายร่วมห้องนั้นหลับไปแล้ว

จ๊อก~~

เสียงท้องร้องประท้วงออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างบางที่เดิมทีเมื่อตอนกลางวันก็ทานข้าวได้น้อยอยู่แล้ว เพราะถูกเรียกตัวให้ไปดูแลเรือนตำรา อีกทั้วเวลานี่โรงครัวก็ปิดไปเสียแล้ว มิมีอาหารเหลือให้นางเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงต้องอดทนข่มตานอนหิวจนถึงพรุ่งนี้เช้า

“หิวชะมัด!”

หญิงสาวบ่นกับตนเองก่อนที่จะรินน้ำและยกขึ้นดื่มด้วยความกระหาย บ้าชะมัดแค่น้ำยังพึ่งตกถึงท้อง อย่าว่าแต่ข้าวเลย

“เจ้าหิวหรือ”

“วร๊าย~~~ เจ้ายังไม่หลับหรือ”

หลี่ซิ่วอิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำเอานางสะดุ้งจนต้องยกมือทาบอก

” ขออภัย ข้าเป็นคนตื่นง่ายหน่ะ”

“ข้าทำเจ้าตื่นหรือ เช่นนั้นข้าจะระวัง”

“ขอบใจเจ้า ว่าแต่หากเจ้าหิวข้ามีหมั่นโถ่ว”

นางไม่พูดเปล่าแต่เดินไปหยิบมาให้ด้วย”

“ขอบใจนะเสี่ยวหมี่”

หลี่ซิ่วอิงรับหมั่นโถ่วแล้วรีบกินทันที ด้านในมีใส้ผักผัดกับน้ำมันยิ่งช่วยเพิ่มรสชาติ ใครจะคิดว่าวันนี้แค่หมั่นโถ่วธรรมดาไม่ต้องมีเนื้อก็ทำให้นางน้ำตาแทบร่วงที่ไม่ต้องนอนหิวข้าวไปทั้งคืน

“ได้ยินว่าเจ้าอยู่กับเว่ยอ๋องที่เรือนตำราทั้งวัน เป็นเช่นไรบ้างหรือ”

เสี่ยวหมี่เอ่ยถาม พลางขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้น แววตาของนางแสดงความอยากรู้อย่างปิดไม่มิด

“ก็อารมณ์ร้ายอย่างที่ข้างนอกลื่อกันนั้นแหล่ะ เจ้ามิรู้อันใดนะ ตลอดเวลาที่ข้างอยู่ในเรือนตำรา ข้าถูกเขาไล่ออกมาไม่รู้กี่ครา ไฟสว่างไปก็มิได้ น้อยไปก็มิได้ ข้าแทบกั้นหายใจอยู่แล้วเพราะกลัวว่าเขาจะมิพอใจ ลมแรงไปก็ไล่ข้าไปปิดหน้าต่าง ร้อนหน่อยก็ไล่ข้าไปเปิดทำอย่างกับข้านั้นบังคับลมได้เสียอย่างนั้น หากข้าแปลงกายเป็นจิ้งจกได้เขาคงสั่งให้ข้าทำเป็นแน่”

หญิงสาวบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำเอาเสี่ยวหมี่ที่ฟังต้องอ้าปากค้าง อย่างหาช่วงจังหวะแทรกไม่ได้

“วันนี้ข้าได้ยินบ่าวที่รับใช้ในเรือนใหญ่พูดกันว่า ท่านอ๋องอารมณ์ดีกว่าปกตินะ”

“นี่อารมณ์ดีแล้วหรือ”

“ใช่ เว่ยอ๋องพึ่งกลับจากทัพที่ชานแดนได้ไม่นาน เห็นว่าท่านมิได้อารมณ์ดีเพราะรบชนะ แต่เพราะท่านอ๋องพบนางในดวงใจ”

“นางใจดวงใจ!”

“หลี่ซิ่วอิง เจ้าเบาๆสิ”

เสี่ยวหมี่ยกมือจุ๊ปากเป็นสัญลักษณ์ให้หญิงสาวเงียบลง พร้อมขยับไปใกล้มากขึ้น

“บ่าวในเรือนใหญ่บอกว่า เว่ยอ๋องพบแม่นางท่านหนึ่งขณะเดินทางกลับวังหลวงและได้ช่วยนางไว้ ถึงขนาดวาดรูปหญิงสาวผู้นั้นกลับจวน เป็นรูปที่เว่ยอ๋องหวงแหนมาก”

“ช่วยหญิงสาวหรือ…หรือจะเป็น จางเซียวเหลียน นางเอกในนิยาย”

“เจ้ารู้ได้เช่นไหร่ แล้วนางเอก นิยาย คือสิ่งใด”

“มิมีอันใด ข้าก็พูดไปมั่วหน่ะคงจะเหนื่อยแล้ว เจ้าไปนอนเถอะ”

” เช่นนั้นเจ้าก็รีบพักผ่อน”

เสี่ยวหมี่เอ่ยจบก็กลับที่นอนเช่นเดิม

‘เว่ยอ๋องพึ่งได้พบจางเซียวเหยียนเช่นนั้นหรือ นี่มันคือเหตุการณ์ช่วงต้นเรื่องในนิยายเองมิใช่หรือ ข้ามาอยู่ที่นี่ตั้ง 7 เดือนแล้ว มิได้สนใจเนื้อเรื่องในนิยายว่าเนื้อเรื่องไปถึงไหน แล้วเหตุใดเมื่อข้ามาอยู่ที่จวนแห่งนี้เนื้อเรื่องถึงพึ่งได้ดำเนินกัน หรือว่าแท้จริงแล้วข้าจะเป็นหนึ่งในตัวแปลของเรื่องนี้ คงมิใช่หรอกในเนื้อเรื่องมิได้เอ่ยถึงบ่าวรับใช้ในจวนเว่ยอ๋องเลยแม้แต่น้อย’

หญิงสาวเอ่ยกับตนเองในใจอย่างใช้ความคิด นางต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและรอบขอบมากขึ้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างไม่ชอบมาพากล หากเกิดเรื่องกับชีวิตน้อยๆ ของนางจะทำเช่นไรกัน เมื่อคิดมาได้ถึงต้องนี้ก็รีบสลัดความคิดของตน ก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำและกลับมานอนในที่ของตน

.…

1 เดือนถัดมา

การเป็นบ่าวรับใช้นั้นนับว่าหนักเมื่อเทียบกับงานอื่นๆที่หญิงสาวเคยทำทั้งที่โลกเก่าและโลกในนิยายนี้ เนื่องจากต้องใช้แรงกายมิต้องใช้ความคิดหรือความรู้อันใดมาก แต่นางก็แอบเสียดายความสามารถตนเองอยู่บ้าง หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวไม่ค่อยพบเว่ยอ๋องมาที่เรือนตำราเท่าใดหนัก แต่ถึงอย่างนั้นการพบเพียงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา ก็ทำเอานางเหนื่อยไปมากและยังหวาดระแวงเขาไม่หาย ตัวร้ายในนิยายฉายาอารมณ์ร้อน มั่นใจในตัวเอง อีกทั้งตัวร้ายในเรื่องยังเป็นถึงแม่ทัพเสียด้วย มีนิยายเรื่องใดบ้างที่เนื้อเรื่องส่งเสริมตัวร้ายดีเช่นนี้กัน

ปกติสาวใช้ในจวนแห่งนี้จะต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่ต้นยามเหม่า แต่หลี่ซิ่วอิงต้องรีบตื่นมาเตรียมตัวก่อนคนอื่นๆ มิใช่ว่านางแต่งกายนานกว่าผู้อื่น แต่เป็นเพราะว่านางติดนิสัยในโลกเก่า นั้นคือต้องอาบน้ำวันล่ะสองครั้ง มิเช่นนั้นนางไม่สามารถออกไปพบผู้ใดได้ เพื่อไม่ให้ตนเองสายจึงต้องตื่นมาเตรียมตัวตั้งแต่ปลายยามอิ๋น ถึงนางจะอาบน้ำ รักความสะอาดเช่นนี้ นางก็มิได้รังเกียจผู้อื่นแต่อย่างใด นางเข้าใจวัฒนธรรมของคนแต่ละยุคสมัย คนที่นี่ส่วนใหญ่อาบน้ำแค่วันล่ะครั้งเท่านั้น หากวันใดอากาศหนาวก็ไม่อาบกันเลย หลายเดือนที่ผ่านมานางชินเสียแล้ว โชคดีที่เสี่ยวหมี่นั้นอาบน้ำทุกวัน และตัวนางเองก็มิได้มีกลิ่นตัวจึงทำให้นางอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ

"คารวะท่านหมิงเพ่ย"

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยทักทายผู้ช่วยของเว่ยอ๋องที่ยืนอยู่หน้าประตูเรือนตำราอย่างเป็นกันเอง หนึ่งเดือนมานี้นางพบเจอเขาบ่อย จนได้พูดคุยและทำความรู้จักกันเนื่องจากหมิงเพ่ยผู้นี้มักนำตำราไปให้ผู้เป็นนายบ่อยๆ หากหาไม่เจอก็จะถามนางที่เป็นผู้ดูแลเรือน

"คารวะแม่นางหลี่ เจ้ามาพอดีข้ากำลังจะให้คนไปตาม ท่านอ๋องรออยู่ด้านในแล้ว"

"รอข้าหรือ เหตุใดถึงต้องรอข้า"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel