บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เข้าจวนอ๋องร้าย

"ซิ่วเออร์"

เสียงของมารดาเรียกบุตรสาว ก่อนจะเดินเข้ามาอยู่ที่ด้านหลังของนาง

"ท่านแม่มีต้องกังวล ข้ามิได้ทำอันใดไม่ดีนะเจ้าคะ"

"แม่รู้ เจ้าเป็นคนฉลาด แม่เชื่อในตัวเจ้านะ"

"ท่านแม่..."

หลี่ซิ่วอิงโพล่เข้ากอดผู้เป็นมารดาอย่างอดไม่ได้ ถึงตนจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ความรักที่แม่มีต่อลูก นางสัมผัสได้ดีและรู้ว่าร่างนี้เองก็รับรู้มันได้

"ซิ่วเออร์ของแม่ไม่เคยต้องลำบากรับใช้ผู้อื่น งานหนักๆแม่ก็ไม่เคยให้เจ้าทำ ครั้งนี้ต้องขายตัวไปเป็นบ่าวจวนอื่น แม่....แม่สงสารเจ้ายิ่งนัก"

"ข้ามิได้ลำบากเจ้าคะ ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวล"

สองแม่ลูกกอดกันรำ่ให้ก่อนที่ออกจากห้องมา

"ท่านพ่อ..."

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยเรียกผู้มาใหม่ เขากลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ตอนที่คนจวนสกุลเฉินมาต้องหลบเป็นเพราะทำตามแผนของบุตรสาว

"วันนี้ลูกสาวข้างดงามยิ่ง"

หลี่กวางหมิงมองบุตรสาวของตนอย่างภาคภูมิใจ ใบหน้าที่ไม่เคยมีคราบของหยดน้ำตา ครานี้ปรากฎให้เห็นตรงหน้าอย่างไม่อาย บุตรสาวต้องขายตัวไปอยู่จวนอื่น ต้องไปคอยรับใช้ผู้อื่น ถึงจะเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่เขาผู้เป็นบิดาไม่เคยให้นางต้องลำบาก ตั้งใจดูแลมาอย่างดี มิคิดว่าวันหนึ่งนางจะต้องเจอเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้

"ท่านพ่อ บุตรสาวของท่านเพียงไปทำงานข้างนอกนะเจ้าคะ มิได้ไปออกรบเสียหน่อย หากมีโอกาสข้าย่อมกลับมาหาท่านที่เรือนเจ้าค่ะ อีกอย่างข้าเพียงไปที่จวนของเว่ยอ๋องใกล้เพียงเท่านี้ หากท่านคิดถึงก็ส่งจดหมายถึงข้าได้ที่ร้านเหม่ยกุ้ยนะเจ้าค่ะ ชิวชิวสหายข้าเปิดร้านสุราที่นั้นจะนำจดหมายท่านมาให้ข้าเอง เอาล่ะท่านพ่อท่านแม่ข้าต้องไปแล้วเจ้าค่ะ"

หญิงสาวเอ่ยลาทั้งคู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่แสดงออกถึงความเศร้าใจ ทั้งที่รู้ว่าอย่างไรก็มีโอกาสน้อยมากหากจะขอกลับมาเยี่ยมทั้งสอง แต่เพื่อไม่ให้ต้องเป็นกังวลเลยต้องฝืนเก็บอารมณ์ของตนเอาไว้ จากนั้นหยิบผ้าขาวบางมาปกปิดหน้าตาตนเองเอาไว้

"ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าออกหน้าเรือนมิได้"

หลี่กวางหมิงหยักหน้า จากนั้นเดินนำบุตรสาวออกไปทางด้านหลังเรือน ตามตรอกที่ไม่มีผู้คนเดินผ่านมากหนัก

"ท่านพ่อส่งข้าเพียงเท่านี้ก็พอเจ้าค่ะ ท่านต้องจำเอาไว้นะเจ้าค่ะ หากจวนสกุลเฉินมาให้ท่านอ้างชื่ออ๋องเว่ยเอาไว้"

"ข้ารู้แล้ว เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี"

"ลูกลาเจ้าค่ะ"

หลี่ซิ่วอิงย่อกายคำนับ ก่อนจะรีบเดินออกไป ใช่เวลากว่าครึ่งชั่วยามในที่สุดก็มาถึงหน้าจวนที่มีกำแพงตั้งตระง่าอยู่ตรงหน้านาง 'เว่ย' ที่สลักบนแผ่นไม้ตัวหนังสือสีทองบงบอกถึงความน่าเกรงขาม จวนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาจากวังหลวง ความงดงามและหรูหราปรากฏให้เห็นตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า บงบอกได้ว่าเจ้าของจวนนั้นมิได้มีเพียงเงินทองแต่ยังมีอำนาจมากมายด้วยเช่นกัน

"ข้ามาคัดตัวสาวใช้เจ้าค่ะ"

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยบอกทหารที่เฝ้าหน้าประตูด้วยท่าทางสำรวม เหตุที่จวนแห่งนี้ให้ทหารเฝ้ามิใช่บ่าวรับใช้อย่างเช่นจวนสกุลอื่นๆ เป็นเพราะว่าเป็นจวนของเชื้อพระวงศ์ ทหารยามเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเช็คความมั่นใจว่านางมิใช้คนร้ายที่แอบลักรอดเข้ามาก็เปิดประตูให้นางเข้าไป

"เข้าไปแล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ เจ้าจะพบกับแม่นมเหมย”

” ขอบคุณพี่ชาย”

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะเดินไปตามทางที่ทหารเมื่อสักครู่บอก เดินมาได้สักครู่ก็เห็นกลุ่มของเหล่าหญิงสาวราวๆ 20 คน คาดว่าพวกนางเหล่านี้ก็เป็นผู้ที่มาขายตนเพื่อเป็นบ่าวรับใช้ที่นี่เช่นกัน ที่นี่มีกฏว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าจะต้องสะอาดสะอ้านแต่งกายด้วยชุดสุภาพ หน้าผมต้องเรียบร้อย

“เอาหล่ะ หากมาครบแล้วข้าจะทำการคัดเลือกเพียง 10 คนเท่านั้น”

แม่นมเหม่ยเอ่ยขึ้น ใบหน้าที่ดูเหมือนอย่างเข้มงวดแต่แท้จริงแล้วกลับปากร้ายใจดี เป็นบุลคลที่อยู่เคียงข้างเว่ยอ๋องตั้งแต่ในวังหลวง จนได้ออกมาอยู่ที่จวนนอกวังแห่งนี้ หลี่ซิ่วอิงรู้จักตัวละครนี้เป็นอย่างดี ที่นางเลือกมาที่นี่อีกหนึ่งสาเหตุคือแม่นมเหม่ยเป็นผู้ที่ซือสัตย์ต่อผู้เป็นนาย อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความเมตตา ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก หากเปรียบเทียบกับโลกเก่าของนางเรียกว่าแม่นมเหม่ยเหมาะกับการเป็นหัวหน้างานเป็นที่สุด

การคัดตัวบ่าวรับใช้เข้มงวดมาก นางที่เตรียมตัวมาดีแล้วเนื่องจากได้ข้อมูลมาจากนิยายยังแอบหวั่น หญิงสาวที่มาคัดตัวตอนนี้เหลือเพียง 15 คน และนางได้เป็น 1 ในนั้น

“ต่อไปเป็นการทดสอบไหวพริบ บ่าวรับใช้ในจวนเว่ยอ๋องแห่งนี้มิใช่ผู้ใดจะมาเป็นก็ได้ เพราะนอกจากค่าตอบแทนสูงแล้ว คนทางบ้านเจ้ายังได้รับการคุ้มครองจากจวนเว่ยอ๋องแห่งนี้ด้วย”

สิ้นเสียงแม่นมเหม่ย หญิงสาวก็แสดงออกถึงความดีใจ และนี้คืออีกสาเหตุที่นางเลือกมาเป็นบ่าวรับใช้ที่นี้ไม่ใช่ว่าสกุลเฉินเกรงกลัวต่อจวนเว่ยอ๋องแต่เพราะจวนเว่ยอ๋องสามารถคุ้มครองท่านพ่อท่านแม่ที่อาศัยอยู่ที่เรือนได้ หากว่าจวนสกุลเฉินจะไปทักถามหาความภายหลัง การคัดเลือกรอบนี้ดำเนินการมาเกือบ 1 ชั่วยาม จนในที่สุดก็สิ้นสุดลง แต่ผลที่ออกมานั้นกลับไม่มีรายชื่อของหลี่ซิ่วอิงที่ผ่านการคัดเลือก ดวงตางามหม่นลงด้วยความผิดหวัง นางที่เตรียมตัวมาดีแล้วแท้ๆ กลับไม่ผ่านการคัดเลือกเช่นนั้นหรือ

“แม่นมเหม่ย ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเหตุใดกันถึงข้าไม่ผ่านการคัดเลือก”

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อผู้คนเริ่มทยอยเดินออกไปกันแล้ว อย่างไรวันนี้นางก็ต้องได้งานนี้

“เจ้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของเรือน ที่บ้านก็นับว่ามิได้ยากจนขนาดต้องขายตัวมาเพื่อเป็นบ่าว อีกทั้งความสามรถเจ้าก็…มิได้ไม่มี หากเจ้าอยู่นอกจวนเว่ยอ๋องเกรงว่า ภายภาคหน้าเจ้าจะดีกว่าอยู่ที่นี่”

“เรียนแม่นมเหม่ยตามตรง ที่ข้ามาเป็นบ่าวที่จวนเว่ยอ๋องเพราะข้าถูกจับให้ออกเรือน”

“ถูกจับให้ออกเรือนหรือ”

“เจ้าค่ะ จวนสกุลเฉินอยากได้ข้าเพื่อเป็นอนุในการมอบทายาทแก่บุตรชายของเขา”

“ก็ดีมิใช่หรือ หากเจ้าเป็นถึงอนุจวนสกุลเฉิน เจ้าเองก็สบายไปด้วยมิต้องมาทำงานเป็นบ่าวรับใช้เช่นนี้”

“นั้นมิใช่สิ่งที่ข้าต้องการเจ้าค่ะ”

“…”

“ในยุคนี้…ไม่สิ! ข้าหมายถึงเป็นอนุมิได้ผิดหากมีใจและวาสนาต่อกัน หากแต่ข้านั้นไม่มีทั้งใจ และไม่อาจจะเป็นผู้มอบทายาทให้ผู้ใดด้วย ข้าหวังเพียงชีวิตนี้ได้เลือกเส้นทางให้ตนเอง ใช้ชีวิตกลืนกินไปกับกำแพงจวนเว่ยอ๋อง ทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ผิดต่อผู้ใดและไม่ผิดต่อข้าเป็นพอเจ้าค่ะ”

“ข้ารับเจ้า”

เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นหลังหญิงสาวเอ่ยจบ ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งปรากฏ

“เว่ยอ๋อง”

ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นร่วมถึงหญิงสาวเอ่ยพร้อมย่อกายเคารพ นางไม่กล้าแม้แต่เงยหน้ามอง ทำได้เพียงก้มหน้าลงและเบี่ยงตัวหลบไปทางอื่น ถึงแม้นางจะเตรียมใจไว้แล้วหากต้องมาเป็นบ่าวอยู่ที่จวนนี้ อย่างไรเสียนางเองก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาเข้าสักวัน สิ่งที่นางต้องการคือไม่อยากให้เขาจำนางได้แม้แต่หน้าตา แค่ทำตัวกลืนกินเข้ากับกำแพงจวนอย่างที่พึ่งเอ่ยไป แต่ใครจะจะคิดว่าวันแรกที่ย่างกายเข้ามาในจวนแห่งนี้ก็พบเขาเข้าเสีย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel